xs
xsm
sm
md
lg

สภาเส็งเคร็ง! เมินพลังพันธมิตรฯ ยันเปิดสภาท้าทาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษกรัฐบาล เผยที่ประชุมความมั่นคงพิเศษอ้างสารพัดปัญหาลงมติให้มีการเปิดประชุมสภาในวันพรุ่งนี้ ยกเหตุผลสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในเวทีโลก ทิ้งท้ายปัดความรับผิดเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด ยันไม่มีนโยบายรุนแรง

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว (ดอนเมือง) มีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงเป็นวาระพิเศษเพื่อติดตามสถานการณ์ ประเมิน และเตรียมการรับมือการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม โดยมีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมโดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุขุมพงษ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก ฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.) พล.อ.รัชกฤต กาญจนวัฒน์ เสนาธิการกองทัพไทย นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผบ.ตร. พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบ.ชน. และตัวแทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

นายชัย ชิดชอบ กล่าวภายหลังการประชุมว่า มีการมอบหมายให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลการประชุม ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นที่ประชุมเห็นควรว่าควรจะเปลี่ยนที่ประชุมหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า “อ๋อ ประชุมที่สภาฯ ครับ” เมื่อถามว่าหลายฝ่ายเกรงว่าจะมีการนองเลือด นายชัยกล่าวขึ้นมาว่า “ก็เลื่อนการประชุมไป” เมื่อถามย้ำว่าสรุปยังคงมีการประชุมหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า “ไม่มีกำหนด” จากนั้นนายชัยก็หัวเราะชอบอกชอบใจจนทำให้ผู้สื่อข่าวถึงกับงงว่าตกลงเลื่อนหรือไม่เลื่อนการประชุม

เมื่อถามย้ำว่า ตกลงพรุ่งนี้ยังมีการประชุมสภาฯหรือไม่ ประธานสภาฯ กล่าวตอบว่า “ก็ไม่ได้เลื่อน ก็ยังประชุม” อย่างไรก็ตาม พรุ่งนี้เวลาประมาณสักสองสามโมง (08.00-09.00 น.) ตนจะไปแถลงที่สภาฯ เมื่อถามว่าจะเข้าไปในสภาได้หรือเพราะจะมีการปิดล้อม นายชัย กล่าวว่า “ผมไปกราบเขาขอเข้าไป”

เมื่อถามว่า ตอนเช้ายังไม่มีการนัดเวลาประชุมหรืออย่างไร นายชัย กล่าวว่า “ก็ประชุมปกติเวลา 09.30 น.” อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็ไม่ได้มีการคุยกับฝ่ายรัฐบาล และเราไม่ต้องขออะไรเพราะบ้านเมืองมีขื่อมีแป ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะเราจะนำไปปรึกษาหารืออีกครั้งหนึ่ง

“เขาเสนอมาว่าการเสนอชื่อกฎหมายไม่มี ก็ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย” นายชัย กล่าวโดยที่ผู้สื่อข่าวต่างถามต่อว่าหมายถึงอะไรไม่เข้าใจ แต่นายชัยก็ไม่ได้อธิบาย

เมื่อถามว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ คปพร.จะมีการพิจารณาหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่พิจารณาอะไรทั้งสิ้น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า สาระในการหารือคือสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทุกกลุ่มที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่24พ.ย.และอาจต่อเนื่องไปหลังจากนั้น โดยพันธมิตรฯ ประกาศปิดล้อมและยึดอาคารรัฐสภาเพื่อขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย. ที่ประชุมขอยืนยันว่า เหตุผลที่พันธมิตรฯอ้างจะบุกยึดรัฐสภาสองข้อ คือ จะพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ที่ประชุมหารือครบทุกส่วนและมีมติหลังการยืนยันของนายชัยและตนที่แถลงข่าวไปแล้วว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภาจะไม่นำวาระการการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะเป็นร่างของใครหรือแก้ไขในมาตราใดมาตราหนึ่งแน่นอน และพันธมิตรฯอ้างจะตอบโต้รัฐบาลที่ลงมือทำร้ายประชาชนที่มาชุมนุมในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่มีแนวคิดที่จะดำเนินการเช่นนั้นไม่ว่ากรณีใดๆตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ปัจจุบัน และอนาคต ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รัฐบาลก็จะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอเรียนประชาชนว่า เหตุผลสองข้อที่พันธมิตรฯ อ้างนั้นไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และไม่อยู่ในการดำเนินการของรัฐบาลและรัฐสภาแต่อย่างใด ทั้งนี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯ ได้โทรศัพท์จากเปรูมาหาตนเมื่อเย็นวันที่ 22 พ.ย. โดยนายกฯ ฝากเรียนไปยังประชาชนว่า วาระสำคัญที่จะนำไปพิจารณาในการประชุมนั้นเป็นวาระที่ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องนำข้อสรุปขอความเห็นชอบจากรัฐสภาในการนำข้อตกลง บันทึกความเข้าใจและบันทึกความร่วมมือต่างๆ ของประเทศไทยไปใช้ลงนามกับกลุ่มประเทศอาเซียนบวก6 ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน ธ.ค.ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มประเทศอาเซียนบวก 6

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า โดยการดำเนินการดังกล่าวนายกฯ บอกว่าไม่ได้เป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของรัฐบาลหรือดำเนินการตามความต้องการของนายสมชายแต่เป็นการดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งตัวอย่างนั้นคือกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ทำให้ ครม.จำเป็นต้องนำข้อตกลงระหว่างประเทศทุกเรื่องเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณา ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใดหรือนายกฯ คนใดก็ต้องดำเนินการเช่นนี้ และการประชุมรัฐสภาเพื่อผ่านความเห็นชอบในข้างต้นก็ต้องดำเนินการเช่นนี้และต้องเกิดขึ้นอยู่ดี

“ฉะนั้น การดำเนินการในวันที่ 24 พ.ย.นั้น ขอย้ำว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หรือความอยู่รอดของรัฐบาล แต่เกี่ยวเนื่องกับการเดินไปข้างหน้า ผลประโยชน์ ภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือบนเวทีโลกและความอยู่รอดของประเทศไทย นายกฯ ยังขอร้องประชาชนที่จะไปชุมนุมกับพันธมิตรฯ ว่า หากจะชุมนุมโดยสงบสันติ ปราศจากอาวุธและใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถือว่ากระทำได้ แต่นายกฯขอร้องว่าขอให้เห็นแก่สถานการณ์และความเป็นไปของบ้านเมือง รวมทั้งภาพลักษณ์ของประเทศในสายตาชาวโลก นายกฯ จึงขอให้ยกเว้นการปิดล้อมและบุกยึดอาคารรัฐสภา เพราะเป็นเขตพระราชฐานและเป็นสถานที่ของตัวแทนประชาชนที่ได้รับฉันทานุมัติจากการเลือกตั้งให้มาทำหน้าที่นิติบัญญัติ การขัดขวางไม่ให้มีการประชุมนั้น นายกฯ จึงวิงวอนประชาชนให้เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง” นายณัฐวุฒิกล่าว

ส่วนจะมีการประชุมหรือเลื่อนการประชุมหรือไม่นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มติที่ประชุมเห็นว่าการนัดหมายดังกล่าวนั้นได้ดำเนินการตามระเบียบแบบแผนถูกต้องทุกประการ และมีความสำคัญในการดำเนินการเพื่อประเทศ ฉะนั้นจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงนัดหมายใดๆ โดยจะมีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย.เวลา 09.30 น. แต่ต้องดูสถานการณ์อีกครั้ง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่มีเหตุวุ่นวาย การประชุมก็จะดำเนินการตามปกติ หากมีการปิดล้อมบุกยึดรัฐสภานั้น นายชัยจะใช้ดุลพินิจอีกครั้งในช่วงเช้าวันที่ 24 พ.ย.ก่อนถึงเวลาประชุม โดยที่ประชุมเห็นชอบตามข้อสรุปดังกล่าว

“ทำเนียบฯ คือสัญลักษณ์ของฝ่ายบริหารโดนยึดกุมไว้จนถึงตอนนี้ ขอความกรุณาให้เว้นการปิดล้อมและยึดรัฐสภาเพราะมันจะเสียหายต่อสถานการณ์ภายในและภายนอกประเทศเพิ่มขึ้นไปอีก” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนมาตรการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกส่วนนั้น ที่ประชุมกำชับและให้นโยบายเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รับผิดชอบหลักในการควบคุมสถานการณ์ ประสานกับทหารในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงานให้เตรียมแผนปฏิบัติและวางกำลังอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในความสงบ และป้องกันไม่ให้ปิดล้อมบุกยึดรัฐสภา โดยตำรวจและทหารรับไปปฏิบัติอย่างเต็มที่ โดยจะไม่ใช้อาวุธและกำลังเข้าปะทะกับผู้ชนุมนุมในทุกกรณี โดยตำรวจเตรียมกำลังไว้แล้ว และประสานรถดับเพลิงจาก กทม.ไว้ในพื้นที่สำคัญ เพราะเสนาธิการทหารบกแจ้งว่า ได้รับรายงานข่าวว่าอาจมีผู้ชุมนุมหรือผู้ไม่หวังดีสร้างสถานการณ์ให้ลุกลามบานปลาย อาจลักลอบวางเพลิงในสถานที่ราชการสำคัญๆ และยังคาดการณ์ว่าผู้ชุมนุมของพันธมิตรฯ น่าจะเตรียมอาวุธไว้ด้วย และให้ตำรวจตรวจสอบพื้นที่พักอาวุธ เช่น บริเวณวัดสังเวช และบ้านพระอาทิตย์ โดยจะมีการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงและป้องกันเหตุ ส่วนทหารจะมี 21 กองร้อยไว้คอยประสานงาน

“เมื่อมีรายงานข่าวแบบนี้ต้องตรวจสอบอีกครั้ง เพราะมันน่าวิตกกังวลกับการเคลื่อนตัวของคนนับหมื่นและมีรายงานการเตรียมอาวุธ มันไม่มีใครปรารถนาให้เกิดขึ้น และทุกคนในที่ประชุมไม่อยากให้ยึดรัฐสภาและเคลื่อนขบวนก่อเหตุวุ่นวาย ขอวิงวอนแกนนำพันธมิตรฯ ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที้เกิดขึ้นมันสร้างความบอบช้ำให้สถานกาณ์ของบ้านเมืองมากมายแล้ว ที่ผ่านมาทุกฝ่ายได้ร่วมกันผ่านงานสำคัญคืองานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ด้วยภาพความสงบและสามัคคี และยังจะมีงานสำคัญอีกคือ วันที่ 5 ธ.ค.มหาราช จึงขอให้ประชาชน แกนนำพันธมิตรฯ และแกนนำทุกฝ่าย คำนึงถึงวาระโอกาสสำคัญและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองด้วย จึงไม่ควรบุกยึดสถานที่ราชการและการก่อเหตุใดๆ ที่จะเกิดความวุ่นวายของบ้านเมือง” นายณัฐวุฒิ กล่าว และว่า จากนี้ไปจะมีการติดต่อกับฝ่ายต่างๆ ในการควบคุมสถานการณ์เป็นระยะทางโทรศัพท์ โดยได้วางแผนไว้แล้วว่าใครจะติดต่อกับใครในเรื่องใดบ้าง หากสถานการณ์ลุกลามก็อาจเรียกประชุมด่วน ทั้งนี้นายกฯ ได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศเป็นระยะด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น