“ประวิตร” ปัด “อนุพงษ์” ผลักดันจนได้ตำแหน่ง “รมว.กลาโหม” ย้ำชัดเก้าอี้ รมต.ไม่ได้มาจาก “กองทัพ” เข้าแทรกแซงทางการเมือง แจงการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหน้าที่ของ ส.ส.-พรรคการเมือง ลั่นไม่หวั่น “ฝ่ายค้าน” จ่ออภิปราย “ผบ.เหล่าทัพ” มั่นใจสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง
วานนี้ (24 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเรื่องทหารไปยุ่งเกี่ยว และแทรกแซงทางการเมืองมากเกินไปว่า ทหารไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่เป็นเรื่องของการเมืองเอง ส่วนทหารถ้ารู้จักกับนักการเมืองก็สามารถพูดคุยกันได้ ฉะนั้น ขอยืนยันว่าการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีไม่ได้เกี่ยวกับกับกองทัพ และที่มองกันว่ากองทัพแทรกแซงการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นการพูดไปเอง เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ ส.ส.ที่จะดำเนินการ ซึ่งต้องมีเสียงข้างมากในการจัดตั้ง ใครก็ไปชี้นำไม่ได้
“ไม่ทราบว่าทหารเข้าไปแทรกแซงด้วยวิธีไหน แต่เท่าที่เห็น ผบ.ทบ.ออกมาพูดในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) และไม่ได้ออกมาพูดเอง แต่ได้รับฉันทานุมัติจากที่ประชุมว่า คตร.มีความเห็นเช่นนี้ สื่อถามมา ผบ.ทบ.ก็ตอบไป ดังนั้นผมจึงอยากให้สร้างความสามัคคีกันจะดีกว่ามาจับเป็นประเด็นจนทำงานกันไม่ได้ ที่สำคัญกองทัพมีหน้าที่ให้เกิดความรักสามัคคี ฉะนั้นเราต้องช่วยกัน อย่าเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาทำให้เป็นเรื่อง เนื่องจากเรามีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจที่ต้องเร่งดำเนินการรออยู่” พล.อ.ประวิตร กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่องนักการเมืองเดินทางเข้าพบ เพื่อหารือที่บ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่มีบ้านใน ร.1 รอ. มีแต่มูลนิธิปลูกป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แล้วจะมาประชุมได้อย่างไร ทั้งนี้ขอยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นเรื่อง ส.ส. และพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ ส่วนฝ่ายค้านจะอภิปรายกรณี ผบ.เหล่าทัพ แทรกแซงทางการเมืองนั้น โดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่ากลัวอะไร เพราะก่อนรับตำแหน่งตนก็เป็นเพียงนายทหารนอกราชการ ซึ่งก็เหมือนกับประชาชนทั่วไป แล้วจะเอาอำนาจอะไรไปแทรกแซง ดังนั้น กระแสข่าวที่เกิดขึ้นตนสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง
เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการทหารฯ เตรียมที่จะตรวจสอบการแสดงท่าทีของ ผบ.เหล่าทัพ ต่อการเมืองนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่ได้รับหนังสือ ส่วนจะตั้งกรรมการสอบ ผบ.เหล่าทัพ หรือไม่นั้น ตนไม่รู้ว่าจะตั้งกรรมการสอบเรื่องอะไร ไม่ทราบ ไม่รู้ อีกทั้งยังไม่เห็นเรื่องรายละเอียด และคงไม่เรียกใครมาชี้แจง แต่คงรายงานให้ปลัดกระทรวงกลาโหมมาชี้แจง ขณะนี้การเมืองกับกองทัพแยกกันอยู่แล้ว คงไม่มีอะไร แต่สื่อดึงมาเกี่ยวข้องกัน ซึ่งขอยืนยันว่าเราไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย
เมื่อถามว่า มีการมองว่าการเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นเพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผลักดัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.อนุพงษ์ ถามว่าสนิทกับ พล.อ.อนุพงษ์ หรือไม่ ขอยืนยันว่าสนิทกับหลายคนในกองทัพ เพราะทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ระดับผู้บังคับหมวดจนเกษียณอายุ ทำงานมา 30 กว่าปีจะให้ไม่สนิทกับใครก็คงเป็นไปไม่ได้”
เมื่อถามถึงการกลับมารับตำแหน่งของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน เพราะนั่นเรื่องของน้องชาย ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กรณีหนีทหาร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่รู้เรื่อง แต่ชายไทยอายุ 21 ปี ต้องเป็นทหาร ซึ่งนายอภิสิทธิ์เขาสมัครเป็นทหาร ก็ชัดเจนว่าท่านเป็นทหารก็จบ
ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องสังคมมองว่า ทหารเขาข้างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า คงไม่มี คิดไปเอง เมื่อถามถึงการแก้ปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีเสื้อแดง คนไทยด้วยกันทั้งนั้น มีอะไรต้องคุยกัน ทั้งนี้ ยังไม่ทราบถึงเรื่องที่รัฐสภา จะขอกำลังทหารไปดูแลนั้น ถือเป็นเรื่องประธานรัฐสภาเป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวเรื่องการเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าพบใครทั้งนี้ ตนจะเดินทางไปพบอดีตนายทหารผู้ใหญ่ทุกคนในกองทัพ รวมทั้ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ และจะให้นโยบายกระทรวงกลาโหมวันประชุมสภากลาโหม ในวันที่ 31 ธ.ค.นี้