xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมฯของบฝึกอบรมชะลอเลิกจ้างร้องรัฐเว้นสรรพสามิตแอร์-แบตเตอรี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – สมาคมฯไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เตรียมชงก.อุตสาหกรรมของบสนับสนุนเพื่อใช้ในการฝึกอบรมแรงงาน 1-1.5 หมื่นคน เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไว้ การันตีไม่มีการปลดแรงงาน 2เท่าของแรงงานที่อบรมไว้ในช่วง 6เดือน ขณะเดียวกันเรียกร้องรัฐยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตเครื่องปรับอากาศและแบตเตอรี่ หวังดึงสินค้าเสียภาษีเข้าสู่ระบบ

นายขัติยา ไกรกาญจน์ ประธานกลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางสมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ไทยเตรียมทำหนังสือถึงกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้มาช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมแรงงานในอุตสาหกรรมนี้จำนวน1-1.5 หมื่นคน โดยจะขอสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐวงเงิน 130-150 ล้านบาทเพื่อรักษาการจ้างงานไว้

สืบเนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวได้รับผลกระ ทบค่อนข้างแรงจากวิกฤตการเงิน ทำให้คำสั่งซื้อสินค้าลดลงอย่างหนัก โดยตัวเลขการส่งออกอุตสาหกรรมดังกล่าวในเดือนม.ค. ลดลงไปแล้ว 36 % หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปจะมีผลกระทบต่อการว่าจ้างแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ที่มีแรงงานรวมประมาณ 8 แสนคน

“ สมาคมฯไฟฟ้าจะขอความช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ก.อุตสาหกรรม ให้ช่วยเหลือการจ้างงานโดยจะของบประมาณเพื่อใช้ในการฝึกอบรมแรงงานจำนวน 1-1.5 หมื่นคน โดยรับปากที่จะไม่มีการปลดแรงงานในอุตฯนี้จำนวน 2 เท่าของแรงงานที่ได้ฝึกอบรมเป็นเวลา 6 เดือน “

นอกจากนี้ ส.อ.ท.จะยื่นหนังสือกระทรวงอุตสาหกรรมให้เข้ามาช่วยเหลือยกเว้นการจัดเก็บอัตราภาษีสรรพสามิตในกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ เครื่องปรับอากาศ และแบตเตอรี่ เนื่องจากสินค้าดังกล่าวไม่จัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และมีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมทั้ง ภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับสินค้าที่รับจ้างเหมาช่วง เพื่อลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากอุตสาหกรรมนี้มีการว่าจ้างเหมาช่วงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงแข่งขันลำบาก

ที่ผ่านมา มีสินเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากที่หลีกเลี่ยงการชำระภาษีสรรพสามิต ทำให้ภาครัฐไม่สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้ หากมีการยกเว้นภาษีสรรพสามิตเชื่อว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เคยหลีกเลี่ยงภาษีก็จะกลับมาซื้อขายผ่านระบบ ทำให้ภาครัฐจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้

นายขัติยา กล่าวต่อไปว่า การส่งออกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเดือนก.พ.นี้น่าจะยังติดลบอยู่แต่ไม่น่าจะต่ำกว่าเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดออร์เดอร์สินค้าน่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ ดังนั้นตัวเลขการส่งออกทั้งปี 2552 น่าจะขยายตัวลดลง 10-20% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.64 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบจากปี2551

“หากตัวเลขการส่งออกก.พ.นี้ลดลง 30%ก็ถือว่าการส่งออกเริ่มนิ่งแล้ว มองว่าถึงจุดต่ำสุด เพราะเมื่อเทียบกับม.ค.ที่ผ่านมา ส่งออกลดลง 36 % แต่การส่งออกไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทยยังดีเมื่อเทียบกับเกาหลีที่ยอดส่งออกม.ค.ลดลง 50%”

ส่วนค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอยู่ที่ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐนั้น มีส่วนช่วยทำให้ราคาสินค้าส่งออกถูกลง แต่ทั้งนี้ต้องคำนึกว่าการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งนั้นมีความเหลื่อมล้ำมากน้อยแค่ไหน หากกประเทศคู่แข่งอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์มีค่าเงินที่อ่อนเช่นกันก็ไม่มีความได้เปรียบแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น