xs
xsm
sm
md
lg

"กรอบอาเซียน"ผ่านฉลุย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-รัฐสภาเห็นชอบกรอบข้อตกลงอาเซียนทั้ง19 ฉบับ พร้อมตั้งกมธ.พิจารณาเพื่อความรอบคอบ "ตุ๊ดตู่" ตามราวี "กษิต" อ้างเทปคำพูดด่า"ฮุนเซน" หวังปั่นหัวเขมร ด้าน"กษิต” ยันสัมพันธ์แนบแน่นผู้นำเขมร โชว์สาน์สแสดงความยินดีกับรัฐบาลใหม่ตบหน้าบรรดาสมุนแม้ว ระบุเรื่องขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ด่าเขมร เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และอธิปไตยของชาติ เป็นไปตามการเมืองภาคประชาสังคม ส่วนการประชุมช่วงบ่ายป่วนอีก ฝ่ายค้านเช็กกำลังอีกรอบ ขณะที่"ลิ่วล้อแม้ว"พล่าน หลังโดน"บุญยอด"โต้สุนัขรับใช้ สมุนทรราชย์

การประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 2 เพื่อพิจารณากรอบ ข้อตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน หรือ อาเซียนซัมมิท เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.47 น. วานนี้(27ม.ค.) หลังจากรอสมาชิกมาให้ครบองค์ประชุม แต่ กว่าจะเข้าสู่สาระ ก็ต้องเสียเวลาไปกับการถกเถียงกันระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้าน กับส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอยู่กว่า2 ชั่วโมง
กว่าจะมีมติเห็นชอบปิดอภิปรายกรอบความร่วมมืออาเซียน กรอบ 1 ที่อภิปรายค้างมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 26 ม.ค. และเริ่มการอภิปรายในกรอบ 2 โดยมีวาระสำคัญคือ ร่างความตกลงพหุภาคีอาเซียน ว่าด้วยการเปิดเสรีบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยมีนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เข้ามานั่งฟังการประชุมอยู่บนบัลลังก์ที่นั่งรัฐมนตรีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดำเนินไปไม่ถึง10 นาที นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทยได้ลุกขึ้นจี้ให้นายกษิต ตอบคำถามตามที่นายกรัฐมนตรีระบุไว้ในที่ประชุมสภาเมื่อวันก่อนว่านายกษิต จะมาตอบข้อซักถามของสมาชิกในวันนี้ อยากถามว่า พร้อมตอบหรือไม่ ไม่ใช่มานั่งในสภาเงียบ แต่อวดดีอยู่ข้างนอก
จากนั้นนายกษิต ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่นี่เป็นสภาอันสูงส่งในฐานะที่เป็นเด็กใหม่ ก็ขอเป็นศิษย์มีอาจารย์ ขอฝากผีฝากไข้ไว้ในที่นี้ด้วย ขอความกรุณาเอ็นดูให้ตนได้เรียนงานเพื่อจะปฏิบัติหน้าที่ให้กับประเทศชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งตนเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศกัมพูชา จึงขอโทษสมาชิกด้วย ที่ไม่เดินทางมาชี้แจงในสภานี้ในวันที่ 26 ม.ค.ได้ ขณะเดียวกันก็ขอถือโอกาสนี้ส่งความปรารถนาดีจากสภาล่างของกัมพูชา มายังประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกทั้งหมด และบอกว่าพร้อมร่วมมือกับรัฐสภาในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทั้งสองฝ่าย ในการนำพาความเป็นประชาธิปไตยแก่ประเทศทั้งสอง และพร้อมให้ความร่วมมือในกรอบภูมิภาคต่าง ๆ โดยเฉพาะอาเซียน
นายกษิต กล่าวว่าในเรื่องส่วนของตน ตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ และมุ่งมั่นส่งเสริมครรลองระบอบประชาธิปไตย และเป็นการดำเนินงานที่เปิดเผยอยู่ในที่สาธารณะอยู่ในที่กว้าง ไม่มีประเด็นปัญหาที่มีการหมกเม็ด และซ่อนเร้นใดๆ ทั้งสิ้น ตนภูมิใจที่ได้มีส่วนจรรโลงให้ระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยมีความคืบหน้าเป็นสำคัญ และพร้อมที่จะใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้ทำให้ความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทยสมบูรณ์แบบ
สำหรับภาระหน้าที่ในกระทรวงการต่างประเทศ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา การยอมรับก็ดี การมีมิตรจิตมิตรใจจากประชาคมโลกก็มีอย่างเต็มที่ มีสาส์นแสดงความยินดีจากประเทศต่างๆ มาถึงนายกรัฐมนตรี และตนได้พบปะกับรมว.ต่างประเทศต่างๆ 3-4 ประเทศ รวมถึงได้พบกับคณะทูตต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนม.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมด้านเศรษฐกิจและการเงินที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งจะได้พบกับนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ส่วนตนก็ได้รับทาบทามว่าจะมี รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศส และอินเดียเข้าพบ ขอหารือด้วย
"เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การมารับตำแหน่งของผมไม่น่าจะมีประเด็นปัญหาอันใดที่จะนำพานโยบายของประเทศไทย และทำงานในกรอบของครม. และถ้อยแถลงของนายกฯ ต่อรัฐสภา รวมทั้งมติครม.เศรษฐกิจ การพบปะภาคเอกชน และที่น่าชื่นชมยินดีคือ จากการพบกันเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการจัดพิธีต้อนรับสมบูรณ์แบบ พบกับบุคคลสำคัญ และพบกษัตริย์สีหมุนี สมเด็จมหาเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรี รวมถึงประธานสภาสูง และประธานสภาล่างของกัมพูชา และได้หารือร่วมกับสมเด็จฮุน เซน นานร่วมชั่วโมง โดยท่านได้พูดถึงรายละเอียดของการดำเนินความสัมพันธ์ด้วย และสิ่งที่ สมเด็จฮุนเซน กล่าวหลายครั้งคือ อยากให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศดำเนินไปในสันติวิธี จะไม่มีการใช้กำลังรุนแรง ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยการพูดจา และเครือข่ายองค์กรที่เรามีอยู่ในระดับทวิภาคี ที่จะให้มีการเจรจา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตแดน ความมั่นคง หรือความร่วมมือต่างๆ นั้นก็จะให้มีการดำเนินการไป และภาครัฐทั้งสองจะส่งเสริมอย่างเต็มที่"
นายกษิต กล่าวว่า สำหรับประเด็นปัญหาเฉพาะหน้าที่เกี่ยวกับการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ตนขอเน้นว่าข้อผูกมัดของประเทศไทยต่ออาเซียนทั้ง 9 ประเทศ ให้ความเห็นชอบหมดแล้ว รอประเทศไทยอยู่ ไทยเป็นคนก่อตั้งสมาคมอาเซียน และมีนี้เราเป็นประธานอาเซียน ทุกคนที่เข้าประชุม และประชาชนทั้ง 65 ล้านคน มีภาระหน้าที่ในการเป็นเจ้าภาพร่วม ส่งเสริมให้อาเซียนแข็งแกร่ง ยืนหยัดอย่างสง่างามอยู่ในโลกกว้างนี้ได้ และเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องของเราทุกคน จะเป็นฝ่ายค้าน รัฐบาล สภาล่าง สภาสูง จะต้องร่วมมือกัน เพื่อศักดิ์ศรีความสง่างามของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน และเป็นผู้ก่อตั้งอาเซียน และที่สำคัญที่สุดคือ เราสามารถเป็นผู้นำต่อไปได้อีกในการที่จะให้ประเทศไทยและอาเซียนสง่างาม

**"ตุ๊ดตู่"ป่วนแหลก ต้องพัก5 นาที
อย่างไรก็ตาม นายจตุพร ยังคงไม่พอใจต่อคำชี้แจงดังกล่าว โดยกล่าวหานายกษิต พูดจาดูหมิ่นสมเด็จฮุนเซ็น ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ หลายคนลุกขึ้นประท้วงว่า การอภิปรายของนายจตุพร ไม่อยู่ในกรอบข้อตกลงความร่วมมืออาเซียน และเป็นการข่มขู่บุคคลผู้เป็นปฏิปักษ์ทางการเมือง มุ่งหมายใส่ร้ายโจมตีรัฐมนตรี และการอภิปรายในประเด็นก่อนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี และไม่อยู่ในหน้าที่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่น่าจะนำมาอภิปรายได้ ทำให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ได้กล่าวตำหนินายจตุพร ว่าให้เลิกใส่ร้ายป้ายสีได้แล้ว แต่ นายจตุพร ยืนยันว่า ตนไม่ได้ใส่ร้ายป้ายสีนายกษิต เพราะสิ่งที่ตนนำมาเสนอเป็นคำพูดจากการถอดเทป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการประชุมค่อนข้างตึงเครียด เมื่อบรรดาส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงส.ว.ได้ลุกขึ้นประท้วงกันอย่างต่อเนื่อง โดยนายจตุพร กล่าวยืนยันซ้ำหลายครั้งว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า ให้ถามเรื่องนี้กับนายกษิต ด้วยตัวเองในช่วงการชี้แจงในสภา ทำให้นายโกวิท ธารณา ส.ส.กทม. ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ถ้าพูดกันอย่างนี้ ก็ต้องขอยกกรณี ดา ตอปิโด นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจักรภพ เพ็ญแข ที่มีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งถือว่าเป็นคนเสื้อแดง ดังนั้นจะให้คนพวกนี้เข้ามาพูดในสภาไม่ได้ ทำให้นายจตุพร ถึงกับแสดงอาการโมโห โดยประกาศว่า "ถ้าจะเล่นกันก็เอากันสิ" เมื่อสถานการณ์เริ่มวุ่นวาย นายชัย จึงได้ตัดบทด้วยการสั่งพักการประชุม 5 นาที

**ยันพูดเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเริ่มประชุมอีกครั้ง นายกษิต ได้ชี้แจงข้อข้องใจของนายจตุพร พรหมพันธ์ ที่ระบุว่า นายกษิต เคยขึ้นเวทีพันธมิตรฯ และเคยพูดโจมตีสมเด็จฮุนเซ็น จากกรณีข้อพิพาทที่ปราสาทพระวิหาร ว่า ปัญหาของตนกับกัมพูชา จากการที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯนั้น เป็นการแสดงจุดยืนของความรักชาติ ปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์ชาติ ถึงได้พูดอย่างนั้น เพื่อจะบอกว่าไม่สามารถมาละเมิดอธิปไตย หรือศักดิ์ศรีของประเทศและกองทัพไทยได้ เป็นการพูดในฐานะประชาชนที่หวงแหนและรักชาติ ตามกระบวนการเมืองภาคประชาสังคมที่ต้องการความชอบธรรม และถูกต้อง ส่วนความสัมพันธ์ของตนกับสมเด็จฮุนเซ็น คำพูดแรกที่ท่านพูดกับตนคือ ไม่ได้เจอกันมา 20 ปี จากที่เราเคยร่วมประชุมอยู่ที่กรุงปารีส ซึ่งตนและสมเด็จฮุนเซ็น ก็อยู่กันคนละฟาก เราต่อสู้เพื่ออธิปไตยและความถูกต้องของประเทศ และต่อต้านภัยคอมมิวนิสต์ จนประสบความสำเร็จ ซึ่งไทยมีส่วนสำคัญ มาวันนี้ทั้งนายกฯ ตน และสมเด็จฮุนเซ็น มีหน้าที่กระชับความสัมพันธ์ ซึ่งได้ตกลงกันแน่ชัดว่า เราจะพูดจากันด้วยสันติวิธี ไม่มีการใช้กำลัง

**ย้ำสิ่งที่ทำในอดีตเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
"ท่าน(ฮุนเซ็น) ก็ไม่ได้พูดถึงอดีต เพราะต่างคนต่างก็มีอดีตของการต่อสู้เพื่อความชอบธรรม เพื่อความเป็นประชาธิปไตย ด้วยกันทั้งนั้น วันนี้เข้ามาร่วมรัฐบาล ผมเป็นเด็กที่มีวินัย และจะทำอยู่ในกรอบ อดีตเมื่อวานก็ว่ากันไป ส่วนที่บอกว่าชาวโลกไม่ยอมรับผม ก็ขอเรียนว่าที่ผ่านมามีสาส์นแสดงความยินดี และมีวาระที่จะไปพบปะกับต่างประเทศจนถึงสิ้นปีนี้ เป็นเครื่องแสดงถึงการทำหน้าที่อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่มีปัญหากับรัฐบาล หรือชาวต่างประเทศทั้งสิ้น ขอยืนยันว่าเนื้อหาและประสบการณ์ของผม จะนำพานโยบายของประเทศไทยได้ วันนี้เรามาอยู่อีกตำแหน่งที่ต้องนำพาประเทศ และต้องร่วมมือกับต่างประเทศ อย่าได้สงสัยในตัวผมเลยว่าจะทำงานไม่ได้ หรือมีอดีตที่จะมาทำลายล้างศักดิ์ศรีของไทย แต่ผมเชื่อว่า อดีตที่ผ่านมาเป็นสิ่งถูกต้อง"
นายกษิตกล่าวว่า ใน ส่วนการประท้วงปิดสนามบินนั้น ในมิตรประเทศทั่วโลกก็มีการประท้วง ก็มีการป้องกันไม่ให้เข้าสนามบิน เราจะได้ยินเสมอว่า ในช่วงฤดูร้อน ฤดูหนาวจะมีการประท้วงโดยนักบินบ้าง ผู้ทำงานบนเครื่องบินบ้าง ต่างๆเหล่านี้ก็มีการปิดสนามบินตลอดเวลา แต่ตนไม่เห็นประเทศไหนต้องเอาเงินมาชดเชยกับนักท่องเที่ยว แต่ที่พิเศษสุดคือ รัฐบาลนี้ พร้อมจะดูแลผู้ที่เสียประโยชน์หรือติดค้างต่อไปนี้ และจะวางมาตรการภายใต้ความมั่นคงอย่างรัดกุม ที่สำคัญคือ รัฐบาลจะตอบสนองปากท้องของประชาชนโดยไม่มีเรื่องวาระส่วนตัว และไม่ให้ใครมาสร้างความแตกแยกอีก

**สภาเห็นชอบเอกสารกรอบอาเซียน
อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ในที่สุดที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเอกสารสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือในกรอบอาเซียน และการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน และเอกสารเกี่ยวกับความร่วมมือกับประเทศคู่เจรจาในกรอบอาเซียน บวก 3 และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก รวม9 ฉบับ และเห็นชอบต่อกรอบการเจรจายกร่างขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรสิทธิมนุษยชนอาเวียน และกรอบการเจรจาประเด็นกฎหมายภายใต้กฎบัตรอาเซียน ภายใต้การพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระดับสูงว่าด้วยกฎบัตรอาเซียน ซึ่งในกรอบนี้ ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมา จำนวน 36 คน และพิจารณาให้เสร็จภายใน 15 วัน

**"ส.ส.ขวด"ป่วนต้องพักประชุมรอบ2
จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา กลุ่มที่2 ซึ่งเป็นกรอบเกี่ยวกับการค้า และการลงทุน ซึ่งบรรยากาศในช่วงแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส.ส.-ส.ว. ผลัดกันลุกขึ้นอภิปรายติติงและสนับสนุนกรอบข้อตกลงอาเซียน แต่เมื่อมาถึงเวลา 14.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ นายประสพสุข บุญเดช รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ส.ส.ฝ่ายค้านเริ่มเรียกร้องให้สมาชิกเข้ารับฟังการประชุม และเสนอให้มีการนับองค์ประชุม ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนลุกขึ้นท้วงติง เช่น นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ตามมารยาทเขาจะไม่ทำกันอย่างนี้ และขณะนี้มีสมาชิกจำนวนมากรับฟังการอภิปรายอยู่นอกห้องประชุม จึงไม่จำเป็นต้องให้มีการนับองค์ประชุม แต่นางนฤมล ยังคงยืนยันให้นับองค์ประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในที่ประชุมเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง เมื่อนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ตอบโต้คารมกับส.ว. และส.ส.ฝ่ายรัฐบาลอย่างดุเดือด โดยได้กล่าวว่า นายบุญยอดเป็น ผู้สื่อข่าวเผด็จการ จนได้รับการโต้กลับว่า เป็นสุนัขรับใช้ สมุนทรราชย์ ทำให้ ส.ส.เพื่อไทย ต่างลุกขึ้นประท้วงกันวุ่นวาย และขอให้ถอนคำพูด ขณะที่นายสุนัย ได้ลุกขึ้นชี้หน้าด่านายบุญยอดว่า ขึ้นเวทีหลังวันที่ 19 ก.ย.49 ล้มรัฐบาลประชาธิปไตยมาแล้ว จนในที่สุด นายประสพสุข ได้สั่งพักการประชุม 10 นาที เพื่อให้สมาชิกไปสงบสติอารมณ์ก่อน
จากนั้นก็มีการเรียกประชุมอีกครั้ง โดยมีนายชัย ทำหน้าที่ประธาน และได้มีการตรวจสอบองค์ประชุม ด้วยการเสียบบัตร ซึ่งปรากฎว่า มีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมจำนวน 345 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จึงได้ประชุมต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายวิรัช กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้นำกรอบทั้งหมดมาพิจารณาพร้อมๆ กันไปเลย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมก็เห็นด้วย จนเมื่อสมาชิกได้อภิปรายจนครบ ที่ประชุมได้มีมติให้ความเห็นชอบในเอกสาร อีก 19 กรอบ โดยในส่วนของร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงแรงงาน แห่งสาธารณรัฐเกาหลี และกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปสาธารณรัฐเกาหลีภายใต้ระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ที่ประชุมมีมติให้ใช้คณะกรรมาธิการวิสามัญในชุดเดียวกันพิจารณา จากนั้นนายชัย ได้สั่งปิด ประชุมเมื่อเวลา 19.20 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น