นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม.ว่า ว่า ที่ประชุม มีมติเห็นชอบแผนการฟื้นฟูภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ โดยอนุมัติวงเงิน 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปส่งเสริมมาตรการด้านการตลาด เร่งแก้ไขภาพลักษณ์และสร้างแรงจูงใจในกลุ่มลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ อาทิ การลดภาษีสำหรับการจัด Corporate Meeting ภายในประเทศในปี 52 การลดค่าใช้จ่าย อำนวยความสะดวกด้านการบินในช่วงไตรมาสแรก ยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจลงตรา
การกำหนดนโยบายให้หน่วยราชการจัดประชุมสัมมนานอกพื้นที่ที่เป็นการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่อง โดยการลดภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในปี 52 และค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับเอกชนในการร่วมเสนอขายประเทศไทยในงาน Trade Fair
ทั้งนี้แบ่งเป็นแผนงานฟื้นฟูภาพลักษณ์วงเงิน 250 ล้านบาท จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ Thailand Talk to The World วงเงิน 100 ล้านบาท 2.โครงการ Bring Back Smile To Thailand วงเงิน 40 ล้านบาท 3.โครงการ Welcome Back วงเงิน 20 ล้านบาท 4.โครงการ Thailand Road Show วงเงิน 30 ล้านบาท 5.โครงการ Thailand Real Time วงเงิน 30 ล้านบาท และ6.โครงการ We do Care วงเงิน 30 ล้านบาท
สำหรับแผนงานกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ วงเงิน 350 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ Amazing Thailand Amazing Value วงเงิน 50 ล้านบาท 2.โครงการ Partners on Demand วงเงิน 200 ล้านบาท3.โครงการ Thailand Brand วงเงิน 100 ล้านบาท และแผนงานกระตุ้นตลาดในประเทศ วงเงิน 400 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อพิเศษ วงเงิน 50 ล้านบาท 2.โครงการสร้างสรรค์กิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว วงเงิน 250 ล้านบาท และ3.โครงการส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว วงเงิน 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบด้าน ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เห็นควรให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในการประชุม ครม. เศรษฐกิจ วันที่ 11 ก.พ.นี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา น้องชาย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯของบประมาณไป 6,000 ล้านบาท แต่ ครม.อนุม้ติให้เพียง งบโครงการฟื้นฟูภาพลักษณ์และกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ขอไป 1,000 ล้านบาท ส่วนงบช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินและวิกฤตเศรษฐกิจโลกจำนวน 5,000 ล้านบาทคาดว่าจะเข้าครม.ในสัปดาห์หน้า
แต่อย่างไรก็ตามงบที่ได้มา 1,000 ล้านบาทก็ไม่แน่ใจว่าจะพอหรือเปล่า เพราะต้องใช้งบในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะแบ่งงบประชาสัมพันธ์กับต่างประเทศ 600 ล้านบาทและในประเทศอีก 400 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวอย่าคิดว่าเยอะเพราะเมื่อเราไปซื้อสปอต์ทีวีในต่างประเทศชิ้นหนึ่ง ก็หลายล้านแล้ว ซึ่งตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อโรดโชว์ ทางประเทศญี่ปุ่นก็แนะนำให้นายกฯไปออกข่าวในสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้บางส่วน
เงินดังกล่าวนี้เราต้องนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอีกหลายประเทศ อาทิ ใต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยตามที่ได้วางเป้าไว้หรือไม่ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สนใจไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีมากกว่าประเทศไทย เพราะประเทศไทยค่าเงินสูงกว่าและยังมีปัญหาเรื่องการปิดสนามบิน นักท่องเที่ยวจึงยังไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายบรรหาร ศิลปิอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ ใจแคบจัดสรรงบประมาณให้พรรคร่วมรัฐบาลน้อย โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นกระทรวงในโควค้าพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
การกำหนดนโยบายให้หน่วยราชการจัดประชุมสัมมนานอกพื้นที่ที่เป็นการสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่อง โดยการลดภาษีและค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในปี 52 และค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับเอกชนในการร่วมเสนอขายประเทศไทยในงาน Trade Fair
ทั้งนี้แบ่งเป็นแผนงานฟื้นฟูภาพลักษณ์วงเงิน 250 ล้านบาท จำนวน 6 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ Thailand Talk to The World วงเงิน 100 ล้านบาท 2.โครงการ Bring Back Smile To Thailand วงเงิน 40 ล้านบาท 3.โครงการ Welcome Back วงเงิน 20 ล้านบาท 4.โครงการ Thailand Road Show วงเงิน 30 ล้านบาท 5.โครงการ Thailand Real Time วงเงิน 30 ล้านบาท และ6.โครงการ We do Care วงเงิน 30 ล้านบาท
สำหรับแผนงานกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ วงเงิน 350 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ Amazing Thailand Amazing Value วงเงิน 50 ล้านบาท 2.โครงการ Partners on Demand วงเงิน 200 ล้านบาท3.โครงการ Thailand Brand วงเงิน 100 ล้านบาท และแผนงานกระตุ้นตลาดในประเทศ วงเงิน 400 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางสื่อพิเศษ วงเงิน 50 ล้านบาท 2.โครงการสร้างสรรค์กิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว วงเงิน 250 ล้านบาท และ3.โครงการส่งเสริมศักยภาพการท่องเที่ยว วงเงิน 100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม. ไม่ได้มีการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบด้าน ท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดสนามบิน เนื่องจากนายกรัฐมนตรี เห็นควรให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในการประชุม ครม. เศรษฐกิจ วันที่ 11 ก.พ.นี้ นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและการกีฬา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา น้องชาย นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวฯของบประมาณไป 6,000 ล้านบาท แต่ ครม.อนุม้ติให้เพียง งบโครงการฟื้นฟูภาพลักษณ์และกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ขอไป 1,000 ล้านบาท ส่วนงบช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินและวิกฤตเศรษฐกิจโลกจำนวน 5,000 ล้านบาทคาดว่าจะเข้าครม.ในสัปดาห์หน้า
แต่อย่างไรก็ตามงบที่ได้มา 1,000 ล้านบาทก็ไม่แน่ใจว่าจะพอหรือเปล่า เพราะต้องใช้งบในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยจะแบ่งงบประชาสัมพันธ์กับต่างประเทศ 600 ล้านบาทและในประเทศอีก 400 ล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวอย่าคิดว่าเยอะเพราะเมื่อเราไปซื้อสปอต์ทีวีในต่างประเทศชิ้นหนึ่ง ก็หลายล้านแล้ว ซึ่งตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อโรดโชว์ ทางประเทศญี่ปุ่นก็แนะนำให้นายกฯไปออกข่าวในสื่อท้องถิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้บางส่วน
เงินดังกล่าวนี้เราต้องนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอีกหลายประเทศ อาทิ ใต้หวัน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่มั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยตามที่ได้วางเป้าไว้หรือไม่ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สนใจไปท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีมากกว่าประเทศไทย เพราะประเทศไทยค่าเงินสูงกว่าและยังมีปัญหาเรื่องการปิดสนามบิน นักท่องเที่ยวจึงยังไม่มั่นใจที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายบรรหาร ศิลปิอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ออกมาตำหนิพรรคประชาธิปัตย์ ใจแคบจัดสรรงบประมาณให้พรรคร่วมรัฐบาลน้อย โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งเป็นกระทรวงในโควค้าพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
