xs
xsm
sm
md
lg

จ่อปล่อยผี"บ้านเอื้อฯ"145โครงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฉ!ตราบาปประชานิยม"ทักษิณ"โครงการบ้านเอื้ออาทรแสนล้าน โครงการ 145 แห่งทั่วประเทศจมปลัก เหตุก่อสร้างโครงการก่อนสวล.อนุมัติ ด้านสวล.จำเลยสังคม เร่งแก้ปม ชงตั้ง 5 คณะกรรมการสาง145 โครงการ รอเจ้ากระทรวงทรัพยาฯลงนามเดินหน้าทันควัน
"วิฑูรย์ นามบุตร" ตั้งคณะทำงานเจรจาคลัง-รมต.เศรษฐกิจ สางหนี้บ้านเอื้อฯกว่า 9.3 หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ยังมีโครงการบ้านเอื้ออาทรกว่า 145 โครงการทั่วประเทศ ยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) นั้น กำลังเป็นปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ทำให้ผู้ที่ตัดสินใจซื้อโครงการบ้านเอื้อฯเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะเข้าไปอยู่ได้ ซึ่งสาเหตุหลักแล้ว โครงการบ้านเอื้ออาทรเข้าข่ายที่ต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่เนื่องจากลักษณะของโครงการที่ก่อสร้างหลายตึกๆ ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)เห็นว่า หากเป็นเช่นนั้นก็น่าจะเพิ่มความคล่องตัวให้แก่กคช. แต่ได้กำหนดเงื่อนไข ห้ามก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร แต่กลับปรากฏว่า ทางกคช.ไม่ทำตามเงื่อนไขตามที่สผ.วางไว้

" เมื่อเป็นเช่นนั้น 145 โครงการก็ไม่ผ่านเรื่องสิ่งแวดล้อม ขัดต่อพระราชบัญบัติอาคารชุด ทำให้ท้องถิ่นในแต่แห่ง ไม่กล้าที่จะออกใบอนุญาตก่อสร้าง หรือแม้แต่ออกเลขที่ห้องชุด ก็ยังทำไม่ได้ ทีนี้ สถาบันการเงินคงไม่กล้าเสี่ยงให้กู้สินเชื่อซื้อบ้านเอื้ออาทร มันก็เลยคาราคาซังอยู่ แต่กลับกลายเป็นความเสียหายของประเทศชาติ กคช.รู้ แต่อย่าลืมว่า ฝ่ายการเมืองในตอนนั้น ก็ผิดเช่นกัน "แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่สผ.เป็นองค์กรของรัฐที่อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็คงไม่สามารถที่จะปล่อยให้ 145 โครงการอยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงหาวิธีแก้ปัญหา โดยขณะนี้ เตรียมที่จะให้มีคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาดูแลและตัดสินใจโครงการทั้งหมดที่ไม่ผ่านเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยทางสผ.กำลังยกร่างเพื่อให้คณะกรรมการสามารถมีอำนาจทางกฎหมาย และจะมีการเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรฯ ลงนามเห็นชอบ ในเบื้องต้นน่าจะมี 2 คณะกรรมการขึ้นมาดู จากที่เตรียมไว้ 5 คณะกรรมการ

"คณะกรรมการมีอำนาจตรวจสอบเรื่องสิ่งแวดล้อม โครงการใดใน 145 โครงการได้ตามหลักเกณฑ์ ก็ผ่านและให้จัดตั้งนิติบุคคลอาคารชุดได้ ที่เหลือก็ต้องว่ากันไป แต่หลักการแล้ว เราอยากประชาชนได้เข้าไปอยู่อาศัย "

ประชานิยมทำขาดทุน9หมื่นล้าน

วานนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่สำนักงานใหญ่การเคหะแห่งชาติ(กคช.) นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) กล่าวภายหลังการมอบ นโยบายแก่ผู้บริหาร กคช.ว่า ได้เข้ามารับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะจากทางกคช. เพื่อนำไปเป็นแนวทางกำหนดนโยบาย ซึ่งพบว่า ตั้งแต่เริ่มทำโครงการบ้านเอื้ออาทรตั้งแต่ปี 2546 ปรากฏว่า โครงการดังกล่าวได้ขาดทุน และมีหนี้สูงถึง 93,600 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ทาง กคช.ได้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยจะมีคณะทำงานเพื่อประสานร่วมกับกระทรวงการคลัง และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โดยแผนดังกล่าวตนจะนำข้อมูลทั้งหมดไปศึกษาก่อนเสนอเข้าครม.พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ ในเรื่องที่สามารถเร่งรัดดำเนินการที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ก็ให้ทางกคช.รีบดำเนินการทันที อย่างเรื่องที่มีการร้องเรียนด้านที่อยู่อาศัย ก็ได้มอบให้กคช.ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เรื่องไหนที่สามารถทำได้ก็ทำ เรื่องไหนไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องได้ ก็ขอให้มีการชี้แจงให้กลุ่มผู้เรียกร้องได้มีความเข้าใจอย่างชัดเจน พร้อมทั้งยังต้องการให้งดการประชุมหรือดูงานนอกพื้นที่ของผู้บริหารกคช. เพื่อนำงบประมาณดังกล่าว มาช่วยเหลือประชาชนเพิ่มเติมให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

แจกแจงผลงาน-ดูแลชุมชน

ด้านนายสุชาติ ศิริโยธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกคช. กล่าวว่า การดำเนินงานของ กคช.ที่ผ่านมา ได้ทำการพัฒนาที่อยู่อาศัยและแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดทั่วประเทศจนถึงปัจจุบันนี้ รวมทั้งสิ้น 656,094 หน่วย ประกอบด้วย โครงการเคหะชุมชน 140,927 หน่วย โครงการเคหะข้าราชการ 49,766 หน่วย โครงการราชภัฏฯ 2,374 หน่วย โครงการพิเศษและบริการชุมชน 3,980 หน่วย โครงการแก้ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ 258 หน่วย โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ 845 หน่วย โครงการปรับปรุงชุมชนแออัด 289,314 หน่วย และโครงการบ้านเอื้ออาทร 168,630 หน่วย

สำหรับปัญหาภาระหนี้สินของโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่มีกว่า 96,300 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทาง กคช.ได้ขอจัดทำแผนฟื้นฟูเพื่อเสนอแก่ครม. ซึ่งมีดังนี้ 1.การให้ยกเลิกข้อจำกัดในการโอน 5 ปี ให้สามารถโอนได้ทันที 2.ขอให้มีการขายยกชุดอาคารได้ โดยเปิดโอกาสให้เอกชน ซื้อได้ในราคาเดียวกันกับประชาชนทั่วไป 3.ให้มีการสนับสนุนในการอนุมัติสินเชื่อให้มากขึ้น 4. ให้สามารถปรับราคาบ้านได้ตามทำเลที่ตั้ง

5. ให้มีการสนับสนุนเส้นคมนาคมที่ดีในบางพื้นที่ 6. ของบเงินทุนหมุนเวียนซื้อหนี้คืนให้ธนาคารออมสิน วงเงิน 500 ล้านบาท 7.ขอให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย 6 เดือนสำหรับโครงการที่ยกเลิกระหว่างก่อสร้างและโครงการบ้านเอื้อฯที่เพิ่งก่อสร้างเสร็จ และขอให้มีกองทุนดอกเบี้ยต่ำ 3-4% ปล่อยสินเชื่อระยะยาว10-30 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้กู้ที่มีรายได้น้อยมีความมั่นคงในการซื้อบ้าน
กำลังโหลดความคิดเห็น