นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการอีกว่า ขอร้องว่าอย่างใช้คำว่าปลด เพราะการปลดคือ การเอาออกจากราชการ ซึ่งกรณีนี้ต้องเป็นคนที่มีความผิดต้องมีการสอบสวนและผ่านกระบวนการแต่การโยกย้ายข้าราชการนั้นเป็นการทำเพื่อประโยชน์ทางราชการ ย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ยังมีซีเท่าเดิม และเงินเดือนเท่าเดิม แค่เปลี่ยนให้ไปอยู่ในที่ ที่เหมาะสมกว่า ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในสมัยรัฐบาลก่อนๆ ก็ทำมาทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีตำแหน่งระดับ 11 ที่ว่างอีก จะมีการย้ายใครอีกหรือไม นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ที่ตัวบุคคล แต่ละคนจะพิจารณาอย่างไร ไม่ใช่ว่ามีตำแหน่ง ว่างเยอะแล้วจะย้ายเข้ามา แต่ถ้าเห็นว่าต้องย้ายถึงไม่มีตำแหน่ง ก็ต้องไปขอตำแหน่งมาใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้เห็นความจำเป็นตรงไหนที่จะโยกย้ายนอกจากปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ได้มีการพิจารณาตรงอื่น กระทรวงมหาดไทย เป็นกระทรวงใหญ่ มีบทบาทสำคัญในการบำบัดทุกข์บำสุขประชาชน จึงต้องดูเป็น พิเศษ ยืนยันว่า ที่ดำเนินการมาไม่ได้มีอะไรเป็นข้อพิรุธ หนังสือที่เสนอให้ย้าย ตนก็ให้เจ้าหน้าที่พิมพ์ขึ้นมาเอง ตัวเลขก็ลงที่ทำเนียบ ไม่มีอะไร ผิดปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่า เป็นตำแหน่งคุณขอมาหมายความว่าอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ผมไม่เคยใช่คำว่าคุณขอมา และได้ปรึกษากับนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มาโดยตลอด ส่วนกับนายพีรพล ก็ไม่ได้มีการคุยกัน แต่เชื่อว่า หากมารายงานตัว ก็จะได้พบกัน
ต่อข้อถามว่าในกระทรวงมหาดไทย มีข่าวเรื่องการกินรวบในการแต่งตั้งบอร์ดในหน่วยงานต่างๆ โดยดึงคนของ กลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าไปจะต้องดูแลอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการดึงคนของนักการเมืองไปแสวงหาผลประโยชน์อะไรต่างๆ นายสุเทพ กล่าวให้เขาแสวงหาผลประโยชน์ให้เห็นก่อน แล้วเราค่อยเข้าไปดำเนินการ ถ้าเราพูดไปก่อน ก็จะเป็นการสบประมาทเขา ซึ่งบอร์ดในหน่วยงานต่างๆ อยู่ในการกำกับกระทรวงไหน ก็ต้องดูแลกันเอง รัฐบาลไม่เข้าไปก้าวก่าย
ส่วนความเหมาะสมที่ รัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนนายเนวิน ผลักดันคนที่ติดคดีกล้ายางเข้ามาเป็นบอร์ด การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดหรือไม่ว่า ข้าราชการที่ถูกโยกย้ายจะเป็นไส้ศึกให้กับกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สนใจหรอกว่า เขาจะใกล้ชิดกับใครนายใหญ่ หรือ นาย หญิง ไม่เกี่ยวกับตน แต่ที่เกี่ยวกับตนก็คือ อยู่ตรงไหน เขาถึงจะทำประโยชน์ให้กับประเทศ มากกว่ากัน
ต่อข้อถามว่าขณะนี้เกิดข้อครหาว่า รัฐบาลชุดนี้จะย้ายล้างบางข้าราชการ กลุ่มอำนาจเก่า นายสุเทพ กล่าวว่า นี้เป็นการนำนิสัยเดิมๆ ของเขามากล่าวหาคนอื่น ต้องดูก่อนว่า ข้าราชการเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผมไม่สนใจหรอก ผมถือว่า ข้าราชการต้องทำตัวเป็นข้าราชการของประชาชน เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าข้าราชการทำตัวดี ก็สามารถเป็นหลักของบ้านเมืองและประชาชนได้ แต่ถ้าไปยอมสยบเอาใจนักการเมืองรับใช้นักการเมืองจนลืมภาระหน้าที่ ลืมเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเองก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องจัดการ
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี กลุ่มเสื้อแดงตั้งข้อสังเกตว่า การย้าย พ.ต.ท. ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพราะรับผิดชอบคดี เก่าๆของ พรรคประชาธิปัตย์ ว่าแล้วเข้ากลัวอะไร นอกจากเรื่องที่เขากล่าวหาพวกตน แล้วเขากลัวอะไรอีก ตนไม่กลัวอะไรเลย
ถ้าเขาคิดว่า จะมีคดีความอะไร ที่จะเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ได้ 8-9 ปีที่ผ่านมาเขาคงเอาตายแล้ว ข้อสังเกต ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ของนายจาตุพร พรหมพันธุ์ และ นายวีระ มุกสิกพงษ์ และของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้นไม่ได้เรียกว่าข้อสังเกตแต่เป็นข้อกล่าวหา เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ดิสเครดิตรัฐบาลเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วง การชุมนุมใหญ่วันที่ 31 ม.ค. จะบานปลายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เมื่อถามว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลให้กลุ่มคนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นมา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ทราบต้องดูว่า ทักษิณ จะพูดอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีตำแหน่งระดับ 11 ที่ว่างอีก จะมีการย้ายใครอีกหรือไม นายสุเทพ กล่าวว่า อยู่ที่ตัวบุคคล แต่ละคนจะพิจารณาอย่างไร ไม่ใช่ว่ามีตำแหน่ง ว่างเยอะแล้วจะย้ายเข้ามา แต่ถ้าเห็นว่าต้องย้ายถึงไม่มีตำแหน่ง ก็ต้องไปขอตำแหน่งมาใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้เห็นความจำเป็นตรงไหนที่จะโยกย้ายนอกจากปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ได้มีการพิจารณาตรงอื่น กระทรวงมหาดไทย เป็นกระทรวงใหญ่ มีบทบาทสำคัญในการบำบัดทุกข์บำสุขประชาชน จึงต้องดูเป็น พิเศษ ยืนยันว่า ที่ดำเนินการมาไม่ได้มีอะไรเป็นข้อพิรุธ หนังสือที่เสนอให้ย้าย ตนก็ให้เจ้าหน้าที่พิมพ์ขึ้นมาเอง ตัวเลขก็ลงที่ทำเนียบ ไม่มีอะไร ผิดปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่บอกว่า เป็นตำแหน่งคุณขอมาหมายความว่าอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ผมไม่เคยใช่คำว่าคุณขอมา และได้ปรึกษากับนาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มาโดยตลอด ส่วนกับนายพีรพล ก็ไม่ได้มีการคุยกัน แต่เชื่อว่า หากมารายงานตัว ก็จะได้พบกัน
ต่อข้อถามว่าในกระทรวงมหาดไทย มีข่าวเรื่องการกินรวบในการแต่งตั้งบอร์ดในหน่วยงานต่างๆ โดยดึงคนของ กลุ่มเพื่อนเนวิน เข้าไปจะต้องดูแลอย่างไรบ้างเกี่ยวกับการดึงคนของนักการเมืองไปแสวงหาผลประโยชน์อะไรต่างๆ นายสุเทพ กล่าวให้เขาแสวงหาผลประโยชน์ให้เห็นก่อน แล้วเราค่อยเข้าไปดำเนินการ ถ้าเราพูดไปก่อน ก็จะเป็นการสบประมาทเขา ซึ่งบอร์ดในหน่วยงานต่างๆ อยู่ในการกำกับกระทรวงไหน ก็ต้องดูแลกันเอง รัฐบาลไม่เข้าไปก้าวก่าย
ส่วนความเหมาะสมที่ รัฐมนตรีกลุ่มเพื่อนนายเนวิน ผลักดันคนที่ติดคดีกล้ายางเข้ามาเป็นบอร์ด การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดหรือไม่ว่า ข้าราชการที่ถูกโยกย้ายจะเป็นไส้ศึกให้กับกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่สนใจหรอกว่า เขาจะใกล้ชิดกับใครนายใหญ่ หรือ นาย หญิง ไม่เกี่ยวกับตน แต่ที่เกี่ยวกับตนก็คือ อยู่ตรงไหน เขาถึงจะทำประโยชน์ให้กับประเทศ มากกว่ากัน
ต่อข้อถามว่าขณะนี้เกิดข้อครหาว่า รัฐบาลชุดนี้จะย้ายล้างบางข้าราชการ กลุ่มอำนาจเก่า นายสุเทพ กล่าวว่า นี้เป็นการนำนิสัยเดิมๆ ของเขามากล่าวหาคนอื่น ต้องดูก่อนว่า ข้าราชการเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ผมไม่สนใจหรอก ผมถือว่า ข้าราชการต้องทำตัวเป็นข้าราชการของประชาชน เป็นข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าข้าราชการทำตัวดี ก็สามารถเป็นหลักของบ้านเมืองและประชาชนได้ แต่ถ้าไปยอมสยบเอาใจนักการเมืองรับใช้นักการเมืองจนลืมภาระหน้าที่ ลืมเกียรติยศศักดิ์ศรีของตัวเองก็ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องจัดการ
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณี กลุ่มเสื้อแดงตั้งข้อสังเกตว่า การย้าย พ.ต.ท. ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพราะรับผิดชอบคดี เก่าๆของ พรรคประชาธิปัตย์ ว่าแล้วเข้ากลัวอะไร นอกจากเรื่องที่เขากล่าวหาพวกตน แล้วเขากลัวอะไรอีก ตนไม่กลัวอะไรเลย
ถ้าเขาคิดว่า จะมีคดีความอะไร ที่จะเล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ได้ 8-9 ปีที่ผ่านมาเขาคงเอาตายแล้ว ข้อสังเกต ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ของนายจาตุพร พรหมพันธุ์ และ นายวีระ มุกสิกพงษ์ และของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้นไม่ได้เรียกว่าข้อสังเกตแต่เป็นข้อกล่าวหา เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือ ดิสเครดิตรัฐบาลเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วง การชุมนุมใหญ่วันที่ 31 ม.ค. จะบานปลายหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เมื่อถามว่า การโฟนอินของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลให้กลุ่มคนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นมา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ทราบต้องดูว่า ทักษิณ จะพูดอะไร
