xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเลิกกดดันนายกฯผบ.ทร.บอกครั้งเดียวพอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า ไม่มีข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาการเมือง อยากให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมืองต่อไป ตนเป็นได้แต่ผู้ดู และไม่ขอแสดงความคิดเห็นว่า ทหารควรจะออกมาแก้ไขสถานการณ์หรือไม่ เพราะต้องถามฝ่ายทหาร ตนเป็นประชาชน
ผู้สื่อข่าวาถมว่าการปฏิวัติจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ยังคงมีความเป็นห่วงบ้านเมือง แต่ผู้ที่มีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหากันต่อไป เมื่อถามว่า หากถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีพร้อมหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่เอาแล้ว
พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่าสถานการณ์การเมือง ยังน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะแนวทางที่หลายฝ่ายพยายามยังไม่มีความชัดเจน คิดว่าการพิจารณาคดี พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ของศาลคงจะทำให้เห็นอะไรบางอย่าง คนไทยทุกคนควรมีความอดทน ใจเย็น การปฏิบัติอะไรต้องอยู่ในขอบเขตกฎหมาย ไม่อยากจะให้เหตุการณ์ลุกลามเกิดเหตุน่าเสียใจ เหมือนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
ส่วนทางออกของบ้านเมืองนั้น พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับฝ่ายที่มีข้อขัดแย้งกัน ตอนนี้หลายคนไม่ยอมรับในกติกา ไม่ยอมรับสิ่งที่น่าจะเจรจากันได้ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับฝ่ายที่ขัดแย้งจะลดความคิดส่วนตัว หยุดเอาประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้งให้นึกถึงประเทศ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เราไม่สามัคคีกัน จุดหนึ่งที่ทำให้คนไทย เรากลับมาคิด และหาแนวทางให้ประเทศสงบสุข น่าจะนึกถึงเพลงชาติ ความหมายของ เพลงชาติไทยเป็นสื่อ เป็นจุดร่วมที่ทำให้เรานึกถึงชาติมากกว่า ดังนั้นจะทำอะไรต้องนึกถึงประเทศชาติ
พล.อ.อ.อิทธพร ย้ำว่าาจุดยืนต่อสถานการณ์ทางการเมืองของกองทัพยังเหมือนเดิม ผบ.เหล่าทัพทุกคนพูดคุยกันเสมอ จุดยืนกองทัพไม่เปลี่ยนแปลงยังเป็นแนวทางเดียวกัน สิ่งที่ผู้นำเหล่าทัพพูดไปเราเห็นพ้องต้องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ยากเกินกว่าที่จะเจรจากันหรือไม่ พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า อย่างไรก็แล้วแต่ยังไม่ถึงกับไม่มีทางออก ทุกอย่างมีทางออก มีทางแก้เสมอ ขึ้นอยู่กับจะยอมพูดคุยกันหรือไม่ ขอให้ลดทิฐิ
ด้าน พล.ร.อ. กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์ การเมืองในขณะนี้ เพราะยังมีความแตกแยกกัน ต้องหาทางสายกลางในการหาข้อยุติ ส่วนข้อเสนอตั้ง ส.ส.ร. 3 เท่าที่ทราบมีตัวแทนจากหลายฝ่าย และจากจังหวัดต่างๆ มีผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาอาชีพ เชื่อว่าจะระดมสมองหาหนทางแก้ไข สิ่งที่บกพร่องอยู่ ให้ดีขึ้น สิ่งใดที่ดีดำเนินต่อไป คิดว่าจะช่วยแก้ไขได้ ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย เป็นเรื่องปกติ เพราะต่างคนต่างมีความคิดเห็นของตนเอง แต่ต้องเคารพกันผล เมื่อออกมาอย่างไรมีระบบที่ทำต่อไป ถ้าเราทำไปตามระบบจะไปกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่สถานการณ์ภายหลังจากศาลพิพากษาจำคุก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรจะเกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองมากขึ้น พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ต้องระแวดระวังสถานการณ์ แต่เอาใจช่วยว่า อย่าให้มีเหตุการณ์อะไร ขณะนี้กองทัพระแวดระวังทุกวันพยายามไม่ให้คนทะเลาะกัน ตราบใดที่มีความเห็นไม่ตรงกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่าประมาท ทั้งนี้ จุดยืนทหารยังยืนยันว่าอยู่ข้างประชาชน อะไรเป็นผลดีต่อประเทศชาติ และประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งสถาบันหลักของชาติ เราต้องช่วยกันทำ
ส่วนภายหลัง ผบ.เหล่าทัพ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบเหตุสลาย การชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ความสัมพันธ์ของนายกฯกับกองทัพเป็นอย่างไร พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า เท่าที่เห็น ผบ.ทบ.และนายกฯพูดกันดี คงไม่ได้จำใจคุยกัน คงเข้าใจกัน ความเห็นของ ผบ.ทบ.หรือใครเป็นความเห็นของคนไทยคนหนึ่ง คิดว่า คงไม่ทำให้อุณหภูมิความขัดแย้งระหว่างกองทัพกับนายกฯสูงขึ้น เชื่อว่าทหาร เป็นผู้ที่อยู่ในกรอบวินัย ทหารต้องทำงานให้ผู้บังคับบัญชาตามสายบังคับบัญชา ต้องประชุมกันทำงานร่วมกัน มิเช่นนั้นงานก็ไม่เดิน คงไม่เป็นไรยังทำงานต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากนายกฯไม่ลาออกจะเป็นการดิสเครดิตทหารหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คงไม่ดิสเครดิต เพราะทหารเป็นประชาชนคนหนึ่ง เป็นความเห็นหนึ่ง และรัฐบาลไม่ได้ห้ามหรือส่งสัญญาณมาไม่ให้เราพูด เราก็สามารถพูดได้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ทหารต้องเป็นกลางทางการเมือง เวลาพูดจาต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบใคร
ต่อข้อถามว่าหากผลสอบเหตุการณ์ 7 ตุลาคมออกมาปรากฏว่ารัฐบาลผิด นายกฯต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ผลสอบสวน ต้องนำมาวิเคราะห์ อะไรที่ยังไม่ดีต้องแก้ไข ใครจะรับผิดชอบอย่างไรมีกระบวนการอยู่ เมื่อถามว่า สถานการณ์ถึงขั้นไหนกองทัพจึงจะต้องออกมาแสดงจุดยืนอีกครั้ง พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า แสดงไปครั้งเดียวก็พอ จุดยืนเราแสดงวันนั้นคงจะจบแล้ว
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติมีคนวิจาณณ์เกี่ยวกับการทำรัฐประหาร การยึดอำนาจ อยากขอร้องให้ยุติการพูดการแสดงความเห็นเรื่องการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร ในเมื่อผู้บัญชาการเหล่าทัพได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่กระทำเช่นนั้นก็ไม่น่า เป็นเรื่อง ที่บุคคลอื่น หรือองค์กรใดที่ไม่เกี่ยวข้องมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นในสถานการณ์ของประเทศ
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่านายกรัฐมนตรีกำลังจะเดินทางไปจีนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศประชาธิปไตยประเทศหนึ่ง แต่หากเดินทางไปด้วยกระแสข่าวการยึดดอำนาจ มีบางคนบางฝ่ายพยายามหยิบยกมาพูดจากัน แน่นอนที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ต่อสายตานานาอารยะประเทศ เรื่องการยึดอำนาจ การรัฐประหาร เมื่อทุกฝ่าย เห็นตรงกันว่าไม่ใช่ทางออกของสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันก็ขอความกรุณาให้ยุติ งดเว้น เรื่องราวเหล่านั้นเสีย
อย่างกรณี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร อดีตผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. มีสิทธิแสดง ความคิดเห็น แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดเลย จึงขอความกรุณา ท่านอาจจะเคยร่วมกับการยึดอำนาจในช่วงที่ผ่านมา ท่านอาจจะอกหักหรืออารมณ์ค้างจากการยึดอำนาจ ที่ผ่านมา การแสดงความเห็นเช่นนี้ ต้องขอความกรุณาให้คำนึงถึงความสงบ โดยรวมของบ้านเมืองผลกระทบจะเกิดขึ้นเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่ใช้อำนาจในตำแหน่ง รมว.กลาโหมดำเนินการกับทหารที่ออกมาให้สัมภาษณ์ชี้นำให้มีการปฏิวัติ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เพราะว่าบรรดาแม่ทัพนายกองในราชการไม่มีใครแสดงความต้องการ หรือไม่มีใครแสดงสัญญาณนี้เลย ท่านผบ.ทบ. ก็ได้ย้ำตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน(นายสมัคร สุนทรเวช) ว่าจะไม่มีการยึดอำนาจ และผบ.ทุกเหล่าก็ไม่มีใครแสดงจุดยืนนี้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเช่นนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหรือว่าเป็น รมว.กลาโหมที่ไม่มีอำนาจที่แท้จริง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ได้หมายความเช่นนั้น รมว.กลาโหมก็ยังมีศักดิ์และสิทธิ์อำนาจหน้าที่ ในการบริหารราชการเต็มรูปแบบเหมือนเดิม ที่ไม่มีคำสั่งอย่างเป็น
กำลังโหลดความคิดเห็น