ASTVผู้จัดการรายวัน- "เรืองไกร"ส่งหนังสือถึงกกต. ขอให้สอบ"บุญจง" กรณีแจกเงินพร้อมนามบัตร ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 หรือไม่ ด้าน"เพื่อไทย" เข้าร้องป.ป.ช.เอาผิดอาญา"บุญจง" เตรียมเล่นงาน"วิฑูรย์"อีกคน จากเรื่องปลากระป๋องเน่า "สุเทพ" ระบุ"บุญจง"ไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่ห่วงเรื่องถอดถอน และไม่จำเป็นต้องปรับครม. ด้านกระทรวงพัฒนาสังคมฯ สั่งตั้งกก.สอบเรื่องปลากระป๋องเน่าแล้ว
เมื่อวานนี้ (27ม.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่าได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กรณีร่วมกับภริยา นำเงินงบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปแจกให้ผู้ยากไร้ที่ขอรับการสงเคราะห์ พร้อมแจกนามบัตรไปด้วย ในพื้นที่ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้กระทำการอันเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 266 วรรคหนึ่ง อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (6) หรือไม่ ตนจึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ทำหนังสือร้องกกต.เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
“โฆษกเพื่อไทย”ซัดซ้ำ “วิฑูรย์” แจกถุงยังชีพไม่ใช่ของบริจาค พร้อมนำหลักฐานโชว์กลางห้องแถลงข่าว
**"เพื่อไทย"ร้องป.ป.ช.บุญจงผิดอาญา
ในวันเดียวกันนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายคารม พลทะกลาง ทนายความพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กล่าวหากรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยนายคารม กล่าวว่านายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้กระทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 คือ เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ เนื่องจากนายบุญจง เป็น ส.ส นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย ได้นำเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไปแจกให้กับราษฎร ถือเป็นการนำงบประมาณแผ่นดินไปแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเอง หรือพรรคพวกโดยมิชอบ เพราะการแจกสิ่งของดังกล่าว ไม่ได้กระทำที่ ที่ว่าการอำเภอซึ่งเป็นสถานที่ทางราชการ ทั้งที่สามารถดำเนินการได้ แต่การที่ นายบุญจง นำผ้าห่ม เงิน และสิ่งของต่างๆ มาแจกที่บ้านพักของตนเอง ย่อมทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า เงินที่ได้รับแจกมาเป็นเงินส่วนตัวของนายบุญจง ถือเป็นการนำเงินงบประมาณของแผ่นดิน มาสร้างความนิยมให้กับตนเอง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนการแนบนามบัตรของตนเองไปพร้อมกับสิ่งของที่แจกนั้น เป็นการยืนยันถึงเจตนาของนายบุญจง ว่าจะให้ประชาชนเชื่อว่าเงินและสิ่งของ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว และการที่นายบุญจง อ้างว่า การแจกนามบัตรไปด้วย เพื่อให้ประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือกรณีมีเรื่องเดือดร้อนได้สะดวก ย่อมฟังไม่ขึ้น เพราะการติดต่อระหว่างราษฎรกับส.ส.ในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะติดต่อโดยการไปพบ ส.ส. ณ ที่ทำการของส.ส.นั้นๆ มากกว่าการติดต่อทางโทรศัพท์
ดังนั้นการกระทำของนายบุญจง นอกจากจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (1) ซึ่งอาจถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถอดถอนได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 แล้ว ยังถือว่าเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายบุญจง เป็นข้าราชการเมือง และเป็นส.ส. ซึ่งมีรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 กำกับไว้อยู่แล้ว จึงถือว่าการกระทำของนายบุญจง ในขณะนี้เป็นการเหลิงอำนาจ เพราะนายบุญจง ก็รู้กฎหมาย แต่เพราะเหลิงอำนาจ คิดว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้ มีพรรคพวกช่วยเหลือ วันนี้ ถ้านายบุญจงล้ม นาย เนวิน ชิดชอบ คงไม่ยอม
"อยากฝากถึงนายสุเทพ นายบุญจง นายอภิสิทธิ์ ว่าวันนี้ต้องดำเนินการให้โปร่งใส เพราะฝ่ายค้านกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายบุญจง การนำงบประมาณแผ่นดินมาแจกที่บ้าน เป็นการหาประโยชน์ส่วนตัว หวังผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งภรรยาของนายบุญจง ที่เป็นอดีต ส.จ. ก็อาจจะลงสมัครเลือกตั้งในอนาคต วันนี้อำนาจหน้าที่ของนายบุญจง เผื่อแผ่ไปถึงภรรยาด้วย ซึ่งไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นเงินของตัวเอง ผมไม่เถียง แต่นี่เป็นเงินภาษีของประชาชน ผมต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ ได้เอื้อประโยชน์ให้นายบุญจง โดยการผันงบไปให้หาเสียงในพื้นที่ ซึ่งเป็นกรณีที่ชี้ให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีการซูเอี๋ยกัน และตนยังรู้อีกว่านายวิฑูรย์ ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียง โดยวิธีเดียวกับที่ให้กับนายบุญจง ซึ่งขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในทุกจังหวัด และตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายวิฑูรย์ต่อไป
**"สุเทพ"ยันไม่ผิด-ไม่ต้องปรับครม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนายบุญจงว่าไม่เป็นปัญหา ทาง ป.ป.ช.จะเป็นผู้วินิจฉัยเองว่า จะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้ารับเรื่องนายบุญจง ก็ต้องไปชี้แจง และหากฝ่ายค้านจะนำไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ตนเดาใจไม่ถูก และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะต้องปรับครม.หรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ตนยังไม่เห็นว่านายบุญจงทำอะไรผิด ยังไม่จำเป็นต้องปรับครม. ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ข้อกล่าวหาก่อน รัฐบาลยังให้โอกาสในการชี้แจงกับทุกฝ่าย ทั้งนายบุญจง และกรณีปลากระป๋องเน่า ของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลลดลง โดยเฉพาะนายบุญจงนั้น ตนมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชันอะไร ส่วนกรณีนายวิฑูรย์ ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นของที่ซื้อหรือได้รับบริจาคมา
**พม.ตั้งกก.สอบ"ปลากระป๋องเน่า"
ด้านนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ชี้แจงถึงกรณี ถุงยังชีพพบปลากระป๋องเน่าว่า เรื่องนี้ นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการของกระทรวงฯ ขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะกรรมการตรวจสอบการรับจ่ายแจกสิ่งของให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่รับบริจาค และการจัดซื้อจากผู้ผลิต เพื่อต้องการให้สิ่งของทุกชิ้นได้มีการตรวจสอบ และของที่ซื้อมาจากผู้ผลิตโดยตรง ก็ต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อของข้าราชการอย่างเคร่งครัด ส่วนอีกชุดคือ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีปลากระป๋องเน่า ให้เป็นผู้รวบรวมหลักฐาน ทั้งหมดในเรื่องนี้ เพื่อเป็นข้อเท็จจริงในการชี้แจงแก่ประชาชน และชี้แจงต่อรัฐสภา
นอกจากคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ที่กระทรวงฯ ตั้งขึ้นแล้ว ทางกระทรวงฯ ยังได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), คณะกรรมมาธิการรัฐสภา, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงบประมาณ ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจถึงความสุจริตในการทำงาน ซึ่งหลังจากนี้ไปคาดว่าจะได้รับทราบผลจากคณะกรรมการตรวจสอบทุกชุด ที่จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด
"ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ท่านรัฐมนตรียืนยันว่าจะรับผิดชอบในทุกประเด็นที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะตอบคำถามในทุกประเด็น ก็ต้องรอดูว่าผลจากการตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าคงใช้เวลาในการตรวจสอบไม่นาน ก็จะทราบข้อเท็จจริงทุกอย่าง" เลขาฯรมต.กล่าว
เมื่อถามว่าจากกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะเปิดเผยหลักฐานเด็ด และมีทั้งชื่อย่อในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น นายเอกชัย กล่าวว่า หากว่ามีหลักฐานจริงก็เอาออกมาแสดงเลย ส่วนของชื่อย่อต่างๆ ที่เป็นข่าวนั้น ทางพรรคเพื่อไทยกล้าที่จะระบุ ก็ต้องกล้าที่จะรับผิดชอบด้วย ซึ่งการที่โฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่า หากเปิดเผยชื่อจริงออกมาก็ต้องไม่ฟ้องร้องนั้น ตนมองว่าถ้ามีข้อมูลจริง ใครก็คงจะฟ้องไม่ได้ ไม่ต้องกลัวที่จะโดนฟ้อง
**ยัน"ผู้บริจาคปลากระป๋อง" มีตัวตน
เมื่อถามถึงกรณีตามที่เป็นข่าวที่อ้างว่า นายวิเชน สมมาต เป็นผู้บริจาคปลากระป๋องที่ไม่มีตัวตนนั้น นายเอกชัย กล่าวว่า ตนยืนยันว่านายวิเชน สมมาต มีตัวตนจริง แต่ที่ปรากฎเป็นข่าวว่าไม่มีสถานะตามทะเบียนราษฏร์ ของกระทรวงมหาดไทยนั้น อาจจะมีความคลาดเคลื่อนในการสะกดชื่อ นามสกุล ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงานปลัดกระทรวง พม. ก็ได้รับหนังสือ จากพมจ. พัทลุง ผ่านหนังสือเลขที่ พท.0004/132 ลงวันที่ 9 ม.ค.52 โดยมีรายละเอียดว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานจากนายวิเชน สมมาต มีความประสงค์บริจาคถุงยังชีพ โดยจะดำเนินการจัดส่งให้พื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนใน จ.พัทลุง จำนวน 5,000 ชุดนั้น สำนักงานพัฒนาสังคมฯ จ.พัทลุง ได้รับถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด ซึ่งจัดส่งถึงพื้นที่วัดท่าสำเภาเหนือ ต.ชัยบุรี อ.เมืองฯ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.52 เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ อาจลอยแพนายวิฑูรย์ นั้นไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องของรัฐบาลที่ทุกคนต้องร่วมมือกันทำงาน ดังนั้นกระแสดังกล่าวไม่น่าจะจริง
**"เพื่อไทย"เชื่อไม่ใช่ของบริจาค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ แจกถุงยังชีพแล้วมีปลากระป๋องเน่า โดยนำถุงยังชีพที่มีโลโก้ของกระทรวงพม. จากจ.พัทลุงมาโชว์ด้วย โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่จ.พัทลุง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่าถุงยังชีพมีโลโก้ของกระทรวงพัฒนาสังคม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ของบริจาค
ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้ ตนเห็นว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะการตั้งลูกน้อง ตั้งปลัด พม. ขึ้นมาตรวจสอบความผิดของนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องตลก ควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานอิสระภายนอกที่มีความเป็นกลางเข้ามาตรวจสอบ หากแก้ปัญหาปลากระป๋องเน่าไม่ได้ อาจเน่าทั้งนายกฯ และ ครม.
**"มาร์ค"ไม่ตอบเรื่องปรับครม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาของนายบุญจง และนายวิฑูรย์ว่า ก็ต้องยอมรับการตรวจสอบ แล้วจะดูว่าข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นอย่างไร ยืนยันไม่มีการดึงเรื่อง เพราะตอนนี้ก็ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเขาตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่ากรณีของนายบุญจง ค่อนข้างชัดเจน เพราะมีการแนบเงินไปกับนามบัตร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะตอนที่ตนถามนายบุญจง ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แล้วตกลงนามบัตรใคร ผู้สื่อข่าวระบุว่า เป็นนามบัตรของนายบุญจง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า"อ้าวตอนแรกบอกว่าเป็นนามบัตรของภรรยา" อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่าถ้าพบว่าทั้งสองคนมีความผิด จำเป็นต้องปรับครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า คงจะมีข้อสรุปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ขอดูข้อมูลจากทุกทางก่อน แต่ทั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ท่านต้องช่วยตรวจสอบด้วย
เมื่อวานนี้ (27ม.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา เปิดเผยว่าได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กรณีร่วมกับภริยา นำเงินงบประมาณของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปแจกให้ผู้ยากไร้ที่ขอรับการสงเคราะห์ พร้อมแจกนามบัตรไปด้วย ในพื้นที่ ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่า ได้กระทำการอันเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 266 วรรคหนึ่ง อันเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (6) หรือไม่ ตนจึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 62 ทำหนังสือร้องกกต.เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
“โฆษกเพื่อไทย”ซัดซ้ำ “วิฑูรย์” แจกถุงยังชีพไม่ใช่ของบริจาค พร้อมนำหลักฐานโชว์กลางห้องแถลงข่าว
**"เพื่อไทย"ร้องป.ป.ช.บุญจงผิดอาญา
ในวันเดียวกันนี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายคารม พลทะกลาง ทนายความพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นหนังสือที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง กล่าวหากรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยนายคารม กล่าวว่านายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้กระทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา 157 คือ เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทั้งนี้ เนื่องจากนายบุญจง เป็น ส.ส นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทย ได้นำเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไปแจกให้กับราษฎร ถือเป็นการนำงบประมาณแผ่นดินไปแสวงหาประโยชน์เพื่อตนเอง หรือพรรคพวกโดยมิชอบ เพราะการแจกสิ่งของดังกล่าว ไม่ได้กระทำที่ ที่ว่าการอำเภอซึ่งเป็นสถานที่ทางราชการ ทั้งที่สามารถดำเนินการได้ แต่การที่ นายบุญจง นำผ้าห่ม เงิน และสิ่งของต่างๆ มาแจกที่บ้านพักของตนเอง ย่อมทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่า เงินที่ได้รับแจกมาเป็นเงินส่วนตัวของนายบุญจง ถือเป็นการนำเงินงบประมาณของแผ่นดิน มาสร้างความนิยมให้กับตนเอง และไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนการแนบนามบัตรของตนเองไปพร้อมกับสิ่งของที่แจกนั้น เป็นการยืนยันถึงเจตนาของนายบุญจง ว่าจะให้ประชาชนเชื่อว่าเงินและสิ่งของ เป็นทรัพย์สินส่วนตัว และการที่นายบุญจง อ้างว่า การแจกนามบัตรไปด้วย เพื่อให้ประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือกรณีมีเรื่องเดือดร้อนได้สะดวก ย่อมฟังไม่ขึ้น เพราะการติดต่อระหว่างราษฎรกับส.ส.ในต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะติดต่อโดยการไปพบ ส.ส. ณ ที่ทำการของส.ส.นั้นๆ มากกว่าการติดต่อทางโทรศัพท์
ดังนั้นการกระทำของนายบุญจง นอกจากจะเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 (1) ซึ่งอาจถูกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถอดถอนได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 271 แล้ว ยังถือว่าเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า นายบุญจง เป็นข้าราชการเมือง และเป็นส.ส. ซึ่งมีรัฐธรรมนูญ มาตรา 266 กำกับไว้อยู่แล้ว จึงถือว่าการกระทำของนายบุญจง ในขณะนี้เป็นการเหลิงอำนาจ เพราะนายบุญจง ก็รู้กฎหมาย แต่เพราะเหลิงอำนาจ คิดว่าเป็นรัฐบาลแล้วจะทำได้ มีพรรคพวกช่วยเหลือ วันนี้ ถ้านายบุญจงล้ม นาย เนวิน ชิดชอบ คงไม่ยอม
"อยากฝากถึงนายสุเทพ นายบุญจง นายอภิสิทธิ์ ว่าวันนี้ต้องดำเนินการให้โปร่งใส เพราะฝ่ายค้านกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายบุญจง การนำงบประมาณแผ่นดินมาแจกที่บ้าน เป็นการหาประโยชน์ส่วนตัว หวังผลการเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งภรรยาของนายบุญจง ที่เป็นอดีต ส.จ. ก็อาจจะลงสมัครเลือกตั้งในอนาคต วันนี้อำนาจหน้าที่ของนายบุญจง เผื่อแผ่ไปถึงภรรยาด้วย ซึ่งไม่ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเป็นเงินของตัวเอง ผมไม่เถียง แต่นี่เป็นเงินภาษีของประชาชน ผมต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป" นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ ได้เอื้อประโยชน์ให้นายบุญจง โดยการผันงบไปให้หาเสียงในพื้นที่ ซึ่งเป็นกรณีที่ชี้ให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลมีการซูเอี๋ยกัน และตนยังรู้อีกว่านายวิฑูรย์ ได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหาเสียง โดยวิธีเดียวกับที่ให้กับนายบุญจง ซึ่งขณะนี้กำลังเกิดขึ้นในทุกจังหวัด และตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อแจ้งความเอาผิดกับนายวิฑูรย์ต่อไป
**"สุเทพ"ยันไม่ผิด-ไม่ต้องปรับครม.
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนายบุญจงว่าไม่เป็นปัญหา ทาง ป.ป.ช.จะเป็นผู้วินิจฉัยเองว่า จะรับเรื่องไว้พิจารณาหรือไม่ ถ้ารับเรื่องนายบุญจง ก็ต้องไปชี้แจง และหากฝ่ายค้านจะนำไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ตนเดาใจไม่ถูก และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล
เมื่อถามว่า จะต้องปรับครม.หรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ตนยังไม่เห็นว่านายบุญจงทำอะไรผิด ยังไม่จำเป็นต้องปรับครม. ต้องให้ผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ข้อกล่าวหาก่อน รัฐบาลยังให้โอกาสในการชี้แจงกับทุกฝ่าย ทั้งนายบุญจง และกรณีปลากระป๋องเน่า ของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลลดลง โดยเฉพาะนายบุญจงนั้น ตนมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องทุจริตคอร์รัปชันอะไร ส่วนกรณีนายวิฑูรย์ ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นของที่ซื้อหรือได้รับบริจาคมา
**พม.ตั้งกก.สอบ"ปลากระป๋องเน่า"
ด้านนายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ชี้แจงถึงกรณี ถุงยังชีพพบปลากระป๋องเน่าว่า เรื่องนี้ นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการของกระทรวงฯ ขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะกรรมการตรวจสอบการรับจ่ายแจกสิ่งของให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของที่รับบริจาค และการจัดซื้อจากผู้ผลิต เพื่อต้องการให้สิ่งของทุกชิ้นได้มีการตรวจสอบ และของที่ซื้อมาจากผู้ผลิตโดยตรง ก็ต้องมีการปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อของข้าราชการอย่างเคร่งครัด ส่วนอีกชุดคือ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเฉพาะกรณีปลากระป๋องเน่า ให้เป็นผู้รวบรวมหลักฐาน ทั้งหมดในเรื่องนี้ เพื่อเป็นข้อเท็จจริงในการชี้แจงแก่ประชาชน และชี้แจงต่อรัฐสภา
นอกจากคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ที่กระทรวงฯ ตั้งขึ้นแล้ว ทางกระทรวงฯ ยังได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานต่างๆ ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), คณะกรรมมาธิการรัฐสภา, สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงบประมาณ ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจถึงความสุจริตในการทำงาน ซึ่งหลังจากนี้ไปคาดว่าจะได้รับทราบผลจากคณะกรรมการตรวจสอบทุกชุด ที่จะให้ข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด
"ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ท่านรัฐมนตรียืนยันว่าจะรับผิดชอบในทุกประเด็นที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะตอบคำถามในทุกประเด็น ก็ต้องรอดูว่าผลจากการตรวจสอบจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเชื่อว่าคงใช้เวลาในการตรวจสอบไม่นาน ก็จะทราบข้อเท็จจริงทุกอย่าง" เลขาฯรมต.กล่าว
เมื่อถามว่าจากกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะเปิดเผยหลักฐานเด็ด และมีทั้งชื่อย่อในส่วนของบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น นายเอกชัย กล่าวว่า หากว่ามีหลักฐานจริงก็เอาออกมาแสดงเลย ส่วนของชื่อย่อต่างๆ ที่เป็นข่าวนั้น ทางพรรคเพื่อไทยกล้าที่จะระบุ ก็ต้องกล้าที่จะรับผิดชอบด้วย ซึ่งการที่โฆษกพรรคเพื่อไทยบอกว่า หากเปิดเผยชื่อจริงออกมาก็ต้องไม่ฟ้องร้องนั้น ตนมองว่าถ้ามีข้อมูลจริง ใครก็คงจะฟ้องไม่ได้ ไม่ต้องกลัวที่จะโดนฟ้อง
**ยัน"ผู้บริจาคปลากระป๋อง" มีตัวตน
เมื่อถามถึงกรณีตามที่เป็นข่าวที่อ้างว่า นายวิเชน สมมาต เป็นผู้บริจาคปลากระป๋องที่ไม่มีตัวตนนั้น นายเอกชัย กล่าวว่า ตนยืนยันว่านายวิเชน สมมาต มีตัวตนจริง แต่ที่ปรากฎเป็นข่าวว่าไม่มีสถานะตามทะเบียนราษฏร์ ของกระทรวงมหาดไทยนั้น อาจจะมีความคลาดเคลื่อนในการสะกดชื่อ นามสกุล ซึ่งในเรื่องนี้สำนักงานปลัดกระทรวง พม. ก็ได้รับหนังสือ จากพมจ. พัทลุง ผ่านหนังสือเลขที่ พท.0004/132 ลงวันที่ 9 ม.ค.52 โดยมีรายละเอียดว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้รับการประสานจากนายวิเชน สมมาต มีความประสงค์บริจาคถุงยังชีพ โดยจะดำเนินการจัดส่งให้พื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนใน จ.พัทลุง จำนวน 5,000 ชุดนั้น สำนักงานพัฒนาสังคมฯ จ.พัทลุง ได้รับถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด ซึ่งจัดส่งถึงพื้นที่วัดท่าสำเภาเหนือ ต.ชัยบุรี อ.เมืองฯ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 11 ม.ค.52 เรียบร้อยแล้ว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ อาจลอยแพนายวิฑูรย์ นั้นไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องของรัฐบาลที่ทุกคนต้องร่วมมือกันทำงาน ดังนั้นกระแสดังกล่าวไม่น่าจะจริง
**"เพื่อไทย"เชื่อไม่ใช่ของบริจาค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณี กระทรวงพัฒนาสังคมฯ แจกถุงยังชีพแล้วมีปลากระป๋องเน่า โดยนำถุงยังชีพที่มีโลโก้ของกระทรวงพม. จากจ.พัทลุงมาโชว์ด้วย โดยนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่จ.พัทลุง เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ พบว่าถุงยังชีพมีโลโก้ของกระทรวงพัฒนาสังคม แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ใช่ของบริจาค
ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้ ตนเห็นว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะการตั้งลูกน้อง ตั้งปลัด พม. ขึ้นมาตรวจสอบความผิดของนายวิฑูรย์ เป็นเรื่องตลก ควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานอิสระภายนอกที่มีความเป็นกลางเข้ามาตรวจสอบ หากแก้ปัญหาปลากระป๋องเน่าไม่ได้ อาจเน่าทั้งนายกฯ และ ครม.
**"มาร์ค"ไม่ตอบเรื่องปรับครม.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาของนายบุญจง และนายวิฑูรย์ว่า ก็ต้องยอมรับการตรวจสอบ แล้วจะดูว่าข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นอย่างไร ยืนยันไม่มีการดึงเรื่อง เพราะตอนนี้ก็ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเขาตรวจสอบอยู่
เมื่อถามว่ากรณีของนายบุญจง ค่อนข้างชัดเจน เพราะมีการแนบเงินไปกับนามบัตร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะตอนที่ตนถามนายบุญจง ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แล้วตกลงนามบัตรใคร ผู้สื่อข่าวระบุว่า เป็นนามบัตรของนายบุญจง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า"อ้าวตอนแรกบอกว่าเป็นนามบัตรของภรรยา" อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่าถ้าพบว่าทั้งสองคนมีความผิด จำเป็นต้องปรับครม.หรือไม่ นายกฯ กล่าวย้ำว่า คงจะมีข้อสรุปว่าจะเป็นอย่างไร แต่ขอดูข้อมูลจากทุกทางก่อน แต่ทั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ท่านต้องช่วยตรวจสอบด้วย