ASTVผู้จัดการรายวัน- บอร์ดการบินไทย เตรียมไขก๊อกวันนี้ หลังถูกการเมืองบีบ "วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์"เต็งนั่งประธานบอร์ด แซงหน้า"ชุมพล ณ ลำเลียง" ขณะที่ประชาชนรอบดอนเมือง ค้านปิดดอนเมือง ระบุเป็นนโยบายทำลายระบบเศรษฐกิจชุมชน และก่อปัญหาสังคม เสนอรัฐบาลพัฒนาเป็นสถานีขนส่งสายเหนือ-อีสาน สร้างอาชีพให้คนไทยแบบยั่งยืน ดีกว่านโยบายแจกเงิน รอคำตอบ 14 ก.พ.
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) วันนี้ (11 ก.พ.) จะมีคณะกรรมการที่เป็นตัวแทน ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการตั้งกรรมการใหม่เข้าไปส่วนหนึ่ง และรายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุด มีการเสนอชื่อนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และอดีตประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด( มหาชน) หรือ ทอท. เป็นประธานบอร์ดการบินไทย แทนนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่มีข่าวว่าได้ลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ มีชื่อนายทนง พิทยะ เป็นประธาน แต่มีกระแสคัดค้าน รวมถึงมีชื่อของ นายชุมพล ณ ลำเลียง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) ด้วย ซึ่งนายชุมพล เป็นอดีตคีย์แมนคนสำคัญในการพลิกฟื้นปูนซีเมนต์ไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติปี40 ได้สำเร็จ
สำหรับกรรมการ การบินไทย ที่เป็นตัวแทนจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่คาดว่าจะมีการลาออก นอกจากนายสุรชัย ปลัดกระทรวงคมนาคมแล้วคือนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง, นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด, นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ,นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รองปลัดกระทรวงการคลัง และนายนายพิชัย ชุณหวชิระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและการบัญชี บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)
**ชงแผนฟื้นฟู-จ่ายโบนัส
นอกจากนี้ฝ่ายบริหารการบินไทย จะเสนอที่ประชุมในการพิจารณา เรื่องเงินรางวัลประจำปี (โบนัส) ของพนักงาน และการปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานเพื่อเป็นกำลังใจ โดยการจ่ายจะขึ้นอยู่กับสภาพและสถานะของบริษัทในขณะนี้ เช่น อาจจะปรับขึ้นให้คนละ1% และมีเงื่อนไขว่า ให้พนักงานรับผิดชอบภาษีเงินได้เอง โดยฝ่ายบริหารรวมทั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) จะต้องแสดงความเสียสละด้วยการไม่รับโบนัส
และเสนอแผนการปรับปรุงธุรกิจของปี52- 54 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานรองรับสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเงิน ซึ่งจะเน้นการเพิ่มรายได้ เช่น การเพิ่มรายได้ต่อหน่วย (Yield) การปรับปรุงระบบพาณิชย์อิเล็คโทรนิกส์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต รวมถึงการการปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความต้องการเดินทางน้อยและไม่ทำกำไร
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่า ปัญหาสภาพคล่อง และผลประกอบการที่ตกต่ำของการบินไทยจะแก้ไขได้ นอกจากการปรับเที่ยวบิน และเส้นทางบินแล้ว บริษัทจะต้องยกเลิกการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลแทนพนักงานซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี เพราะ ไม่มีเอกชน หรือองค์กรรัฐวิสาหกิจใดปฏิบัติ
**ค้านปิดสนามบินดอนเมือง
วานนี้ (10 ก.พ.) เวลา15.30 น. ประชาชนและผู้ค้ารอบสนามบินดอนเมืองหลายร้อยคนได้ชุมนุมคัดค้านการปิดสนามบินดอนเมืองจากการที่ 3 สายการบิน คือ การบินไทย นกแอร์และวันทูโก จะย้ายกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยหลังจากที่นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคมได้รับหนังสือร้องเรียนแทนนายโสณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม แล้วผู้ชุมนุมได้สลายตัวไปเมื่อเวลา 17.20 น. โดยยืนยันว่าจะมีการชุมนุมอีก หากไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล
นายชัยศักดิ์เปิดเผยภายหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า จะเสนอข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมต่อรมว.คมนาคม และเสนอแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ของดอนเมืองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นสถานีรถโดยสารสายเหนือและสายอีสาน โดยผู้ชุมนุมต้องการได้คำตอบจากรัฐบาลในวันที่ 14 ก.พ.นี้
นายพฤกพงษ์ เปรมศิริ อดีตผู้สมัครส.ก. เขตดอนเมือง แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่า ประชาชนที่รวมกลุ่มกัน เป็นผู้อาศัยและประกอบอาชีพ ย่านดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม รวมถึง จ.ปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินดอนเมือง ซึ่งสาเหตุที่ต้องเรียกร้องเนื่องจากเห็นว่า นโยบายเรื่องการใช้สนามบินดอนเมืองของรัฐบาลไม่มีความแน่นอน กลับไปกลับมา เป็นการสร้างปัญหาสังคม กระทบต่อครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานในสนามบินดอนเมือง ต้องย้ายที่อยู่อาศัยหรือต้องเดินทางไกล
นอกจากนี้การย้าย 3 สายการบินกลับไปสุวรรณภูมิ และปิดดอนเมืองกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนโดยรอบอย่างรุนแรง โดยเห็นว่ารัฐบาลควรมีนโยบายในการให้สนามบินดอนเมืองใช้สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ด้านผู้โดยสารเช่น คลังสินค้า เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสาร สายเหนือ และสายอีสาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืนแล้ว ยังลดความแออัดของจราจรที่เข้าสู่เมืองลงได้ด้วย
"แทนที่รัฐบาลจะใช้เงินอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลควรหันมาสร้างงานสร้างอาชีพกับประชาชนแบบบูรณาการ ที่จะมีความยั่งยืนจะดีกว่า ซึ่งในวันที่ 14 ก.พ.นี้หากไม่มีคำตอบใดๆ จะมีการรวมตัวกันกันอีกที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และยื่นศาลปกครองในวันที่ 16 ก.พ. เพื่อขอคุ้มครองการปิดสนามบินดอนเมืองด้วย" นายพฤกพงษ์กล่าว
นายพฤกพงษ์ กล่าวถึงการที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จะย้ายเที่ยวบินภายในประเทศที่ให้บริการที่สนามบินดอนเมืองกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่29 มี.ค. 2552 นี้ว่า การบินไทยคงตัดสินใจเองไม่ได้ เพราะต้องขึ้นกับนโยบายรัฐบาล ส่วนการอ้างค่าใช้จ่ายมาก หรือการขาดทุนนั้น ไม่ใช่เหตุผล เพราะการขาดทุนของการบินไทย อยู่ที่การบริหารจัดการขององค์กรมากกว่า
ทั้งนี้ นายโสภณ ซารัมย์ ได้ตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ และได้ผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินเดี่ยว (Single Airport) รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ส่วนสนามบินดอนเมือง จะใช้สำหรับรองรับอุตสาหกรรมการบิน เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานและรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) เท่านั้น โดยนายศรีสุขยืนยันว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีความพร้อมที่จะรับสายการบินทั้งหมด ไม่มีปัญหาเรื่องความแออัดของผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่ง ซึ่งจากขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสุวรรณภูมิปัจจุบันที่ 45 ล้านคนต่อปี หรือประมาณ 10,000 คนต่อชั่วโมง และการใช้สุวรรณภูมิแห่งเดียว เพื่อไม่ให้ผู้โดยสาร สับสนในการต่อเครื่องด้วย
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) วันนี้ (11 ก.พ.) จะมีคณะกรรมการที่เป็นตัวแทน ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ ลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการตั้งกรรมการใหม่เข้าไปส่วนหนึ่ง และรายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุด มีการเสนอชื่อนายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และอดีตประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด( มหาชน) หรือ ทอท. เป็นประธานบอร์ดการบินไทย แทนนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ที่มีข่าวว่าได้ลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ มีชื่อนายทนง พิทยะ เป็นประธาน แต่มีกระแสคัดค้าน รวมถึงมีชื่อของ นายชุมพล ณ ลำเลียง อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) ด้วย ซึ่งนายชุมพล เป็นอดีตคีย์แมนคนสำคัญในการพลิกฟื้นปูนซีเมนต์ไทยที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติปี40 ได้สำเร็จ
สำหรับกรรมการ การบินไทย ที่เป็นตัวแทนจากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่คาดว่าจะมีการลาออก นอกจากนายสุรชัย ปลัดกระทรวงคมนาคมแล้วคือนายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง, นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด, นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ รองอัยการสูงสุด ,นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รองปลัดกระทรวงการคลัง และนายนายพิชัย ชุณหวชิระ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การเงินและการบัญชี บริษัทปตท.จำกัด(มหาชน)
**ชงแผนฟื้นฟู-จ่ายโบนัส
นอกจากนี้ฝ่ายบริหารการบินไทย จะเสนอที่ประชุมในการพิจารณา เรื่องเงินรางวัลประจำปี (โบนัส) ของพนักงาน และการปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานเพื่อเป็นกำลังใจ โดยการจ่ายจะขึ้นอยู่กับสภาพและสถานะของบริษัทในขณะนี้ เช่น อาจจะปรับขึ้นให้คนละ1% และมีเงื่อนไขว่า ให้พนักงานรับผิดชอบภาษีเงินได้เอง โดยฝ่ายบริหารรวมทั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) จะต้องแสดงความเสียสละด้วยการไม่รับโบนัส
และเสนอแผนการปรับปรุงธุรกิจของปี52- 54 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานรองรับสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเงิน ซึ่งจะเน้นการเพิ่มรายได้ เช่น การเพิ่มรายได้ต่อหน่วย (Yield) การปรับปรุงระบบพาณิชย์อิเล็คโทรนิกส์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการขายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต รวมถึงการการปรับลดเที่ยวบินในเส้นทางที่มีความต้องการเดินทางน้อยและไม่ทำกำไร
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง ได้ระบุว่า ปัญหาสภาพคล่อง และผลประกอบการที่ตกต่ำของการบินไทยจะแก้ไขได้ นอกจากการปรับเที่ยวบิน และเส้นทางบินแล้ว บริษัทจะต้องยกเลิกการจ่ายภาษีเงินได้บุคคลแทนพนักงานซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี เพราะ ไม่มีเอกชน หรือองค์กรรัฐวิสาหกิจใดปฏิบัติ
**ค้านปิดสนามบินดอนเมือง
วานนี้ (10 ก.พ.) เวลา15.30 น. ประชาชนและผู้ค้ารอบสนามบินดอนเมืองหลายร้อยคนได้ชุมนุมคัดค้านการปิดสนามบินดอนเมืองจากการที่ 3 สายการบิน คือ การบินไทย นกแอร์และวันทูโก จะย้ายกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยหลังจากที่นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคมได้รับหนังสือร้องเรียนแทนนายโสณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม แล้วผู้ชุมนุมได้สลายตัวไปเมื่อเวลา 17.20 น. โดยยืนยันว่าจะมีการชุมนุมอีก หากไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล
นายชัยศักดิ์เปิดเผยภายหลังรับหนังสือร้องเรียนว่า จะเสนอข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมต่อรมว.คมนาคม และเสนอแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ของดอนเมืองที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เป็นสถานีรถโดยสารสายเหนือและสายอีสาน โดยผู้ชุมนุมต้องการได้คำตอบจากรัฐบาลในวันที่ 14 ก.พ.นี้
นายพฤกพงษ์ เปรมศิริ อดีตผู้สมัครส.ก. เขตดอนเมือง แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่า ประชาชนที่รวมกลุ่มกัน เป็นผู้อาศัยและประกอบอาชีพ ย่านดอนเมือง หลักสี่ บางเขน สายไหม รวมถึง จ.ปทุมธานี และนนทบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินดอนเมือง ซึ่งสาเหตุที่ต้องเรียกร้องเนื่องจากเห็นว่า นโยบายเรื่องการใช้สนามบินดอนเมืองของรัฐบาลไม่มีความแน่นอน กลับไปกลับมา เป็นการสร้างปัญหาสังคม กระทบต่อครอบครัวของผู้ปฏิบัติงานในสนามบินดอนเมือง ต้องย้ายที่อยู่อาศัยหรือต้องเดินทางไกล
นอกจากนี้การย้าย 3 สายการบินกลับไปสุวรรณภูมิ และปิดดอนเมืองกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนโดยรอบอย่างรุนแรง โดยเห็นว่ารัฐบาลควรมีนโยบายในการให้สนามบินดอนเมืองใช้สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศและพัฒนาพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ด้านผู้โดยสารเช่น คลังสินค้า เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสาร สายเหนือ และสายอีสาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืนแล้ว ยังลดความแออัดของจราจรที่เข้าสู่เมืองลงได้ด้วย
"แทนที่รัฐบาลจะใช้เงินอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลควรหันมาสร้างงานสร้างอาชีพกับประชาชนแบบบูรณาการ ที่จะมีความยั่งยืนจะดีกว่า ซึ่งในวันที่ 14 ก.พ.นี้หากไม่มีคำตอบใดๆ จะมีการรวมตัวกันกันอีกที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และยื่นศาลปกครองในวันที่ 16 ก.พ. เพื่อขอคุ้มครองการปิดสนามบินดอนเมืองด้วย" นายพฤกพงษ์กล่าว
นายพฤกพงษ์ กล่าวถึงการที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จะย้ายเที่ยวบินภายในประเทศที่ให้บริการที่สนามบินดอนเมืองกลับไปให้บริการที่สนามบินสุวรรณภูมิในวันที่29 มี.ค. 2552 นี้ว่า การบินไทยคงตัดสินใจเองไม่ได้ เพราะต้องขึ้นกับนโยบายรัฐบาล ส่วนการอ้างค่าใช้จ่ายมาก หรือการขาดทุนนั้น ไม่ใช่เหตุผล เพราะการขาดทุนของการบินไทย อยู่ที่การบริหารจัดการขององค์กรมากกว่า
ทั้งนี้ นายโสภณ ซารัมย์ ได้ตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาเครือข่ายการขนส่งทางอากาศ และได้ผลักดันให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นสนามบินเดี่ยว (Single Airport) รองรับเที่ยวบินพาณิชย์ทั้งหมด ส่วนสนามบินดอนเมือง จะใช้สำหรับรองรับอุตสาหกรรมการบิน เป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานและรองรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เครื่องบินส่วนตัว (Private Jet) เท่านั้น โดยนายศรีสุขยืนยันว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีความพร้อมที่จะรับสายการบินทั้งหมด ไม่มีปัญหาเรื่องความแออัดของผู้โดยสารในชั่วโมงคับคั่ง ซึ่งจากขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสุวรรณภูมิปัจจุบันที่ 45 ล้านคนต่อปี หรือประมาณ 10,000 คนต่อชั่วโมง และการใช้สุวรรณภูมิแห่งเดียว เพื่อไม่ให้ผู้โดยสาร สับสนในการต่อเครื่องด้วย
