“ปลัดกลาโหม” ท่องคาถาเป็นกลาง ขออดทนสงบนิ่งดีกว่าออกมาทำอะไรตามที่พันธมิตรฯ เรียกร้อง ยันปกป้องสถาบันหลักเป็นหน้าที่กองทัพอยู่แล้ว วอนอย่ากดดัน ผบ.ทบ. ยอมรับคิดเหมือนพันธมิตรฯ ต้องการขจัดคอร์รัปชันทำให้บ้านเมืองดีขึ้น แต่วิธีการไม่เหมือนกัน เชื่อทางออกเจรจาเหมาะกว่า เผยหากวิกฤตมาก อาจหารือ ผบ.เหล่าทัพ ไปคุย “สมชาย” ให้พิจารณาตัวเอง
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนกองทัพต่อการสถานการณ์การเมืองว่า แนวทางออกที่ ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่ห่วงสถานการณ์ หรือชาติบ้านเมือง แต่เราต้องอดทน และยอมเจ็บพอสมควรในเรื่องนี้ เขาพยายามจะดึงเราไปร่วม ทำอะไรก็แล้วแต่ เท่าที่พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ คือ เราได้กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า เมื่อเราทำแล้วประเทศชาติดีขึ้น หรือมีความเจริญหน้ายิ่งขึ้นก็โอเค แต่ถ้าทำอย่างที่เขาต้องการ ผบ.เหล่าทัพ มองแล้วว่า มันไม่ใช่เป้าหมายที่จะทำให้ประเทศชาติมีโอกาสเจริญก้าวหน้า ซึ่งจะหยุดอยู่กับที่หรือถอยหลัง ยิ่งทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองวุ่นวายไปอีก คิดว่าต้องใช้ระยะเวลา ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกันมองไปข้างหน้าว่าผลได้ผลเสียเป็นอย่างไร ผมมองว่าผลกระทบมีมากกว่า หากเราทำ ปัญหาที่จะตามมาคืออะไร ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ มากกว่าที่เราจะอดทนอดกลั้นและสงบนิ่ง เพื่อติดตามสถานการณ์ก่อน หากทำอะไรไป ไม่มีประโยชน์ ทำให้บ้านเมืองถอยหลังกลับไปอีก สิ่งที่ ผบ.เหล่าทัพ คิด คือพยายามอดทน อดกลั้น อยากเห็นความก้าวหน้าของชาติบ้านเมือง ถ้าทำตามกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการให้ทหารออกไปทำอะไร ยิ่งทำให้ชาติบ้านเมืองถอยหลังลงคลองและเลวร้ายไปอีก ผบ.เหล่าทัพ คุยกันว่าอยากเห็นบ้านเมืองก้าวหน้ามากกว่า และประเทศที่ติดต่อกับเราพร้อมจะบอยคอต ยิ่งกลายเป็นปัญหา แต่กองทัพไม่เคยละเลยติดตามสถานการณ์ตลอดเพื่อแก้ปัญหาและประคองให้สถานการณ์เดินต่อไปได้” พล.อ.อภิชาต กล่าว
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า กองทัพเรายังยึดมั่นใจสถาบันอยู่ตลอด พร้อมปกป้องสถาบันของชาติตลอด เราคงไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่เราจะทำคือต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันชาติที่เป็นความรับผิดชอบของเราอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ บีบ ผบ.ทบ.ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ชาติบ้านเมืองยิ่งเลวร้ายหนักลงไปอีก อยากขอร้องอย่าไปกดดัน ผบ.ทบ. เพราะไม่มีประโยชน์และไม่มีอะไรดีขึ้น
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ ขีดเส้นตาย 3 วันให้นายกฯ ลาออก พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์ ผบ.เหล่าทัพ ยืนยันว่าไม่ว่าเป็นฝ่ายอดีตนายกทักษิณ หรือพันธมิตรฯ ทุกคนมีปัญหามีชนักติดตัวกันพอสมควร และมีคดีติดตัวกันทั้งนั้น ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมว่าที่สุดแล้วเป็นอย่างไร เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมยังเป็นที่พึ่งได้ ทั้งนี้ ทหารคงต้องติดตามเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย
“สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า ทหารไม่ทำอะไร แต่สิ่งที่ทหารทำอยู่ ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าที่เขาเรียกร้อง เพราะความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เราทำในสิ่งที่เรียกร้องอยากถามว่าที่สุดแล้วได้อะไรขึ้นมา ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรจะลุกลามเกิดการนองเลือดนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามที่จะให้เกิดตรงนี้ขึ้นมา อยากให้มีปัญหาเพื่อให้ทหารออกมาให้ได้ ดังนั้น อยากให้มองไปข้างหน้า” ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการเอาระบบการเมืองใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหา เป้าหมายคือต้องการความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ไม่อยากเห็นการคอร์รัปชั่นการทุจริต สิ่งที่เขาต้องการ ทุกฝ่ายคิดเหมือนกัน แต่วิธีดำเนินการไม่เหมือนกัน อย่าบีบให้เราต้องมาทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ใช่เป้าหมายของประเทศชาติ ทั้งนี้ เชื่อว่ายังสามารถคุยกันได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย ถอยกันคนละก้าวมาพูดคุยหาทางออกให้บ้านเมือง หรือหาคนกลางช่วยกันพิจารณาทางออก ขณะนี้ดูอยู่ว่าจะหาใครมาเป็นคนกลาง
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพมีความเป็นห่วงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าจะทรงไม่สบายพระทัยที่ประชาชนทะเลาะกัน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า สถาบันสูงสุดที่เราให้ความเคารพ เราไม่อยากให้อะไรไประคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และใกล้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา อยากขอร้องให้ช่วยกันรักษาน้ำพระทัยของพระองค์ ท่านอย่าไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพ มีโอกาสที่จะจับมือกันเดินไปหานายกฯ ให้พิจารณาตัวเองแก้วิกฤติชาติหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพอีกครั้ง สำหรับการหาทางออก แต่หากบ้านเมืองเกิดวิกฤติมากคงต้องมีการพูดคุยกัน
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนกองทัพต่อการสถานการณ์การเมืองว่า แนวทางออกที่ ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกัน ไม่ใช่ว่าเราไม่ห่วงสถานการณ์ หรือชาติบ้านเมือง แต่เราต้องอดทน และยอมเจ็บพอสมควรในเรื่องนี้ เขาพยายามจะดึงเราไปร่วม ทำอะไรก็แล้วแต่ เท่าที่พูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพ คือ เราได้กำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจนว่า เมื่อเราทำแล้วประเทศชาติดีขึ้น หรือมีความเจริญหน้ายิ่งขึ้นก็โอเค แต่ถ้าทำอย่างที่เขาต้องการ ผบ.เหล่าทัพ มองแล้วว่า มันไม่ใช่เป้าหมายที่จะทำให้ประเทศชาติมีโอกาสเจริญก้าวหน้า ซึ่งจะหยุดอยู่กับที่หรือถอยหลัง ยิ่งทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองวุ่นวายไปอีก คิดว่าต้องใช้ระยะเวลา ถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ผบ.เหล่าทัพ พูดคุยกันมองไปข้างหน้าว่าผลได้ผลเสียเป็นอย่างไร ผมมองว่าผลกระทบมีมากกว่า หากเราทำ ปัญหาที่จะตามมาคืออะไร ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ มากกว่าที่เราจะอดทนอดกลั้นและสงบนิ่ง เพื่อติดตามสถานการณ์ก่อน หากทำอะไรไป ไม่มีประโยชน์ ทำให้บ้านเมืองถอยหลังกลับไปอีก สิ่งที่ ผบ.เหล่าทัพ คิด คือพยายามอดทน อดกลั้น อยากเห็นความก้าวหน้าของชาติบ้านเมือง ถ้าทำตามกลุ่มพันธมิตรที่ต้องการให้ทหารออกไปทำอะไร ยิ่งทำให้ชาติบ้านเมืองถอยหลังลงคลองและเลวร้ายไปอีก ผบ.เหล่าทัพ คุยกันว่าอยากเห็นบ้านเมืองก้าวหน้ามากกว่า และประเทศที่ติดต่อกับเราพร้อมจะบอยคอต ยิ่งกลายเป็นปัญหา แต่กองทัพไม่เคยละเลยติดตามสถานการณ์ตลอดเพื่อแก้ปัญหาและประคองให้สถานการณ์เดินต่อไปได้” พล.อ.อภิชาต กล่าว
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า กองทัพเรายังยึดมั่นใจสถาบันอยู่ตลอด พร้อมปกป้องสถาบันของชาติตลอด เราคงไม่ทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง สิ่งที่เราจะทำคือต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันชาติที่เป็นความรับผิดชอบของเราอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ บีบ ผบ.ทบ.ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะจะทำให้ชาติบ้านเมืองยิ่งเลวร้ายหนักลงไปอีก อยากขอร้องอย่าไปกดดัน ผบ.ทบ. เพราะไม่มีประโยชน์และไม่มีอะไรดีขึ้น
เมื่อถามว่า พันธมิตรฯ ขีดเส้นตาย 3 วันให้นายกฯ ลาออก พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์ ผบ.เหล่าทัพ ยืนยันว่าไม่ว่าเป็นฝ่ายอดีตนายกทักษิณ หรือพันธมิตรฯ ทุกคนมีปัญหามีชนักติดตัวกันพอสมควร และมีคดีติดตัวกันทั้งนั้น ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมว่าที่สุดแล้วเป็นอย่างไร เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมยังเป็นที่พึ่งได้ ทั้งนี้ ทหารคงต้องติดตามเฝ้าระวังเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายขึ้น โดยเฉพาะเรื่องมือที่ 3 มาก่อความวุ่นวาย
“สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า ทหารไม่ทำอะไร แต่สิ่งที่ทหารทำอยู่ ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าที่เขาเรียกร้อง เพราะความอดทนไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ เราทำในสิ่งที่เรียกร้องอยากถามว่าที่สุดแล้วได้อะไรขึ้นมา ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรจะลุกลามเกิดการนองเลือดนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ พยายามที่จะให้เกิดตรงนี้ขึ้นมา อยากให้มีปัญหาเพื่อให้ทหารออกมาให้ได้ ดังนั้น อยากให้มองไปข้างหน้า” ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าว
พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการเอาระบบการเมืองใหม่เข้ามาแก้ไขปัญหา เป้าหมายคือต้องการความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ไม่อยากเห็นการคอร์รัปชั่นการทุจริต สิ่งที่เขาต้องการ ทุกฝ่ายคิดเหมือนกัน แต่วิธีดำเนินการไม่เหมือนกัน อย่าบีบให้เราต้องมาทำในสิ่งที่เราคิดว่าไม่ใช่เป้าหมายของประเทศชาติ ทั้งนี้ เชื่อว่ายังสามารถคุยกันได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการเจรจาทั้ง 2 ฝ่าย ถอยกันคนละก้าวมาพูดคุยหาทางออกให้บ้านเมือง หรือหาคนกลางช่วยกันพิจารณาทางออก ขณะนี้ดูอยู่ว่าจะหาใครมาเป็นคนกลาง
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพมีความเป็นห่วงว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าจะทรงไม่สบายพระทัยที่ประชาชนทะเลาะกัน พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า สถาบันสูงสุดที่เราให้ความเคารพ เราไม่อยากให้อะไรไประคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และใกล้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา อยากขอร้องให้ช่วยกันรักษาน้ำพระทัยของพระองค์ ท่านอย่าไปทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพ มีโอกาสที่จะจับมือกันเดินไปหานายกฯ ให้พิจารณาตัวเองแก้วิกฤติชาติหรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ต้องพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพอีกครั้ง สำหรับการหาทางออก แต่หากบ้านเมืองเกิดวิกฤติมากคงต้องมีการพูดคุยกัน