สสว. งัดแผนยุทธศาสตร์ปั้นเอสเอ็มอี ด้านอาหาร ก้าวสู่สากล ด้วยการจัดประกวดร้านอาหาร ชื่อ “คุณคือผู้ประกอบการSMEs มืออาชีพ” ยอมเทงบกว่า 9 ล้าน ดึงร้านอาหารทั้ง 5 ภาค ประชันฝีมือผู้ชนะเลิศได้เงินรางวัล 500,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร เผย ผลกระทบเศรษฐกิจ ไม่มีผลต่อร้านอาหารที่ได้รับความนิยม
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึง ผลกระทบของร้านอาหารไทยในประเทศว่า เนื่องจากร้านอาหารเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจมากนัก จะสังเกตได้จากการเปิด – ปิดกิจการลงของธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะร้านอาหารที่ได้รับความนิยมยอดขายก็ไม่ได้ตกลงไปแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ ในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทางสสว. จึงได้จัดกิจกรรมการประกวดร้านอาหารไทย ภายใต้โครงการ “คุณคือผู้ประกอบการ SMEs มือ อาชีพ ( The SMEs Professional ) เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการตลาด การพัฒนาธุรกิจอาหารของ SMEs ไทย ให้มีศักยภาพและมีมาตรฐาน นำไปสู่การสร้างตราสินค้า เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจอาหาร ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ และสู่ระดับสากล ในอนาคต โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทางสสว.ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 9 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้กำหนดประเภทอาหารไว้ 8 ประเภท คือ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ต้มข่าไก่ ส้มตำ แกงเขียวหวาน แกงส้ม น้ำพริกกะปิ และยำวุ้นเส้นทะเล โดยแบ่งพื้นที่ในการจัดกิจกรรมออกเป็น 5 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีคณะกรรมการ จาก 4 สถาบัน คือ ผู้แทนจากกรมอนามัย สมาคมผู้บริหารอาหารและเครื่องดื่ม แห่งประเทศไทย สมาคมพ่อครัวไทย และโรงเรียนสอนทำอาหารแม่บ้านทันสมัย
รูปแบบของกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 รอบ รอบแรก รับสมัครร้านอาหารจากทั่วประเทศ หลังจากนั้นรอบคัดเลือก ให้เหลือภาคละ 24 ราย (3 รายต่อ 1 ประเภทอาหาร) และคัดเลือกในรอบที่ 2 จำนวน 120 ราย ซึ่งในรอบนี้ คณะกรรมการจะลงพื้นที่ตามภาคต่างๆ เพื่อดูรายละเอียด พร้อมทั้งชิมอาหาร ซึ่งในรอบนี้จะคัดเลือกให้เหลือ ภาคละ 8 ราย (1 รายต่อประเภทอาหาร) ซึ่งจะได้ผู้เข้าประกวดรอบสุดท้ายจำนวน 40 ราย เพื่อมาแข่งรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพฯ
สำหรับรางวัลที่จะได้รับ ผู้ชนะเลิศจะได้เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 30,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชยได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร ผู้สนใจประกวดสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 0-2684-1157 หรือ ที่ www.sme.go.th ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 20 กุมภาพันธ์ 2552
นายภักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การประกวดในครั้งนี้ ได้มีเกณฑ์การตัดสิน เป็นคำนิยามของคำว่ามืออาชีพไว้ 4 ด้าน คือ การตกแต่งสถานที่สะอาด การบริหารบุคลากร และสุขอนามัยต่างๆ 2. มาตรฐานในการประกอบอาหาร เช่นรสชาติ 3.มาตรฐานในการให้บริการ 4. แผนการตลาด และกลุ่มลูกค้าเป้า ทั้งหมด คือ คำนิยามของ มืออาชีพ
นายภักดิ์ ทองส้ม รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึง ผลกระทบของร้านอาหารไทยในประเทศว่า เนื่องจากร้านอาหารเป็นธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจมากนัก จะสังเกตได้จากการเปิด – ปิดกิจการลงของธุรกิจร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ เพราะร้านอาหารที่ได้รับความนิยมยอดขายก็ไม่ได้ตกลงไปแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ ในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทางสสว. จึงได้จัดกิจกรรมการประกวดร้านอาหารไทย ภายใต้โครงการ “คุณคือผู้ประกอบการ SMEs มือ อาชีพ ( The SMEs Professional ) เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการขยายช่องทางการตลาด การพัฒนาธุรกิจอาหารของ SMEs ไทย ให้มีศักยภาพและมีมาตรฐาน นำไปสู่การสร้างตราสินค้า เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจอาหาร ให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ และสู่ระดับสากล ในอนาคต โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทางสสว.ได้จัดสรรงบประมาณ จำนวน 9 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้กำหนดประเภทอาหารไว้ 8 ประเภท คือ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ต้มข่าไก่ ส้มตำ แกงเขียวหวาน แกงส้ม น้ำพริกกะปิ และยำวุ้นเส้นทะเล โดยแบ่งพื้นที่ในการจัดกิจกรรมออกเป็น 5 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึง กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยมีคณะกรรมการ จาก 4 สถาบัน คือ ผู้แทนจากกรมอนามัย สมาคมผู้บริหารอาหารและเครื่องดื่ม แห่งประเทศไทย สมาคมพ่อครัวไทย และโรงเรียนสอนทำอาหารแม่บ้านทันสมัย
รูปแบบของกิจกรรมแบ่งออกเป็น 3 รอบ รอบแรก รับสมัครร้านอาหารจากทั่วประเทศ หลังจากนั้นรอบคัดเลือก ให้เหลือภาคละ 24 ราย (3 รายต่อ 1 ประเภทอาหาร) และคัดเลือกในรอบที่ 2 จำนวน 120 ราย ซึ่งในรอบนี้ คณะกรรมการจะลงพื้นที่ตามภาคต่างๆ เพื่อดูรายละเอียด พร้อมทั้งชิมอาหาร ซึ่งในรอบนี้จะคัดเลือกให้เหลือ ภาคละ 8 ราย (1 รายต่อประเภทอาหาร) ซึ่งจะได้ผู้เข้าประกวดรอบสุดท้ายจำนวน 40 ราย เพื่อมาแข่งรอบชิงชนะเลิศที่กรุงเทพฯ
สำหรับรางวัลที่จะได้รับ ผู้ชนะเลิศจะได้เงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล และประกาศนียบัตร รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงิน 30,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้เงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมโล่และประกาศนียบัตร และรางวัลชมเชยได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร ผู้สนใจประกวดสามารถติดต่อได้ที่ โทร. 0-2684-1157 หรือ ที่ www.sme.go.th ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 20 กุมภาพันธ์ 2552
นายภักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การประกวดในครั้งนี้ ได้มีเกณฑ์การตัดสิน เป็นคำนิยามของคำว่ามืออาชีพไว้ 4 ด้าน คือ การตกแต่งสถานที่สะอาด การบริหารบุคลากร และสุขอนามัยต่างๆ 2. มาตรฐานในการประกอบอาหาร เช่นรสชาติ 3.มาตรฐานในการให้บริการ 4. แผนการตลาด และกลุ่มลูกค้าเป้า ทั้งหมด คือ คำนิยามของ มืออาชีพ