xs
xsm
sm
md
lg

ยอดใช้ไฟก.พ.วูบต่อจับตาเม.ย.วัดสัญญาณศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- กฟผ.ทำใจไตรมาสแรกปีนี้การใช้ไฟลดลงหลังม.ค.ต่ำสุดลดลงถึง 13%ขณะที่ครึ่งเดือนแรกของก.พ.ลดลง 10% หวังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นจากมาตรการกระตุ้นศก. แต่ต้องติดตามเม.ย.ที่จะเป็นช่วงใช้ไฟสูงสุดของทุกปีว่าจะมีทิศทางอย่างไร เผยพีดีพีต้องปรับใหม่อีกกลางปียอมรับอาจต้องชะลอโครงการผลิตไฟฟ้าอีกระลอกหากจีดีพีประเมินใหม่ต่ำกว่าแผนเดิมที่คิดจากจีดีพี 2%

นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กฟผ.กำลังติดตามการใช้ไฟฟ้าอย่างใกล้ชิดเพื่อการบริหารจัดการผลิตไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อผู้บริโภคซึ่งเดือนม.ค.การใช้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 13% และเดือนก.พ.ช่วงครึ่งเดือนแรกลดลง 10% โดยมีแนวโน้มการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยส่งผลให้สำรองไฟฟ้าอยู่ระดับ 28-30% โดยเม.ย.นี้จะต้องติดตามการใช้ในช่วงความต้องการสูงสุดหรือพีคว่ามากน้อยเพียงใดซึ่งจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ชัดเจนถึงการใช้ไฟฟ้าภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง

“ไตรมาสแรกปีนี้เรามองแล้วว่าการใช้ไฟคงติดลบอยู่และก็คิดว่าม.ค.การใช้ไฟน่าจะแย่สุด ขณะนี้จึงพยายามเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำสุดอย่างโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่ใช้ถ่านหินมีต้นทุนต่ำปีนี้จะเดินเต็มที่ โรงไฟฟ้าพลังงานก็จะต้องดูพร้อมกับความต้องการของเกษตรกร ส่วนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนจะเดินน้อยสุดเช่นบางปะกงยูนิตที่ใช้น้ำมันเตาก็หยุดเดินเครื่องแล้ว ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมไม่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือเอฟทีงวดต่อไปก็น่าจะลดลงได้เพราะราคาก๊าซมีทิศทางที่ลดลงตามราคาน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือนก่อน”นายสมบัติกล่าว

ทั้งนี้ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีฉบับปรับปรุงใหม่นั้นมีการคำนวณความต้องการใช้ไฟตามอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ระดับ 2% ซึ่งจะทำให้กำไรของกฟผ.อยู่ระดับ 1.4-1.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามแผนพีดีพีจะต้องมีการปรับอีกรอบตามนโยบายกระทรวงพลังงานที่เบื้องต้นจะเรียกหารือในเร็วๆ นี้เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยคงจะต้องรอจีดีพีว่าจะมีทิศทางอย่างไรหากลดลงจากเดิมอีกเช่น 1% หรือ 0% ก็คงจะต้องชะลอการรับซื้อไฟฟ้าอีกครั้งส่วนจะเป็นโครงการใดคงจะต้องมาดูรายละเอียด ดังนั้นขณะนี้จึงทำให้โครงการเจรจาซื้อขายไฟฟ้าต่างประเทศทั้งหมดต้องชะลอออกไปจนกว่าพีดีพีใหม่จะชัดเจน

สำหรับการออกพันธบัตร(บอนด์)ล่าสุดได้ดำเนินการแล้วล็อตแรก 5,000 ล้านบาทและคาดว่าอีก 5,000 ล้านบาทจะออกอีกประมาณเดือนมี.ค.นี้ โดยทั้งปีกฟผ.มองเป้าหมายการออกบอนด์ไว้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่องโดยเฉพาะจากการแบกรับภาระค่าไฟฟ้าไว้ในปัจจุบัน 2.1 หมื่นล้านบาท

นายสมบัติยังได้กล่าวถึงการลงนามสัญญาโครงการจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านหินเหมืองแม่เมาะกับบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ และบริษัทสระบุรีถ่านหิน จำกัด ว่า กฟผ.ได้เปิดประกวดราคาด้วยวิธีการทางอีเล็กทรอนิกส์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 50 มีผู้เสนอราคาจำนวน 4 รายโดยกิจการร่วมค้าบ.เนาวรัตน์ฯและสระบุรีถ่านหินได้รับคัดเลือกในราคา 16,684,716,676 บาท ซึ่งจะดำเนินการในระยะเวลา 9 ปี โดยจะส่งผลให้โรงไฟฟ้าแม่เมาะมีถ่านหินป้อนเป็นเชื้อเพลิงการผลิตเพื่อความมั่นคงด้านไฟฟ้าของประเทศ

นายสุทธิพงษ์ เทพพิทักษ์ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิงกฟผ. กล่าวว่า กฟผ.ยังไม่คิดถอนใจเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนพีดีพีที่ให้กฟผ.ดำเนินการก่อสร้าง 4 แห่งโดยขณะนี้พยายามทำความเข้าใจกับชุมชนเพื่อให้ชุมชนมีความรู้และเข้าใจ รวมไปถึงการตัดสินใจต้องการโรงไฟฟ้าต้องมาจากชุมชนจึงจะดำเนินการ อย่างไรก็ตามกฟผ.มีแผนที่จะดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินต้นแบบที่ขณะนี้มีการลงพื้นที่ไประดับหนึ่งแล้วเช่น ที่เวียงแห และสะบ้าย้อยที่จะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กให้เหมาะสมกับปริมาณสำรองถ่านหินที่มีไม่มากหากเทียบกับแม่เมาะ
กำลังโหลดความคิดเห็น