xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส่งเสริมฯถกช่วยรายย่อย ‘ปิกนิก’วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน – สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เตรียมประชุมหารือแนวทางปกป้องสิทธิผู้ถือหุ้น “ปิคนิคฯ” วันนี้ หลังสำนักงานก.ล.ต. กล่าวโทษ “สุริยา ลาภวิสุทธิสิน” พร้อมพวกรวม 12 คน ฐานทุจริตยักยอกทรัพย์ ขณะที่นายกสมาคมนักลงทุนรายย่อย เผยจับมือตลาดหลักทรัพย์ฯ – ก.ล.ต.ฟ้องคดี “SECC” เรียบร้อยแล้ว ด้านคดีใบหุ้นปูนใหญ่ปลอม ทนายความผู้เสียหายระดมรายย่อยร่วมประชุม 25 มี.ค.นี้ หวังเสียงโหวตให้บอร์ดแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นในกรณีพนักงานทุจริต
นายวิชัย พูลวรลักษณ์ นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับกรณีของบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNIหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการกล่าวโทษผู้บริหารพร้อมพวกร่วมกันยักยอกทรัพย์บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WG ซึ่งเป็นบริษัทย่อย (PICNI ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 100%)
โดยสำนักงานก.ล.ต. ได้กล่าวโทษ นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน พร้อมทั้งกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ ปิกนิกฯ บริษัท สีลมแพลนเนอร์ จำกัด บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด และผู้เกี่ยวข้องรวม 12 ราย กรณีร่วมกันทุจริต ยักยอกเงิน และหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการประชุมในวันนี้ (17 มี.ค.) จะพิจารณาถึงรายละเอียดว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรได้บ้าง เพื่อที่ปกป้องดูแลและคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยของปิกนิกฯ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการดำเนินการฟ้องร้องเพื่อดูแลปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างไร
ส่วนกรณีของ บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC นั้น นายวิชัย กล่าวว่า ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ได้มีการยื่นฟ้องศาลแล้ว แต่เป็นการฟ้องหมู่ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานก.ล.ต. ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการของศาล ดังนั้นจึงต้องรอให้ศาลเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดต่อไป
ทั้งนี้ กรณีของ SECC นั้น ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ยังไม่ได้มีการระบุวงเงินที่จะเรียกร้องความเสียหาย เพราะจะต้องรอกระบวนสืบสวนว่าจะสามารถฟ้องได้ในวงเงินเท่าไร ถึงแม้จะทราบว่ามูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น 1,000 ล้านบบาทแล้ว
“ในการฟ้องกรณี SECC นั้น สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยไม่ได้ฟ้องตามลำพัง เพราะไม่สามารถที่จะหาหลักฐานได้เพียงคนเดียว จึงได้มีการฟ้องหมู่ร่วมกับทางตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงานก.ล.ต. เพื่อที่จะได้มีการหาหลักฐานต่างๆ ได้จากหลายแหล่ง โดยขณะนี้ได้ยื่นฟ้องศาลไปแล้ว ซึ่งมูลค่าวงเงินที่ฟ้องไปนั้นยังไม่ระบุต้องรอกระบวนการสอบสวนก่อน แม้เรารู้ว่าความเสียหลายเป็นระดับพันล้านบาท” นายวิชัย กล่าว
สำหรับคดียักยอกทรัพย์ของบมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PICNI สืบเนื่องจากการตรวจสอบของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้พบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า นายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ในฐานะผู้สั่งการ ร่วมกับกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ PICNI 3 ราย คือ นายสุเทพ อัคควุฒิไกร นายภานุวรรษ เลิศวิเศษ และนางสาวศศิธรวุฒิรุ่งเรืองสกุล
รวมทั้งบริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด หรือ AMC นางวันดี โตเจริญ (กรรมการ AMC) นางสาวลักขณา แสวงหา (กรรมการ AMC) บริษัท สีลมแพลนเนอร์ จำกัด นายสนทยา น้อยเจริญ นายธรรมนูญ ทองลือ หม่อมหลวงชัยภัทร ชยางกูร และนายทนงศักดิ์ ศรีทองคำ ทำการทุจริต ยักยอกเงิน และหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ WG ทำให้ปิคนิคฯ เสียหาย
ขณะเดียวกัน สำนักงานก.ล.ต. ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของบุคคลที่ถูกกล่าวโทษดังกล่าวทุกราย ซึ่งรวมถึงหุ้นของบริษัทเวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัดที่ถืออยู่ในนามบุคคลดังกล่าว รวมทั้งร้องต่อศาลอาญาให้มีคำสั่งห้ามบุคคลที่ถูกกล่าวโทษเดินทางออกนอกราชอาณาจักรด้วย

***ระดมรายย่อยร่วมประชุมหุ้นปูนใหญ่
ด้านความคืบหน้าคดีใบหุ้นปลอมของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC นั้น ล่าสุดวานนี้ (16 มี.ค.) นายพิบูลย์ศักดิ์ สุขพงษ์ ทนายความกองมรดกของ นายวรรโณทัย อมาตยกุล ผู้เสียหายจากหุ้นที่นายประพันธ์ ชูเมือง พนักงานปูนซิเมนต์ไทย ทุจริตและนำออกไปขาย ว่า ขณะนี้พบหุ้นที่นายประพันธ์นำไปขายเหลืออยู่ 5,000 หุ้น จึงได้เดินทางมาแจ้งบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) และประสานกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ขอความร่วมมือไม่ให้มีการขายหุ้นดังกล่าวออกมา เพื่อที่จะสืบสวนต่อไปว่าบุคคลดังกล่าวได้หุ้นมาอย่างไร
ด้านการดำเนินคดีนั้น ขณะนี้เจ้าพนักงานสอบสวนกองปราบได้สอบพยานไปแล้ว คือ พนักงานของSCC จำนวน 3 ราย และจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 2 ราย ในอีก 1-2 สัปดาห์นี้ และได้มีการสอบพนักงานตลาดหลักทรัพย์ฯ 3 ราย ขณะที่มีการสอบปากคำบริษัทหลักทรัพย์ 2 แห่ง คือ บล.เกียรตินาคิน และบล.ทิสโก้
พร้อมกันนี้ ผู้เสียหายได้ทำหนังสือถึง SCC ที่จะขอใช้สิทธิผู้ถือหุ้นเต็มจำนวน 670,000 หุ้น ในการประชุมผู้ถือหุ้น แต่บริษัทได้ซึ่งทาง SCC ได้แจ้งเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้ปฏิเสธให้กองมรดกเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีของ SCC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 มี.ค. ที่จะถึงนี้ โดยให้เหตุผลว่าหุ้นที่นายประพันธ์ ชูเมืองพนักงานของ SCC ลักและปลอมใบหุ้นไปได้ถูกขายออกไปในตลาดหุ้นและนอกตลาดแล้ว จึงไม่ใช่ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมอีกต่อไป
ทั้งนี้ส่วนผู้เสียหาก็จะยังคงเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้นแต่ในนามส่วนตัวของนายวรรโณทัย ยังถืออยู่ กว่า 2,000 หุ้น และในนามของนายเกียรติพงศ์ อมาตรยกุล 6,000 หุ้น เพื่อที่จะเข้าไปใช้สิทธิร่วมประชุมผู้ถือหุ้นและจะเสนอเพิ่มเติมในวาระอื่น ๆ เพื่อขอทราบแนวทางของคณะกรรมการSCCในเรื่องการดูแลลผู้ถือหุ้นอย่างไรจากกรณีที่พนักงานของSCCและจะมีการดำเนินการจัดการได้ดีพออย่างไรและในระยะเวลาที่รวดเร็วแค่ไหน
ซึ่งการเสนอให้เป็นวาระได้นั้นจะต้องได้รับคะแนนเสียง 1 ใน 3 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมเป็นอย่างน้อย
ดังนั้นในวันที่ 16 มี.ค. ได้ยื่นหนังสือไปถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) อาทิเช่น สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ถือสัดส่วน 30% บริษัท ทุนลดาวัลย์ 1.94% สำนักงานประกันสังคม 1.52 % เป็นต้น เพื่อให้ร่วมลงมติให้เพิ่มวาระดังกล่าว
นอกจากนี้ ได้ติดต่อไปยังสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยช่วยกระจายข่าวไปยังผู้ถือหุ้นรายบุคคลของSCC ให้เข้าร่วมประชุมและช่วยลงมติผลักดันเรื่องนี้ถูกบรรจุในวาระอื่น ๆ ซึ่งทางสมาคมจะให้คำตอบกลับมาว่าจะให้การสนับสนุนหรือไม่ภายในสัปดาห์นี้ จากเรื่องเข้าไปยังคณะกรรมการสมาคมฯแล้ว
อย่างไรก็ตามการหากไม่ได้สามารถบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระอื่นๆได้นั้น มี ทางกรรมการของSCC
เพียงแต่ชี้แจงเพื่อให้ทราบเท่านั้น แต่หากสามารถผลักดันให้เป็นวาระอื่นๆได้ จะต้องมีการลงคะแนนเสียง และทางคณะกรรมการจะต้องชี้แจงให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ อย่างน้อยจะได้ทราบวิสัยทัศน์ของผู้บริหารSCC ด้วย และ
นอกจากนี้ภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นแล้วทางกองมรดกจะแถลงข่าวว่าจะมีการฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างไรบ้างในกรณีทุจริตหุ้นSCC
กำลังโหลดความคิดเห็น