xs
xsm
sm
md
lg

รายงาน:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจโลกกำลังตกต่ำอย่างหนัก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนของต่างชาติ ใน ทั่วโลก ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจะมีการการปลดพนักงานหลายพันคนในอุตสาหกรรมหนัก ทำให้เกิดมีปัญหาการว่างงานขึ้น ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้สินค้า อุปโภคบริโภคมีการชะลอตัว การจับจ่ายใช้สอยลดลง ขณะที่การส่งออกของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็ส่อเค้าว่าจะเกิดวิกฤตการส่งออก เป้าหมายหรืออัตราการเติบโตที่วางไว้ไม่เป็นไปตามแผนเพราะปริมาณและมูลค่าการส่งออกลดลงทุกประเทศ ซึ่งรัฐบาลของแต่ละประเทศต่างหามาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอย เพราะต้องการให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงิน และเกิดการจ้างงานเกิดขึ้น

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยนั้นนับว่าได้รับผลกระทบที่รุนแรงและถดถอยอย่างหนักกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยการประมาณการของสภาพัฒน์ คาดว่าจีดีพีปีนี้จะลดลงอีก 4.25-5.16% จากการประมาณการเดิมในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขการลงทุนใหม่ของภาคเอกชนและภาครัฐมีการหดตัว 1.30% และ 10.20% การลงทุนใหม่โดยรวมหดตัว 3.29% yoy ในไตรมาส 4/2551 ซึ่งถือว่าเป็นการหดตัวหนักที่สุดรายไตรมาส นับแต่ไตรมาส 1/2544 การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว 1.30% yoy และ 1.45% yoy ซึ่งคาดว่าการลงทุนของเอกชนในภาคอุตสาหกรรม ทั้งการก่อสร้างและการซื้ออุปกรณ์เครื่องจักรใหม่ และยังจะหดตัวต่อในหลายเดือนข้างหน้า เนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเหลือเพียง 50-60%

อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลไทยได้นำมาใช้ในเรื่อง การอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าทำให้ยอดสร้างบ้านใหม่มีเสถียรภาพ เนื่องจากได้แรงหนุนจากมาตรการลดภาษีของรับรวมถึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ขณะที่การลงทุนภาครัฐในไตรมาส 4/2551 หดตัวลง 10.20% yoy เนื่องจากการก่อสร้างลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน

ดังนั้น รัฐบาลจะต้องเร่งกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจในทุกรูปแบบ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์นั้นถือว่าเป็นอีกหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหาปากท้องและกระตุ้นในเกิดการลงทุนและเกิดความเชื่อของต่างชาติเพื่อดึงเม็ดเงินเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ยังมีความวิตกกังวลกับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับการลงทุนในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา เช่น กฎหมายการลงทุนของธุรกิจต่างชาติ ความไม่แน่นอนทางการเมือง

ล่าสุดนายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำลังเดินหน้าเพื่อพิจารณาทบทวนธุรกิจที่จะเปิดเสรีให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจ ตามบัญชีแนบท้าย 3 (ธุรกิจที่คนไทยไม่พร้อมรับการแข่งขัน) ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในประกอบธุรกิจ และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

โดยให้มีการทบทวนธุรกิจตามบัญชี 3 จะมีการพิจารณาข้อเสนอของสำนักวิจัยเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) ที่กรมฯ ได้ว่าจ้างให้ทำการศึกษาธุรกิจที่มีความพร้อมในการเปิดเสรี 17 ธุรกิจ ได้แก่ 1.การทำกิจการบริการทางวิศวกรรม 2.การก่อสร้าง 3.การทำกิจการ นายหน้าหรือตัวแทน 4.การค้าปลีก 5.การค้าส่ง 6.การทำกิจการโฆษณา 7.การทำกิจการโรงแรม 8.การขายอาหารและเครื่องดื่ม 9.การบริการด้านคอมพิวเตอร์ 10.การบริหารงานควบคุมคลังสินค้าและบริหารงานขนส่งภายใน 11.การบริหารให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการจัดการ 12.ธุรกิจโรงเรียน 13.ธุรกิจด้านบันเทิงหรือโรงมหรสพ 14.การขายทอดตลาด 15.การทำกิจการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช 16.การค้าภายในผลิตภัณฑ์หรือผลิตผลทางการเกษตรพื้นเมือง และ 17.ธุรกิจโรงรับจำนำ

ดังนั้น กฎหมายอะไรที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนรัฐควรเร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ นับตั้งแต่การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจ เพื่อให้เกิดความ คล่องตัวในแต่ละธุรกิจ เพราะหากกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เพียงหลักเกณฑ์เดียว จะทำให้ทุกธุรกิจอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันหมด ทำให้ เป็นอุปสรรคต่อการเข้ามาลงทุน รวมทั้งการปรับปรุงเงื่อนไขในการ เข้ามาประกอบธุรกิจ และการขออนุญาตให้กระทำได้ง่ายขึ้น คล่อง ตัวขึ้น แต่ทั้งนี้ จะยึดหลักการพิจารณาที่ว่าธุรกิจที่จะเปิดเสรี จะต้อง เป็นธุรกิจที่คนไทยแข่งขันได้แล้ว ส่วนที่ยังแข่งขันไม่ได้ จะยังไม่มีการเปิดเสรี

ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างชาติหันกลับมาสนใจ การลงทุนในประเทศไทยอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่มี ความชัดเจนในหลายเรื่องทั้งด้านการค้า การลงทุน ทำให้ต่างชาติ มีการชะลอการลงทุนออกไป เพื่อรอท่าทีอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกที่กำลังตกต่ำทั่วโลกต่างชะลอการลงทุน เมื่อนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในยุคที่ผู้บริหารมีวิชันที่ดีในการจัดการ และสอดคล้องกับภาวะวิกฤตที่ต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์การลงทุน ทำให้มีความชัดเจนในด้านกฎหมายการลงทุน ก็จะทำให้สามารถดึงเม็ดเงินลงทุนต่างให้กลับมาในไทย อีกครั้ง ซึ่งต้องยอมว่าในภูมิภาคเอเชียนั้นไทยนั้นเป็นประเทศหนึ่งที่มีความน่าลงทุนกว่าอีกหลายประเทศเพื่อนบ้าน และต้องยอมรับว่าแหล่งทุนจากต่างประเทศนั้นมีความสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจคนไทยต้องอยู่ได้ภายใต้เงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น