รักษาการนายกฯ ถกเครียด รมต.พรรคร่วมรัฐบาล ณ ทำเนียบดอนเมือง คาดหวังลมๆ แล้งๆ พันธมิตรฯ ยอมถอย ส่งสัญญาณ “ชัย” เปิดประชุมสภาทันศุกร์นี้ มัดมือชกกองทัพเป็นแค่ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหากถูกร้องขอ
วันนี้ (24 พ.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงความคืบหน้าในการดำเนินการดูแลสถานการณ์ของรัฐบาลโดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ติดต่อประสานงานกับแกนนำพันธมิตรฯเพื่อเจรจาให้ยุติการปิดล้อมอาคารรัฐสภา ทั้งนี้ ค่อนข้างชัดเจนว่าสภาคงไม่สามารถประชุมได้ตามกำหนดการในวันนี้ที่ได้นัดหมายไว้ แต่ยังคาดหวังว่า 4-5 วัน ก่อนปิดสมัยการประชุมสภาในวันที่ 28 พ.ย. หากพันธมิตรฯ ยุติการปิดล้อมการประชุมรัฐสภาก็อาจจะเดินหน้าไปได้ เนื่องจากร่างความตกลงและร่างบันทึกความเข้าใจต่างๆ ที่จะใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ก็จะได้มีการพิจารณา ดังนั้น ขณะนี้คงอยู่ในการดำเนินการของรอง ผบ.ตร.
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ในวันนี้เวลา 10.30 น. นายชวรัตน์ได้เชิญคณะรัฐมนตรี (ครม.) จากทุกพรรคนั้นมาร่วมหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ใช่เป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษ เป็นเพียงการเชิญมาร่วมหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง ฉะนั้น รัฐมนตรีหลายท่านที่ติดภารกิจอาจจะไม่ได้เข้ามาร่วมประชุม ขณะที่หลายท่านถ้าเข้ามาร่วมประชุมได้ก็คงจะมา อย่างไรก็ตาม นอกจาก ครม.แล้วก็ได้มีการเชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้ง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมทั้งประสานตำรวจ และทหาร ส่วน ผบ.เหล่าทัพก็ได้มีการติดต่อกันเชิญทั้งหมดเพียงแต่ว่าหลัก ครม. ดังนั้น การนัดหารือหลักจึงอยู่ที่ ครม. เพราะส่วนอื่นกำลังปฏิบัติหน้าที่ทุกนาที โดยเฉพาะในส่วนของผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)ก็มีการประสานงานกันตั้งแต่ช่วงเช้าท่านก็ทำงานยังไม่ได้หยุด รวมทั้งงานทางด้านการข่าว
เมื่อถามถึงการที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เป็นประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ แต่ ผบ.ทบ.บอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ผบ.ทบ.เป็นประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม (คตร.) อยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่เป็นเพื่อรับมือสถานการณ์นี้เฉพาะ และท่านก็ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งทหารจะอยู่ในสถานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่จะออกมาตามที่ตำรวจร้องขอ
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เมื่อสักครู่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้คุยกับนายกรัฐมนตรีและท่านได้แยกออกเป็น 2 เรื่อง คือ เรื่องสภาก็คงต้องรออยู่ดุลพินิจนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามและพร้อมที่จะร่วมหารือหากประธานสภาต้องการ และในส่วนของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายชวรัตน์พิจารณาในการกำกับดูแลสถานการณ์โดยนโยบายหลักเหมือนเดิม คือไม่มีการใช้กำลัง ไม่ใช้อาวุธ ไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อไม่ให้เกิดความบาดเจ็บเสียหาย