ASTVผู้จัดการรายวัน-กรมการค้าต่างประเทศช่วยผู้ส่งออกฝ่าวิกฤต เตรียมเปิดศูนย์ให้ข้อมูลทำตลาดส่งออก นำร่องสินค้า 200 รายการ ให้ผู้ส่งออกใช้ค้นหาว่าจะส่งไปประเทศไหนดีที่สุด ได้ลดภาษีเท่าใด มีข้อจำกัดอะไรบ้าง และอยากส่งออกต้องผ่านขั้นตอนอะไร พร้อมแจ้งข้อมูลเตือนภัยมาตรการกีดกันการค้าล่วงหน้า เพื่อให้ปรับตัวได้ทัน คาดเริ่มเปิดใช้เป็นทางการเดือนพ.ค.นี้
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมเปิดตัวระบบข้อมูลมาตรการทางการค้าและการเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้า (Early Warning) ผ่านทางเว็บไซต์ www.dft.go.th ซึ่งภายในระบบจะประกอบด้วยข้อมูลของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา อาเซียน ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย และสินค้าที่ไทยส่งออกสูงสุด 200 รายการแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการวางแผนการค้าระหว่างประเทศ โดยจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนพฤษฎาคม 2552 นี้
ทั้งนี้ ภายใต้ระบบ จะประกอบด้วยกัน 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นระบบค้นหาข้อมูลอัตราภาษีทั้งภาษีภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ภาษีภายใต้ความตกลงเสรีทางการค้า (FTA) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กฎแหล่งกำเนิดสินค้า (ROOs) มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี (NTMs) และแบบฟอร์มหรือขั้นตอนที่ต้องใช้ในการส่งออก โดยวิธีการสืบค้นข้อมูลนั้นสะดวก รวดเร็ว เพียงผู้ประกอบการใส่ชื่อสินค้าหรือพิกัดศุลกากรที่ต้องการจะส่งออก ระบบจะแสดงข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยทั้งในเชิงรายประเทศและหลายประเทศพร้อมกัน
“ในส่วนนี้ จะเป็นการช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยในการบุกเจาะตลาดต่างประเทศ โดยสามารถคีย์รายชื่อสินค้าที่ตนเองผลิต และจะรู้ได้ทันทีว่าสินค้ารายการนั้นๆ มีประเทศใดบ้างให้สิทธิพิเศษทางภาษีนำเข้า สิทธิพิเศษนั้นอยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าอะไร มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการส่งออก โดยเฉพาะมาตรการที่มิใช่ภาษีอะไรบ้าง และสุดท้ายหากต้องการจะส่งออก ต้องปฏิบัติอย่างไร”นางอภิรดีกล่าว
สำหรับส่วนที่สอง จะเป็นส่วนของระบบเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้า (Early Warning) ที่จะแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับกฎระเบียบ มาตรการที่ประเทศต่างๆ กำลังจะนำออกมาบังคับใช้ รวมถึงร่างกฎระเบียบที่ประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกจะประกาศใช้หรือแก้ไขปรับปรุงใหม่ และอยู่ระหว่างการเวียนให้ประเทศสมาชิกให้ข้อคิดเห็น (Notification) โดยการเตือนภัยจะแจ้งทั้งรายสินค้า และรายประเทศ
นอกจากนี้ ระบบการเตือนภัยที่จัดทำขึ้น ยังเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถแจ้งและร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่ประสบ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาข้อกีดกันทางการค้าเพื่อหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที อีกทั้งกรมฯมีนโยบายที่จะแจ้งข้อมูลการเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้าให้แก่สมาชิกที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกับกรมการค้าต่างประเทศ โดยสมาชิกสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโทรศัพท์มือถือ
“เมื่อเปิดใช้งานระบบดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม จะเป็นก้าวหนึ่งในการช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถทดลองใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ www.dft.go.th หรือสอบถามรายะละเอียดได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385”นางอภิรดีกล่าว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมเปิดตัวระบบข้อมูลมาตรการทางการค้าและการเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้า (Early Warning) ผ่านทางเว็บไซต์ www.dft.go.th ซึ่งภายในระบบจะประกอบด้วยข้อมูลของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา อาเซียน ญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย และสินค้าที่ไทยส่งออกสูงสุด 200 รายการแรกเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการวางแผนการค้าระหว่างประเทศ โดยจะเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนพฤษฎาคม 2552 นี้
ทั้งนี้ ภายใต้ระบบ จะประกอบด้วยกัน 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะเป็นระบบค้นหาข้อมูลอัตราภาษีทั้งภาษีภายใต้สิทธิพิเศษทางการค้า (GSP) ภาษีภายใต้ความตกลงเสรีทางการค้า (FTA) และภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กฎแหล่งกำเนิดสินค้า (ROOs) มาตรการทางการค้าที่มิใช่ภาษี (NTMs) และแบบฟอร์มหรือขั้นตอนที่ต้องใช้ในการส่งออก โดยวิธีการสืบค้นข้อมูลนั้นสะดวก รวดเร็ว เพียงผู้ประกอบการใส่ชื่อสินค้าหรือพิกัดศุลกากรที่ต้องการจะส่งออก ระบบจะแสดงข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยทั้งในเชิงรายประเทศและหลายประเทศพร้อมกัน
“ในส่วนนี้ จะเป็นการช่วยเหลือผู้ส่งออกไทยในการบุกเจาะตลาดต่างประเทศ โดยสามารถคีย์รายชื่อสินค้าที่ตนเองผลิต และจะรู้ได้ทันทีว่าสินค้ารายการนั้นๆ มีประเทศใดบ้างให้สิทธิพิเศษทางภาษีนำเข้า สิทธิพิเศษนั้นอยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าอะไร มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดในการส่งออก โดยเฉพาะมาตรการที่มิใช่ภาษีอะไรบ้าง และสุดท้ายหากต้องการจะส่งออก ต้องปฏิบัติอย่างไร”นางอภิรดีกล่าว
สำหรับส่วนที่สอง จะเป็นส่วนของระบบเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้า (Early Warning) ที่จะแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบข้อมูลและข่าวสารเกี่ยวกับกฎระเบียบ มาตรการที่ประเทศต่างๆ กำลังจะนำออกมาบังคับใช้ รวมถึงร่างกฎระเบียบที่ประเทศสมาชิกองค์การการค้าโลกจะประกาศใช้หรือแก้ไขปรับปรุงใหม่ และอยู่ระหว่างการเวียนให้ประเทศสมาชิกให้ข้อคิดเห็น (Notification) โดยการเตือนภัยจะแจ้งทั้งรายสินค้า และรายประเทศ
นอกจากนี้ ระบบการเตือนภัยที่จัดทำขึ้น ยังเปิดให้ผู้ประกอบการสามารถแจ้งและร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่ประสบ ผ่านศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาข้อกีดกันทางการค้าเพื่อหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที อีกทั้งกรมฯมีนโยบายที่จะแจ้งข้อมูลการเตือนภัยล่วงหน้าทางการค้าให้แก่สมาชิกที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกับกรมการค้าต่างประเทศ โดยสมาชิกสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ทั้งทางคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโทรศัพท์มือถือ
“เมื่อเปิดใช้งานระบบดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคม จะเป็นก้าวหนึ่งในการช่วยเหลือและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถทดลองใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ www.dft.go.th หรือสอบถามรายะละเอียดได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385”นางอภิรดีกล่าว
