xs
xsm
sm
md
lg

ซุก!จาบจ้วงสถาบันม็อบบังหน้าตร.แกล้งโง่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ม็อบ นปช.เสื้อแดงสุดแสบปิดรูปในหลวง-ราชินี ข้างข้อความ “อภิสิทธิ์ชนโจร” บนเวทีปราศรัยหน้าสภา นักวิชาการ ผู้รู้ วิพากษ์ไม่เหมาะสม ส่อเจตนาพิเศษ "ส.ว.อนุศาสตร์" ยันหมิ่นเบื้องสูง "วีระ" แนะแจ้งความเอาผิด "สุริยะใส" แฉไม่ใช่ครั้งแรก "ตู่ นปช.”แก้ตัวพัลวัน ขณะที่สันติบาลระบุสั่งบันทึกภาพฉากหลังเวทีไว้ ตรวจสอบแล้ว "อำนวย" ยังหน้ามืด ย้อนถาม "มันผิดตรงไหน"

จากกรณีเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ ม็อบเสื้อแดง ได้ชุมนุมปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางมิให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 176 โดยที่ กลุ่ม นปช.เริ่มชุมนุมมาตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค.ต่อเนื่องจนถึงวานนี้ (29 ธ.ค.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสายของวันที่ 29 ธ.ค.นั้น ที่บริเวณเวทีปราศัยของกลุ่ม นปช.ซึ่งตั้งอยู่หน้ารัฐสภานั้น มีการนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มาติดที่ฉากหลังของเวที พร้อมทั้งข้อความที่อยู่บริเวณด้านข้างขนาดใหญ่ว่า “อภิสิทธิ์ชนโจร” ทั้งนี้ รูปพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวนั้นได้นำมาติดตั้งในวันที่ 29 ธ.ค.เป็นวันแรก ซึ่งเป็นวันแถลงนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ฉากหลังเวทีดังกล่าวยังมีเพียงข้อความว่า “อภิสิทธิ์ชนโจร” เท่านั้นและไม่มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์

ทั้งนี้ การนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาติดด้านข้างข้อความ “อภิสิทธิ์ชนโจร” นั้น ทำให้เป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวางทั้งจากผู้ที่พบเห็นและสื่อมวลชนว่าไม่เหมาะสม จนมีการโพสต์ในเวปไซต์ต่างๆ รวมทั้งยังมีการเสนอภาพข่าวในช่วงข่าวภาคเที่ยงของสถานีโทรทัศน์หลายช่องด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า อาจถูกตีความที่ล่อแหลมนำไปสู่การละเมิดสถาบันได้ อย่างไรก็ตาม มีการขอร้องให้แกนนำ นปช.เอาภาพพระบรมฉายาลักษณ์ออกจากเวที จนทำให้แกนนำต้องปลดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ออกจากหลังฉากเวทีในช่วงเที่ยง เหลือเพียงแค่ข้อความว่า “อภิสิทธิ์ชนโจร” เท่านั้น

**"ปนัดดา"ชี้เป็นเรื่องไม่สมควร**

ม.ล.ปนัดดา ดิสกุล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่ม นปช.ใช้ฉากหลังเวทีปราศรัยหน้ารัฐสภาโดยมีพระบรมฉายาลักษณ์และข้อความที่ส่อไปในการดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯโดยขอให้ผู้สื่อข่าวบรรยายภาพที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทันที ที่ผู้สื่อข่าวรายงานให้ทราบจบ ม.ล.ปนัดดา ได้อุทานออกมาว่า โอ้โห เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำ ตนแปลกใจทำไมถึงกำหนดภาพ และการกระทำเช่นนี้ น่าจะมีคำอธิบายได้ว่า ที่ปฏิบัติไปเช่นนั้นมีความหมายไปในทางหนึ่งทางใดอย่างไร

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ตามจารีตประเพณีของคนไทยแล้ว พระบรมฉายาลักษณ์ของล้นเกล้าทั้ง 2 พระองค์เป็นที่เคารพเทิดทูนบูชาของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ตนคงจะเรียนเพียงเท่านี้ก่อน จะติดตามดู อะไรก็ตามที่มีการใช้พระบรมฉายาลักษณ์ หรือถ้อยคำในการต่างๆ ไม่เพียงแต่เฉพาะการชุมนุมของประชาชนในลักษณะเช่นนี้เท่านั้น คงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนจะต้องช่วยกันตรวจตรา และมีความพินิจพิเคราะห์ละเอียดรอบคอบเป็นอย่างสูง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำลักษณะนี้เป็นความผิดข้อหาดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหรือไม่ ม.ล.ปนัดดา ตอบว่า ตนยังตอบไม่ได้เพราะยังไม่เห็นภาพดังกล่าว อย่างไรก็ตามขอฝากให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องช่วยกันสำรวจตรวจตรา อย่าให้กลับกลายเป็นปัญหาของความแบ่งแยก หรือความขัดแย้งระหว่างพี่น้องประชาชนคนไทยกันอีกเลย

**ส.ว.ฟันธงหมิ่นเบื้องสูง**

นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยในเรื่องเดียวกันว่า รู้สึกตกใจ ถือเป็นการท้าทายของกลุ่ม นปช. เนื่องจากสถาบันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเทิดทูนเหนือหัว นปช.ทำอย่างนี้ไม่เหมาะสม ยิ่งตัวอักษรที่อยู่เคียงข้างที่ว่า "อภิสิทธิ์ชน โจร"เป็นคำเขียนที่รุนแรง อุจาด ซึ่งเรื่องอย่างนี้จะมาแก้ตัวทีหลังไม่ได้ เพราะเวทีที่นำไปใช้เป็นเวทีทางการเมือง โดยเฉพาะเวทีการประท้วงยิ่งไม่ควร ซึ่งการที่ นปช.ทำอย่างนี้ ทำให้คนฉุกคิดตามไม่ได้ว่าเป็นไปในแง่อื่นใด นอกเหนือจากหมิ่นเบื้องสูง

อย่างไรก็ตาม นายอนุศาสตร์ กล่าวย้ำว่า เป็นการท้าท้าย เป็นการหมิ่นฯ ซึ่งการจะตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ หรือนำพระบรมฉายาลักษณ์มาขึ้นบนเวทีต้องมีโต๊ะหมู่บูชา แต่ นปช.ไม่มีบนเวทีแต่กลับเป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์กับตัวอักษรที่อ่านแล้วรุนแรง ตนขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องพิจารณาประเด็นนี้ให้จริงจังด้วย อย่านิ่งเฉย หรือปล่อยผ่านเลย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นอยู่ต่อหน้า ก็ควรตัดสินใจได้เลยว่าจะทำอย่างไร

**"วีระ" ชี้มีเจตนาพิเศษจี้เอาผิด

นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คตป.)เปิดเผยถึงกรณีเดียวกันว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการชี้นำที่แฝงด้วยเจตนาบอกว่าทั้งสองพระองค์เป็น "อภิสิทธิ์ชน โจร" ซึ่งภาพพระบรมฉายาลักษณ์ใด ๆ ก็ตามการที่จะมาเป็นฉาก หรือเผยแพร่ใดๆ ต้องได้รับอนุญาตก่อนทุกครั้ง แต่การนำภาพในหลวง กับราชินีมาใช้ทำอย่างนี้เข้าข่ายผิดกฎหมาย ประชาชนคนใดเห็นฉากดังกล่าวและมีหลักฐาน สามารถเข้าแจ้งความเอากับ นปช.ในข้อหาฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ทุกเมื่อ แต่ในแนวทางการต่อสู้ในด้านกฎหมายถือว่า นปช.ฉลาดพอสมควร เพราะทำให้ก้ำกึ่งต่อการเอาผิดได้ หากอัยการ หรือในด้านพนักงานสอบสวน ขาดพยานหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนักก็หลุดง่าย เพราะ นปช.สามารถอ้างได้ไม่มีเจตนา ไม่ตั้งใจลบหลู่ ถ้าจะลบหลู่คงไม่นำมาขึ้นแบบนี้ และยิ่งถ้า นปช.อ้าง ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ยิ่งเอาผิดหมิ่นเบื้องสูงไม่ได้

ดังนั้น ตนเห็นว่าอัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำให้เห็นถึงเจตนาพิเศษ ที่ นปช.ทำไปเพราะต้องการให้เกิดความเสียหายต่อทั้ง 2 พระองค์ ถึงจะดำเนินคดีผู้ที่ไม่จงรักภักดีได้

อย่างไรก็ตาม นายวีระ กล่าวว่า ส่วนตัวมั่นใจ นปช.มีเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ไม่รู้ว่าในชั้นศาลแล้วจะมีหลักฐานที่จะทำให้เห็นเหมือนเราหรือไม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งพนักงานสอบสวนในคดีหมิ่นเบื้องสูง ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าต้องการทำให้เกิดความเสียหาย ดูหมิ่น เกียดชัง ลบหลู่ ซึ่งองค์ประกอบภายใน และองค์ประกอบภายนอก ต้องสอดคล้องชี้ชัดในเจตนาให้เห็นมีคนทำผิดจริง จึงจะทำให้ผู้ที่จงใจกระทำไม่บิดพลิ้วในข้อกฎหมายได้

**"เจิมศักดิ์" มองเป็นเรื่องแปลก**

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กล่าวว่า ตนทราบเรื่องนี้แล้วมีสมาชิกวุฒิสภามาเล่าให้ฟัง แต่ยังไม่เห็นภาพที่เป็นฉาก แต่ตนรู้สึกว่าคนไทยทุกคนที่รักชาติเค้าจะไม่ทำอะไรที่ก้าวล่วง หรือเรื่องที่ก้าวก่ายพระมหากษัตริย์ที่ทำให้ประชาชนด้วยกันรับไม่ได้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นของสูง การนำภาพที่ตีความเป็น 2 แง่ มาทำเป็นฉากหรือทำการใด ๆ คนไทยเค้าไม่ทำกัน ส่วนตัวมองเป็นเรื่องแปลก ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่า การจะจงรักภักดีต้องเอาภาพไปขึ้นบนเวทีด้วยหรือ และการที่มีองค์ประกอบเป็นตัวหนังสือ เป็นข้อความใด ๆ ต้องดูเจตนานำมาใช้งานอะไร เอาภาพมาทำไม

**"ทองใบ" ชี้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม**

นายทองใบ ทองเปาด์ ทนายความรางวัลแมกไซไซ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ภาพพระบรมฉายาลักษณ์มีไว้เพื่อสักการะ จะนำมาใช้เพื่อการโฆษณาไม่ได้ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ ระบุไว้ชัดเจน พระมหากษัตริย์ ราชินี มีเพื่อสักการะ ผู้ใดละเมิด ถือว่ามีความผิด ซึ่งจะนำมาเป็นวัตถุทางการเมืองยิ่งไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง เป็นเรื่องมิบังควร ซึ่งการจะเคลื่อนไหวทางการเมืองในเรื่องใดก็ตาม อย่าไปเอาเบื้องสูง หรือสถาบันมาเกี่ยวข้อง ซึ่ง นปช.ต้องทำตามวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมืองอยู่แล้วไม่ควรนำมาใช้เพื่อการโฆษณา

**“สุริยะใส” แฉไม่ใช่ครั้งแรก**

ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มิบังควรอย่างยิ่ง ที่กลุ่ม นปช.ทำฉากเวที โดยมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ อยู่แถวเดียวกับคำว่า “อภิสิทธิ์ชนโจร” ถือเป็นการส่อเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้ ในช่วงพันธมิตรฯ ชุมนุม และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชทานเพลิงศพ น้องโบว์ ในช่วงนั้น นปช.จัดเวทีที่สนามหลวงก็ทำฉากเวทีที่มีรูปไดโนเสาร์สวมแหวนเพชรบลูไดมอนด์ และ นายสุชาติ นาคบางไทร แกนนำ นปช.ก็ปราศรัยหมิ่นสถาบันจนถูกออกหมายจับ หรือปล่อยให้มีธงชาติไทยที่มีข้อความพ่อก็ไม่รัก แม่ก็ลำเอียง ปรากฏในที่ชุมนุมที่สนามศุภฯ

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า เข้าใจว่า แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพยายามจะซ่อนความหมาย หรือนัยยะของการเคลื่อนไหวเพื่อให้มวลชนเข้าใจ และเชื่อว่า สถาบันเบื้องสูงอยู่คนละฝั่งกับขบวนการคนรักทักษิณ ถือเป็นการจาบจ้วงซ่อนรูป หากจะแสดงความจงรักภักดีจริงจะต้องจัดวางพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่สูงสุด หรือในที่ที่อันควร

ส่วนที่กลุ่ม นปช.อ้างว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการเลียนแบบการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า อยากเสนอแนะว่า อย่าเลียนแบบเฉพาะรูปแบบ ต้องศึกษาและเลียนแบบเนื้อหาการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ด้วย โดยเฉพาะเนื้อหาการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ที่ต่อสู้เพื่อการเมืองใหม่ แต่เนื้อหาของกลุ่ม นปช.เป็นการต่อสู้เพื่อคนๆ เดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า ในช่วงพันธมิตรฯ ชุมนุมหน้าสภา หรือหลายๆ ที่ แกนนำ นปช.ก็เคยเสนอแนะรัฐบาลให้ใช้กำลังสลายการชุมนุมตลอดเวลา จนเกิดเหตุการณ์ปราบปรามประชาชนในวันที่ 7 ตุลาคม แต่ในการชุมนุมของ นปช.นั้น แกนนำพันธมิตรฯ ไม่เคยเสนอให้ตำรวจใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม หรือใช้รูปแบบ 7 ตุลาคม เข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซ้ำยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิการเคลื่อนไหวด้วย

สำหรับการชุมนุมปิดสภา กดดันให้ยุบสภา นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งสังคมวงกว้างจะไม่ตอบรับ สุดท้ายก็คงจะอ่อนกำลังไปเอง และจะเห็นว่า ที่หน้าสภาครั้งนี้คนก็มาน้อยกว่าที่แกนนำระบุ ไม่ถึงหมื่นคนด้วยซ้ำ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเรื่องความรุนแรงและการจลาจล เพราะอาจเข้าทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายและการรัฐประหารในที่สุด

**“ตู่ นปช.” แก้ตัวพัลวัน**

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีใครนำรูปพระบรมฉายาลักษณ์ดังกล่าวไปติดที่ฉากเวทีปราศรัย แต่ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาละเมิดสถาบันแน่นอน เพราะกลุ่ม นปช.ต้องการแสดงให้เห็นว่า นปช.เทิดทูนสถาบัน แต่เนื่องจากมีความพยายามเชื่อมโยงเรื่องดังกล่าว จึงนำรูปดังกล่าวลง เพื่อป้องกันไม่ให้ไปขยายผลต่อไป และทำให้เกิดปัญหาได้ ส่วนข้อความว่า “ไม่ไว้วางใจ อภิสิทธิ์ชนโจร” นั้น เราต้องการโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เท่านั้น ไม่มีนัยแอบแฝง

พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่า มีการนำพระบรมฉายาลักษณ์มาติดตั้งเป็นฉากหลังเวที แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ส่วนตัวเห็นว่าไม่เสียหาย และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเป็นการเทิดทูน คนไหนที่ไม่เทิดทูนก็ไม่ใช่คนไทย และคิดว่า ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะชาวไทยต่างเทิดทูนอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่ต่างเทิดทูนเพราะพระองค์ท่านเป็นเหมือนเครื่องเตือนสติ ส่วนที่มีการรื้อภาพภายหลังนั้น ก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะช่วงปราศรัยก็ไม่ได้สังเกต ส่วนเสียงวิจารณ์นั้นก็สามารถโจมตีได้ทุกเมื่อ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ในพรรครู้เห็นกับการนำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาติดด้วยหรือไม่ พ.ต.ท.สุรทิน กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ ส่วนใครเอาออกก็ไม่ทราบ

**สันติบาลขอตรวจสอบ**

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.ท.ธีรเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวว่า ต้องดูที่เจตนาของกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย จะให้ไปพิพากษาว่าผิดเลยนั้นยังไม่ได้ ต้องมีการสอบสวนผู้ที่นำไปติด หากพบว่าเข้าข่ายคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหน่วยใดที่พบ ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ ซึ่งก็ต้องนำเรื่องเข้าคณะกรรมการพิจารณาคดีหมิ่นฯ ซึ่งมีอยู่ทุกกองบัญชาการทั้งตำรวจนครบาล สันติบาล และที่อื่นๆ

พล.ต.ท.ธีรเดช กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมว่า ปกติก็มีตำรวจสันติบาลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่คอยสังเกตุการณ์อยู่แล้ว ก็จะให้ตำรวจสันติบาลที่อยู่ในพื้นที่บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานก่อน จากนั้นก็จะนำมาตรวจสอบถึงความเหมาะสมและเจตนาของผู้กระทำว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็ต้องนำข้อมูลให้คณะกรรมการพิจารณาอีกครั้งตามขั้นตอน

**"นวย" ย้อน! ผิดตรงไหน**

ขณะที่ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะ รองโฆษก บช.น. ปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชน เกี่ยวกับภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และพระบรมราชินีนาถ ที่ติดอยู่ด้านหลังเวที กลุ่มม็อบเสื้อแดง ว่าอาจจะเป็นการหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งถือว่ารัฐเป็นผู้เสียหาย และตำรวจสามารถดำเนินการเอาผิดได้ทันที โดย พล.ต.ต.อำนวย ย้อนกลับว่า ภาพนี้คุณคิดว่าผิดตรงไหน อย่าคิดเอาเองว่าผิด และบอกว่าเป็นมุมมองของคน หากคนที่มองมีอคติก็จะมองว่าภาพดังกล่าว เป็นการหมิ่นเบื้องสูง แต่หากไม่มีอคติก็จะมองว่าเป็นการเชิดชูสถาบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่สื่อมวลชนตั้งคำถาม ก่อนจะมีการแถลง และมอบภาพดังกล่าวแก่ พล.ต.ต.อำนวย ผ่านทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ ว่า ไม่ควรถามต่อหน้ากล้องทีวีเพราะเป็นการไม่เหมาสม ควรที่จะถามเป็นการส่วนตัว แต่เมื่อมีการแถลงข่าวเสร็จสิ้น และพยายามสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.อำนวย ก็ปฏิเสธที่จะตอบ

**แกนนำติดบ่วงคดีหมิ่นเบื้องสูง**

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้กลุ่ม นปช.ถูกจับตามองหลายครั้งว่าละเมิดสถาบันจากการจัดเวทีตั้งแต่เมื่อครั้งต่อต้าน คมช.ที่สนามหลวง ซึ่งครั้งนั้นมีการแจกใบปลิวรวมถึงการปราศัยหลายครั้งที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบัน ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ถูกวิจารณ์ว่าไม่เคารพสถาบันซึ่งเป็น 1ใน4 เหตุผลของการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2549 ซึ่งทุกครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอิน เข้ามายังมวลชนเสื้อแดงนั้น จะยืนยันเสมอว่าจงรักภักดีต่อสถาบัน ทุกอย่างเป็นข้อกล่าวหา และยังขอพึ่งพระบารมีให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย

นอกจานี้แกนนำกลุ่ม นปช.บางคนเช่น นายจักรภพ เพ็ญแข ยังมีคดีหมิ่นสถาบันจากการพูดที่ประเทศอเมริกา จนทำให้นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี กดดันให้นายจักรภพ ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง นายวีระ มุกสิกะพงศ์ ถูกดำเนินคดีหมิ่นเบื้องสูง กรณีการปราศัยหลายครั้งที่เวทีสนามหลวง ก็เคยมีการวิพากวิจารณ์ถึงฉากหลังเวทีที่มีรูปไดโนเสาร์สวมแหวนเพชรบลูไดมอนด์ จนมีการโพสต์ ในเวปไซต์ ต่างๆอย่างกว้างขวาง จนกลุ่มพันธมิตรฯนำไปปราศัยว่าไม่เหมาะสม ประกอบกับแกนนำ นปช.อย่างนายสุชาติ นาคบางไทร ได้พูดหลบหลู่สถาบันจนตำรวจออกหมายจับ แต่นายสุชาติ หนีออกนอกประเทศไปก่อน ขณะที่ “ดา ตอปิโด” ก็ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำในข้อหาคดีหมิ่นเบื้องสูงเช่นกัน.
กำลังโหลดความคิดเห็น