เมื่อเวลา12.20 น.วานนี้ (2 ก.พ.) โรงแรม กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณา ต้องดูสถานการณ์ก่อน ถ้าควรยื่นญัตติก็จะพิจารณาใน 2 ส่วน คือ รายบุคคล หรือทั้งคณะ การเมืองวันนี้ไม่ใช่ดูเฉพาะการบริหารประเทศว่าเสียหายมากน้อยเพียงใด ต้องดูพฤติกรรมของบางพรรคในอดีตด้วยว่ากระทำการให้เกิดความเสียหายหรือไม่ เอาทรัพย์สินราชการไปใช้ หรือเกิดความเสียหายอย่างไรบ้าง ที่สำคัญคือ เอกสารหลักฐานต่างๆต้องชัด
ทั้งนี้ รัฐมนตรี 2-3 คน ที่มีข่าวว่าอาจถูกปรับออกนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เห็นข่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศไม่ปรับครม. ถ้าจริงฝ่ายค้านก็งานเข้า เพราะแสดงว่าวันนี้ นายสุเทพ ใหญ่กว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี การปรับครม. ต้องเป็นหน้าที่ของนายกฯ ส่วนกรณีที่นายกฯระบุว่าอีก 2-3 วัน จะมีความชัดเจนในเรื่องการปรับครม.นั้น รัฐบาลจะปรับครม.หรือไม่ เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หลักฐานของเราจะต้องดูว่า ถึงใคร ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็มีส่วนในการตรวจสอบหลักฐานด้วย
**เล็งอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งคณะ
"ข้อมูลที่มีตอนนี้ไม่ใช่แค่รายบุคคล แต่ทั้งคณะ เป้าหมายหลักคือทั้งคณะ ก็ต้องมีนายกฯอยู่แล้ว ส่วนพวกแจกของ พวกปลากระป๋อง แค่ของแถม เรากำลังรวบรวมเป็นเมนคอร์ส" ร.ต.อ.เฉลิม กล่า;
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.จะไม่ส่งผลต่อการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ขอเวลาอีกนิด ตนเป็นมืออภิปรายคนหนึ่งในสภา เท่าที่ดูหลักฐานมันชัดเจน ทางการเมืองแค่มีพฤติกรรมส่อ แล้วหลักฐานลงลึก ลงชัดก็พอแล้ว ตนมีทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานบุคคลนั้นจะพยายามเอ่ยถึงให้น้อยที่สุด เพราะอาจะจะถูกบีบคั้นขู่เข็ญได้
**โวเจ๋งกว่าสมัย สปก.4-01
ส่วนจะถึงขั้นเมื่อครั้ง สปก.4-01 หรือไม่นั้นร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ครั้งนี้จะหนักกว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นข้อมูลของฝ่ายค้านมีเหตุผล เถียงไม่ได้ อาจจะโหวตให้เรา มันก็จะหนักกว่า ยื่นญัตติแล้วจะยุบสภาก็ไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ก็ต้องไปเลย
ส่วนจำนวนผู้ที่จะอภิปราย ต้องเป็นสิบคน แต่จะเอารูปแบบใหม่ การสรุปจะไม่สรุปแบบระยะเวลากระชั้นชิด ฝ่ายค้านในอดีตจะสรุปประมาณ 5 ทุ่ม มีเวลาชั่วโมงเดียว แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นหลังข่าวภาคค่ำ แข่งกับละครหลังข่าว ประชันกันไปเลย เอาเนื้อหาสาระ ไม่โหวกเหวกแล้วฝ่ายรัฐบาลนั่งอมยิ้ม รอบนี้นายกฯจะบอกว่าไม่ตอบ มีคำตอบอยู่ในใจไม่ได้เด็ดขาด
"ถ้ามอบหมายให้ผมเป็นคนสรุป จะสรุปทีละเรื่อง คนฟังจะได้เข้าใจชัดเจน จะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จากนี้มาถามเรื่องนี้ จะไม่พูดอีกแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าไปขู่เขา"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผูสื่อข่าวถามว่า หากมั่นใจในข้อมูล เหตุใดจึงไม่รีบยื่นญัตติ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อมูลทางเทคนิค ต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เพราะถ้าประชาชนไม่เข้าใจมันก็ไม่มีน้ำหนัก
**พรรคร่วมโหวตสวนพท.จะเป็นรัฐบาล
สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะนั้น ต้องแนบชื่อบุคคลที่พร้อมจะเป็นนายกฯไปด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นี่แหละปัญหา เลยต้องช้า ถ้ารัฐบาลแพ้โหวต คนที่ใส่ชื่อไว้จะเป็นนายกฯทันที โดยไม่ต้องโหวต ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้นไม่สามารถเป็นได้ เพราะไม่ใช่ ส.ส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนมีอีกเยอะ อาวุโสก็เยอะ ถามว่าตนเป็นได้หรือไม่ ถ้าใช้ส่วนสูง ก็ถึง
สำหรับกรณีที่เคยระบุว่า รอเอกสารเพียงแผ่นเดียวนั้นขณะนี้ได้หรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้แล้ว กำลังทำความเข้าใจอยู่ ถ้าเอกสารไหนเด็ดขาด ก็ต้องพูดเพียงคนเดียว หากพูดหลายคนน้ำหนักมันจะลด จะนำเสนอให้ประชาชนเข้าใจให้ดีที่สุด และมันต้องทั้งคณะ และน่าจะสมัยประชุมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากอภิปรายแข่งกับช่วงเวลาละครนั้น กลัวรัฐบาลจะหาว่าน้ำเน่าเหมือนละคร หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยู่ที่การนำเสนอหลักฐาน ถ้าสื่อลงข่าวไปแล้ว ก็ถือว่าไม่ใหม่ แต่ของตนไม่ใช่แน่นอน
**"มาร์ค"ไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องที่ฝ่ายค้านจะยื่นญํตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะว่า ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ตนไม่กังวล และคิดว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงานเต็มที่ มีอะไรที่ก้าวหน้าไปมาก เปลี่ยนแปลงไปมาก ก็ดีที่มีระบบการตรวจสอบอยู่ ตนมองข้ามอะไรไป เขาเสนอข้อมูลมา ก็จะดู และชี้แจงว่าที่ทำมามีเหตุมีผลอะไร
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คุยว่ามีหมัดเด็ด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการสำคัญที่สุด โดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ถ้ารัฐมนตรีชี้แจงได้ ฝ่ายค้านก็จะเสียหายเหมือนกัน และที่บอกว่า ถ้ารัฐมนตรีชี้แจงไม่ได้ก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น อย่าลืมว่าในกรณีนี้ฝ่ายค้านจะต้องเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย ซึ่งทุกวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังหาผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้เลย แล้วจะหาผู้ที่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรพูดอะไรเพื่อให้เป็นเกมการเมืองไปวันๆ แต่ควรทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์จะดีกว่า
ทั้งนี้ รัฐมนตรี 2-3 คน ที่มีข่าวว่าอาจถูกปรับออกนั้น ก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่เห็นข่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศไม่ปรับครม. ถ้าจริงฝ่ายค้านก็งานเข้า เพราะแสดงว่าวันนี้ นายสุเทพ ใหญ่กว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี การปรับครม. ต้องเป็นหน้าที่ของนายกฯ ส่วนกรณีที่นายกฯระบุว่าอีก 2-3 วัน จะมีความชัดเจนในเรื่องการปรับครม.นั้น รัฐบาลจะปรับครม.หรือไม่ เป็นเรื่องของรัฐบาล แต่หลักฐานของเราจะต้องดูว่า ถึงใคร ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ซึ่งตนก็มีส่วนในการตรวจสอบหลักฐานด้วย
**เล็งอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งคณะ
"ข้อมูลที่มีตอนนี้ไม่ใช่แค่รายบุคคล แต่ทั้งคณะ เป้าหมายหลักคือทั้งคณะ ก็ต้องมีนายกฯอยู่แล้ว ส่วนพวกแจกของ พวกปลากระป๋อง แค่ของแถม เรากำลังรวบรวมเป็นเมนคอร์ส" ร.ต.อ.เฉลิม กล่า;
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับครม.จะไม่ส่งผลต่อการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ขอเวลาอีกนิด ตนเป็นมืออภิปรายคนหนึ่งในสภา เท่าที่ดูหลักฐานมันชัดเจน ทางการเมืองแค่มีพฤติกรรมส่อ แล้วหลักฐานลงลึก ลงชัดก็พอแล้ว ตนมีทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานบุคคลนั้นจะพยายามเอ่ยถึงให้น้อยที่สุด เพราะอาจะจะถูกบีบคั้นขู่เข็ญได้
**โวเจ๋งกว่าสมัย สปก.4-01
ส่วนจะถึงขั้นเมื่อครั้ง สปก.4-01 หรือไม่นั้นร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ครั้งนี้จะหนักกว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นข้อมูลของฝ่ายค้านมีเหตุผล เถียงไม่ได้ อาจจะโหวตให้เรา มันก็จะหนักกว่า ยื่นญัตติแล้วจะยุบสภาก็ไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ ก็ต้องไปเลย
ส่วนจำนวนผู้ที่จะอภิปราย ต้องเป็นสิบคน แต่จะเอารูปแบบใหม่ การสรุปจะไม่สรุปแบบระยะเวลากระชั้นชิด ฝ่ายค้านในอดีตจะสรุปประมาณ 5 ทุ่ม มีเวลาชั่วโมงเดียว แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นหลังข่าวภาคค่ำ แข่งกับละครหลังข่าว ประชันกันไปเลย เอาเนื้อหาสาระ ไม่โหวกเหวกแล้วฝ่ายรัฐบาลนั่งอมยิ้ม รอบนี้นายกฯจะบอกว่าไม่ตอบ มีคำตอบอยู่ในใจไม่ได้เด็ดขาด
"ถ้ามอบหมายให้ผมเป็นคนสรุป จะสรุปทีละเรื่อง คนฟังจะได้เข้าใจชัดเจน จะพูดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว จากนี้มาถามเรื่องนี้ จะไม่พูดอีกแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าไปขู่เขา"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผูสื่อข่าวถามว่า หากมั่นใจในข้อมูล เหตุใดจึงไม่รีบยื่นญัตติ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ข้อมูลทางเทคนิค ต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ เพราะถ้าประชาชนไม่เข้าใจมันก็ไม่มีน้ำหนัก
**พรรคร่วมโหวตสวนพท.จะเป็นรัฐบาล
สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทั้งคณะนั้น ต้องแนบชื่อบุคคลที่พร้อมจะเป็นนายกฯไปด้วย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นี่แหละปัญหา เลยต้องช้า ถ้ารัฐบาลแพ้โหวต คนที่ใส่ชื่อไว้จะเป็นนายกฯทันที โดยไม่ต้องโหวต ซึ่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้นไม่สามารถเป็นได้ เพราะไม่ใช่ ส.ส.
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการใส่ชื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนมีอีกเยอะ อาวุโสก็เยอะ ถามว่าตนเป็นได้หรือไม่ ถ้าใช้ส่วนสูง ก็ถึง
สำหรับกรณีที่เคยระบุว่า รอเอกสารเพียงแผ่นเดียวนั้นขณะนี้ได้หรือยัง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ได้แล้ว กำลังทำความเข้าใจอยู่ ถ้าเอกสารไหนเด็ดขาด ก็ต้องพูดเพียงคนเดียว หากพูดหลายคนน้ำหนักมันจะลด จะนำเสนอให้ประชาชนเข้าใจให้ดีที่สุด และมันต้องทั้งคณะ และน่าจะสมัยประชุมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากอภิปรายแข่งกับช่วงเวลาละครนั้น กลัวรัฐบาลจะหาว่าน้ำเน่าเหมือนละคร หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยู่ที่การนำเสนอหลักฐาน ถ้าสื่อลงข่าวไปแล้ว ก็ถือว่าไม่ใหม่ แต่ของตนไม่ใช่แน่นอน
**"มาร์ค"ไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องที่ฝ่ายค้านจะยื่นญํตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะว่า ก็เป็นสิทธิที่ทำได้ ตนไม่กังวล และคิดว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงานเต็มที่ มีอะไรที่ก้าวหน้าไปมาก เปลี่ยนแปลงไปมาก ก็ดีที่มีระบบการตรวจสอบอยู่ ตนมองข้ามอะไรไป เขาเสนอข้อมูลมา ก็จะดู และชี้แจงว่าที่ทำมามีเหตุมีผลอะไร
เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คุยว่ามีหมัดเด็ด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นมาตรการสำคัญที่สุด โดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ถ้ารัฐมนตรีชี้แจงได้ ฝ่ายค้านก็จะเสียหายเหมือนกัน และที่บอกว่า ถ้ารัฐมนตรีชี้แจงไม่ได้ก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีด้วยนั้น อย่าลืมว่าในกรณีนี้ฝ่ายค้านจะต้องเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ด้วย ซึ่งทุกวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังหาผู้นำฝ่ายค้านไม่ได้เลย แล้วจะหาผู้ที่เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ควรพูดอะไรเพื่อให้เป็นเกมการเมืองไปวันๆ แต่ควรทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์จะดีกว่า
