xs
xsm
sm
md
lg

แฉเครื่องปั๊มซีดีของกลางล่องหน เอกชนสหรัฐฯยื่น คงPWLไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-แฉเครื่องจักรผลิตซีดีเถื่อนของกลางที่ได้จากการบุกทลายโรงงานนับ 10 ครั้งในรอบ 10 ปี มูลค่าหลาย 100 ล้านบาทล่องหน แถมพบถูกนำกลับมาปั๊มซีดีเถื่อนป้อนตลาด “อลงกรณ์”เต้นฝาง ลั่นหากใครมีข้อมูลแจ้งเข้ามาได้ทันที จะจัดการขั้นเด็ดขาด พร้อมสั่งฟันตำรวจนอกแถวตบทรัพย์ร้านขายของเถื่อน “ยูทู”วงร็อคชื่อดังจากอังกฤษเตรียมมอบของที่ระลึก “มาร์ค” ขอบคุณช่วยปราบปราบ เอกชนสหรัฐฯ ร้อง USTR คงบัญชี PWL ไทย บางรายให้ปรับเพิ่มบัญชีอีก

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า นับตั้งแต่มีการจับกุมโรงงานผลิตซีดีเถื่อนตั้งแต่ปี 2542 จนถึงปัจจุบัน มีการตรวจค้นจับกุมและยึดของกลางอันมีลักษณะเป็นเครื่องปั๊ม เครื่องฉีดสี สำหรับการผลิตซีดีเถื่อนรวมแล้วประมาณ 10 ครั้ง ซึ่งของกลางทั้งหมดเป็นเครื่องจักรที่มีลักษณะใหญ่โต เคลื่อนย้ายลำบาก ทำให้ต้องมีการอายัดของกลางไว้ในที่เกิดเหตุ แต่บางครั้งก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเคลื่อนย้ายของกลางไปเก็บไว้ที่คลังสินค้าองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (รสพ.) อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ทั้งนี้ ของกลางที่ทำการจับกุมนั้น คิดเป็นมูลค่ารวมกันแล้วหลาย 100 ล้านบาท เพราะเครื่องจักรแต่ละเครื่องมีมูลค่าตั้งแต่ 10 ล้านบาท ไปจนถึง 50 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้เครื่องจักรที่ได้อายัดไว้ในที่เกิดเหตุนั้น ได้รับแจ้งจากภาคเอกชนว่าส่วนใหญ่ได้ถูกถอดและนำไปประกอบเป็นเครื่องจักรผลิตซีดีเถื่อนในสถานที่อื่นแทน และในส่วนที่นำไปเก็บไว้ในคลังสินค้ารสพ. ก็สูญหายไป และคาดว่าจะถูกนำกลับไปใช้ในการผลิตซีดีเถื่อนเช่นเดียวกัน

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากพบว่ามีการนำเอาของกลางที่ได้จากการจับกุมกลับไปผลิตซีดีเถื่อนใหม่ และใครมีข้อมูลรายละเอียดการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ขอให้แจ้งเข้ามาที่ตนได้ทันที ถ้าพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด เพราะการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ต้องทำอย่างโปร่งใส เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญอย่างมาก

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า มีชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจยศพ.ต.อ. สังกัดกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) พร้อมพรรคพวกประมาณ 10 คน ได้แสดงตนว่าเป็นชุดปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้การกำกับดูแลของตน ต่อร้านค้าบริเวณถนนเสือป่า ใกล้ๆ เสือป่าพลาซ่า และขอตรวจค้นภายในร้านค้าโดยไม่แสดงหมายค้น และไม่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ พร้อมปิดประตู และเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าของร้านเหล่านั้น ซึ่งมี 3 ร้านจ่ายเงินให้ โดย 2 ร้านแรกจ่ายให้ร้านละ 200,000 บาท ส่วนอีก 1 ร้านจ่ายให้ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 500,000 บาท ซึ่งได้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และจะขอให้สำนักงานป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการขั้นต่อไป

พร้อมกันนั้น ได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.สตช.) รองผู้อำนวยการกอ.รมน.เพื่อให้กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการละเมิด ในการออกตรวจค้นต้องแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ได้ หากพบว่า เจ้าหน้าที่คนใดเรียกรับผลประโยชน์ ให้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด นอกจากนี้ ยังได้ขอให้ผบ.สตช.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจนอกรีต ที่นำของกลางที่ยึดได้จากการจับกุมผู้กระทำผิด หรือผู้ขายสินค้าละเมิดมาขายต่อ ซึ่งเป็นการทำให้สินค้าละเมิดกลับเข้ามาสู่ท้องตลาดอีก

อย่างไรก็ตาม ได้รับแจ้งจากตัวแทนเจ้าของสิทธิ์ของวง “ยูทู” ศิลปินจากอังกฤษ และเป็นวงโปรดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งวงในเร็วๆ นี้ วงยูทู จะจัดทำเสื้อครบรอบวันก่อตั้งวง และจะให้ตัวแทนเจ้าของสิทธิ์ในไทยนำมามอบให้กับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 2 มี.ค.นี้ เพื่อขอบคุณที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจัง

นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนสหรัฐฯ ได้แจ้งความเห็นด้านการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทยให้กับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แล้ว โดยกลุ่มเคเบิลทีวี (CASBAA) หนังสือ ซอฟต์แวร์ (BSA) และภาพยนตร์ (MPA) ได้ขอให้คงไทยอยู่ที่บัญชีประเทศที่ถูกจับตองมองเป็นพิเศษ (PWL) เช่นเดิม ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมยาของสหรัฐฯ (PhRMA) ขอให้เพิ่มเป็นบัญชีประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงที่สุด (PFC)

“ข้อมูลที่เอกชนสหรัฐฯ ส่งให้กับ USTR ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลปี 2551 ยังไม่รวมข้อมูลที่รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเข้มงวดตอนนี้ ซึ่งนายอลงกรณ์ได้มอบหมายให้เดินทางไปพบกับ USTR และทำความเข้าใจกับภาคเอกชนสหรัฐฯ ในช่วงต้นเดือนมี.ค. ก่อนที่สหรัฐฯ จะประกาศผลการตัดสินในเดือนเม.ย.นี้ แต่ยอมรับว่าหนักใจ ที่เอกชนสหรัฐฯ เสนอต่อรัฐบาลแบบนั้น”นางพวงรัตน์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น