xs
xsm
sm
md
lg

“JRO”ชูไทยฮับอาหารญี่ปุ่น40บริษัทปลาดิบจ่อคิวลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – รัฐบาลแดนปลาดิบ พลิกยุทธศาสตร์ลุยขยายธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นต่างแดน ทดแทนตลาดภายในประเทศหดตัว ผุดองค์กรเจอาร์โอดันธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นบุกทั่วโลก พร้อมดันไทยฮับการขยายธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในอาเซียน ระบุผู้ประกอบการ 30-40 ราย แห่ลงทุนในไทย หวังปี 2556 ปั๊มรายได้ส่งออกสินค้าเกษตร ประมง 1 ล้านล้านเยน  

วานนี้ (16 กพ.52) องค์กรส่งเสริมร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ (JRO) จัดสัมนา “สภาวะปัจจุบันและประเด็นปัญหาของอุตสาหกรรมผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น” เพื่อสร้างบทบาทและแก้วิกฤตเศรษฐกิจ และเร่งหามาตรการพัฒนาธุรกิจอาหารญี่ปุ่นไปทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย โดยมีผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น 250 รายร่วมงาน
นายมิตซูฮิโตะ เซ็นได ตัวแทนกระทรวงเกษตร ประมงและป่าไม้จากประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า จากวิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นอเมริกา ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก และสร้างผลกระทบการส่งออกสินค้าเกษตร ประมง ปี 2551 ของประเทศญี่ปุ่นไม่เติบโตเท่าที่ควร โดยการส่งออกสินค้าสินค้าเกษตร ประมง มูลค่า 4.3 แสนล้านเยน มีการเติบโต 9.7% ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2547-2550 เติบโต 10% อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นทางกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ จึงปรับยุทธศาสตร์ด้านการส่งออกใหม่ เพื่อผลักดันรายได้ในปี 2556 หรืออีก 4 ปี เพิ่มเป็น 1 ล้านล้านเยน ให้เป็นตามเป้าหมาย จากในปี 2549 มีรายได้ 3 แสนล้านเยน
ล่าสุดได้เร่งผลักดันการส่งออกด้วยการวางนโยบายในเชิงรุก การส่งเสริม พัฒนาและขยายการส่งออกผ่านทางร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ ด้วยการตั้งองค์กรเจอาร์โอ หรือ “ผู้ส่งเสริมร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ” เมื่อปี 2550  ให้เป็นผู้ดำเนินการให้คำปรึกษา ทั้งการส่งออกเกษตรและประมง ปัจจุบันมีสำนักงาน 10 ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ จีน สวิตเซอร์แลนด์ ไทย เป็นต้น และล่าสุดวางแผนเปิดเพิ่ม สเปน อิตาลี เยอรมัน ฮ่องกง เป็นต้น
ทั้งนี้ได้วางแผนขยายธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นให้ข้อมูลของวัตถุดิบจากเกษตรและประมงมีคุณค่าและดีต่อสุขภาพ ให้แพร่หลายผ่านทางร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ หลังจากการดำเนินการเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้รับตอบรับเท่าที่ควร เพราะไม่มีการแนะนำเรื่องวัตถุดิบ
**ร้านอาหารญี่ปุ่นซบเบนเข็มลุยตปท.***
นายอะซะอิ ยาสุมาซะ ตัวแทนเจอาร์โอ จากประเทศไทย กล่าวว่า ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านอาหารญี่ปุ่นสัดส่วน 90% แต่แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากจำนวนประชากรผู้สูงอายุเริ่มมีเพิ่มขึ้น แต่อัตราการเกิดเด็กใหม่ลดลง ทำให้ผู้ประกอบการต้องการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ  ซึ่งปัจจุบันมี 2.5 หมื่นแห่ง และหากรวมซูชิในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆ กว่า 3 หมื่นแห่ง  
“มีผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นต้องการเข้าดำเนินธุรกิจต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่มีปัญหาด้านการตลาด ราคาวัตถุดิบ และด้านการจัดการ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอยทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทย องค์กรฯ มีความกังวลด้านการเมืองที่ขาดเสถียรภาพ”
สำหรับองค์กรเจอาร์โอ การสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น ในอนาคตอาจมีการรวมตัวกันระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในการซื้อวัตถุดิบนำเข้าในราคาที่ถูกลง ตลอดจนการคิดเมนูใหม่ผสมผสานระหว่างอาหารไทยกับญี่ปุ่น เพื่อขยายฐานลูกค้า และประการสำคัญ การสร้างเครือขายผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วโลก
**ดันไทยเป็นฮับอาหารญี่ปุ่น**
นายสุมาซะ กล่าวว่า องค์กรเจอาร์โอ ได้วางเป้าหมายประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการส่งเสริมและการขยายตัวธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในอาเซียนภายใน 3 ปี เพราะมีโรงงานวัตถุดิบมากมาย อาทิ ซอสของญี่ปุ่น ข้าว ปลา เป็นต้น ที่สามารถผลิตได้ในไทย จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น 30-40 บริษัท ต้องการเข้าลงทุนขยายธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย เพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพ คนไทยนิยมกินอาหารญี่ปุ่นติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก โดยอันดับหนึ่งเป็นอเมริกา
ปัจจุบันไทยมีการนำเข้าวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารญี่ปุ่น 10-15% อาทิ ปลาและเหล้าสาเก  ปีนี้คาดว่าธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นโต 20% จากปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น 500 บริษัท หรือกว่า 1,000 สาขา แบ่งเป็น ผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น 50% และผู้ประกอบการไทย 50% จากปีที่ผ่านมาทั้งหมด 750 สาขา
สำหรับบทบาทขององค์กรเจอาร์โอ คือ การสนับสนุนการสร้างตลาดอาหารให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา องค์กรจะมีการจัดสัมนา อบรม ควบคุมสุขอนามัย ตามเครือข่ายต่างๆ ทั่วโลก ทั้งนี้จากการเปิดรับสมัครสมาชิกผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ตั้งเป้ามีสมาชิก 300 ราย ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 500 ราย ในปีหน้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น