ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองทัพบก วานนี้ (22 ต.ค.) ว่าได้มีการแจกจ่ายสำเนาคำสั่งการปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษ ซึ่งเป็นการปรับย้ายนายทหารระดับ รองผู้บัญชาการกองพล (รองผบ.พล.) และผู้บังคับการกรม (ผู้การ) ซึ่งเป็นการปรับย้ายรองรับต่อจากการโยกย้ายนายทหารระดับ
นายพล ที่ได้รับโปรดเกล้าฯไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้นำเรื่องการพิจารณาการปรับย้ายนายทหารระดับ
พันเอกพิเศษ ตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่นิ่ง จึงนำมาพิจารณาในวัน
จันทร์ที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 317 / 2551 เรื่องให้นายทหารรับ
ราชการ และปรับเงินเดือนจำนวน 141 คน ณ วันที่ 21 ต.ค.51
อย่างไรก็ตาม การปรับย้ายครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ แม้จะให้นโยบายให้ทางกองทัพภาค เสนอ
ชื่อผู้ที่จะปรับย้ายมายังกองทัพบก เพื่อให้เป็นไปตามหน่วยเสนอขึ้นมาโดยได้นำเข้าที่ประชุมการปรับ
ย้ายในระดับ 5 เสือ ทบ. ที่ประกอบด้วย พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผบ.ทบ. พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ผช.
ผบ.ทบ. พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยประดับ ผช.ผบ.ทบ. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. ก็ตาม
แต่เมื่อรายชื่อออกมา นายทหารระดับสูงขององทัพบกหลายคน เชื่อว่า การจัดทำรายชื่อ
การปรับย้ายนายทหารครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ได้ร่วมพิจารณาการจัดทำกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เสนาธิการทหารบก เพียง 2 คน เช่นเดิม ท่ามกลางความอึมครึมของสถานการณ์บ้านเมืองที่ถูกแบ่ง
เป็นฝ่าย แม้เจ้าตัวจะออกมายืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็น
การย้ายนายทหารในตำแหน่ง ผู้บังคับการกรม ที่คุมกำลังปฏิวัติหลักในทบ. ทั้งทหารราบ ทหารม้า
และทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) โดยในส่วนตำแหน่งสำคัญที่มีการปรับย้ายประกอบด้วย
พ.อ.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผบ.ร.1 รอ (ตท.18) ที่มีผลงานจากการปฏิวัติ 19 ก.ย. ได้ขยับอีกครั้งขึ้นเป็น
รอง ผบ.พล.ร.1 รอ.พ.อ.ณัฐวัฒน์ อัครนิบุตร เสธ.พล.1 รอ.(ตท.20) ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.
ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผบ.ร.11 รอ. (ตท.24) ลูกชายพล.อ. อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผบ.ทบ. แกนนำ
รสช. ขยับจากรองผบ.ร.11 รอ. เป็นเสธ.พล.1 รอ.
พ.อ.ตะวัน เรืองศรี ผบ.ร.9 (ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ร.9 พ.อ.พรเทพ พัชราพันธุ์ ผบ.ร.29 (
ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ร.9 พ.อ.มนตรี ช้างพลายแก้ว เสธ.มทบ.12 (ตท.18) เป็น ผบ.ร.9 พ.อ.เครือ
นาค เกิดขำ ผบ.กรม สน.พล.ร.9 (ตท.17) เป็น ผบ.ร.29 พ.อ.เกษม เบญจนำรัติศัย ผบ.จทบ.กาญจนบุรี
(ตท.18) เป็น ผบ.กรม สน.พล.ร.9 พ.อ.จักรชัย โมกขะสมิต ผบ.ช.1 รอ. (ตท.18) เป็นรองผบ.พลพัฒนา
1 พ.อ.เจษฎา เปรมนิรันดร รองผบ.พรมพัฒนา 1 (ตท.20) เป็น ผบ.ช.1 รอ. พ.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง
ฝสธ.ประจำฯ(ตท.21) เป็น ผบ.จทบ.กาญจนบุรี
พ.อ.ชวลิต ชุนประสาน รองผบ.พล.ร.6 (ตท15) เป็น รองผบ.พล.ร.3 พ.อ.วุฒิ แสงจักร เส
ธ.พล.ร.6 (ตท.15) เป็นรองผบ.พล.6 พ.อ.ไชยอนันต์ คำชุ่ม รองผบ.พล.ร.6 (ตท.17) เป็น ผบ.ร.6
พ.อ.กุศล สิงห์สาย รองผบ.ม.6 (ตท.17) เป็นผบ.ม.6 พ.อ.ปราการ ชลยุทธ รองผบ.จทบ.อ.ต.
(ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ม.1 พ.อ.นันทพล จำรัสโรมรัน เสธ.พล.ม.2 รอ. (ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ม.2
รอ.พ.อ.สมโภชน์ วังแก้ว รองผบ.ม.1 รอ. (ตท.17) เป็น ผบ.ม.1 รอ. พ.อ.โชติอนันต์ ทรัพย์หิรัญ ผบ.
ปตอ.2 (ตท.17) เป็น รอง ผบ.พล.ปตอ. พ.อ.ปริญญา สุจริตตานันท์ ผบ.ศปภอ.ทบ.1 (ตท.17) เป็น ผบ.
ปตอ.1 พ.อ.ศักดิ์ณรงค์ เอียงพยุง ผอ.กยก.นปอ.(ตท.16) ผบ.ปตอ.2
**ผบ.ทบ.เรียก"เสธ.แดง"ตบโหลก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้ พล.ท.พิรุณ แผ้ว
พลสง รองเสนาธิการทหารบก เรียก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
เข้าพบที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อสอบถามถึงจุดยืนต่อการออกไปเคลื่อนไหวฝึกกองกำลังนัก
รบพระเจ้าตาก ที่ท้องสนามหลวง โดยกลุ่มนักรบพระเจ้าตากเหล่านี้ เคยเป็นส่วนรักษาความ
ปลอดภัยให้กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อครั้งเดินขบวนมาที่
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยึดทำเนียบรัฐบาล
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ เปิดเผยว่าพล.ท.พิรุณได้ขอให้ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิ
พิเศษกองทัพบก มาประสานงานให้ตนไปพบ เนื่องจากพล.อ.อนุพงษ์ ต้องการทราบจุดยืนที่แท้จริง
ของตน ซึ่งได้บอกไปว่าจุดยืนที่แท้จริงคือ ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เข้ายึด
ทำเนียบรัฐบาล และ การนำประเด็นการอภิปรายต่างๆไปพูดจาพาดพิงสถาบันฯ รวมถึงเคลื่อน
ไหวอย่างไม่สนใจอำนาจรัฐใดๆ ทั้งสิ้น โดยที่รัฐบาล หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ
ได้เลย
**แฉแก๊งนปช.ซ่องสุม 2 แห่ง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแนวร่วม นปช. หรือพวกเสื้อแดง และยัง
ได้อธิบายให้ฟังว่า กลุ่มเหล่านี้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกอยู่ที่ท้องสนามหลวงเป็นม็อบเติมเงิน
แกนนำ 5 -6 คน รับเงินค่าจ้างสดๆ 2 แสนบาท อีกส่วนอยู่ที่เมืองทองธานี มีกลุ่มคนที่เป็นอดีตนักการ
เมืองพรรคพลังประชาชนเป็นหลัก ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือรับค่าจ้าง แต่ต้องการฝึกพวกฮา
ร์ดคอร์ ไว้เป็นกองกำลังในการต่อสู้กดดันพวกนักรบศรีวิชัย ที่มีอาวุธ และ การฝึกมาอย่างดี ทั้งนี้ ใน
ส่วนของแกนนำพันธมิตรฯ บางคนก็ได้เงินค่าจ้างเหมือนกัน วงเงินอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท
"ผมเอาพวกฮาร์ดคอร์ ที่มันปะปนอยู่ในพวกเสื้อแดงในท้องสนามหลวงมาฝึก เพราะคน
พวกนี้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพันธมิตรฯ เหมือนกับที่ผมไม่เห็นด้วย ส่วนพวกนปช. ก็เป็นพวก
เข้าป่ามาก่อน เป็นพวกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งผมก็เล่าโครงสร้างทั้งหมดให้ รอง เสธ.ทบ. ฟังทั้งหมด
พร้อมเล่าให้เขาฟังว่า ขณะนี้กระแสความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ต่างๆ โจมตีสถาบันฯ อย่างมาก ด่า
กันหยาบๆ คายๆ เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังงานศพน้องโบว์ ซึ่งในอดีตไม่เคยมีมาก่อน"
**เย้ย ผบ.เหล่าทัพ"บ่มีไก๊"
"ความจริง ผบ.ทบ.ไม่ควรจะให้คนมาถามผมว่า จุดยืนเป็นอย่างไร แต่ขอบอกท่านได้คำ
เดียวว่า ตอนนี้ผมกับท่านอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในขณะนี้ทหารในกองทัพบก มีผมกับท่าน 2 คน
ที่โดนมือตบไล่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมทำ ท่านอย่ามาสงสัย ตอนนี้ผู้นำเหล่าทัพควรมีความเข้มแข็ง
วันก่อนเห็น 4 คน ไปเรียงหน้ากระดานออกทีวี ขู่รัฐบาลฟ่อๆ ไม่มีท่าอะไร อ่อนแอ ผู้นำเหล่าทัพต้อง
เข้มแข็ง แต่ผมก็เข้าใจเพราะ พี่ป็อก เป็นเด็กรร.กวดวิชา อโณชา มาด้วยกัน เป็นเด็กเรียบร้อยมาตลอด
นิ่มๆ เรียบร้อยมาตลอด ไม่เหมือน เสธ.แดง ที่ลุยมาตลอดชีวิต หากผบ.ทบ.จะใช้ผมทำอะไรเพื่อชาติ
หรือ จัดการปัญหาอะไรก็ให้บอกมา เพราะบ้านเมืองไม่ควรปล่อยให้คนกลุ่มเดียวกำหนด เพราะฉะนั้น
อย่ามาถามเรื่องจุดยืน "
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวด้วยว่า เคยคุยกับพล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ
ถึงการออกมาประกาศยึดทำเนียบฯ คืน แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่า พล.ต.อ. สล้าง จะทำอะไรต่อไป เพราะ
เห็นเปลี่ยนเป็นการทำบุญไปแล้ว แต่หากมีการบุกยึดทำเนียบฯคืน ตนพร้อมนักรบพระเจ้าตาก ก็จะ
พิจารณาดูว่า จะทำอย่างไร แต่คงไม่ไปร่วม เนื่องจากการฝึกของตน เป็นแบบจรยุทธ์ ยังยืนยันว่าจะ
เผารถยนต์ ที่จอดข้างคลองวัดโสมนัส 10 คันก่อน แล้วจึงเปิดเกมตามที่วางแผนไว้ เป็นขั้นตอน
ส่วนกรณีที่นักรบพระเจ้าตากถูกจับที่ศาล เมื่อวันที่ 21 ต.ค.นั้น เท่าที่ทราบ เป็นการไปดูสถานการณ์
นายพล ที่ได้รับโปรดเกล้าฯไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้นำเรื่องการพิจารณาการปรับย้ายนายทหารระดับ
พันเอกพิเศษ ตั้งแต่อาทิตย์ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่นิ่ง จึงนำมาพิจารณาในวัน
จันทร์ที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบก ที่ 317 / 2551 เรื่องให้นายทหารรับ
ราชการ และปรับเงินเดือนจำนวน 141 คน ณ วันที่ 21 ต.ค.51
อย่างไรก็ตาม การปรับย้ายครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ แม้จะให้นโยบายให้ทางกองทัพภาค เสนอ
ชื่อผู้ที่จะปรับย้ายมายังกองทัพบก เพื่อให้เป็นไปตามหน่วยเสนอขึ้นมาโดยได้นำเข้าที่ประชุมการปรับ
ย้ายในระดับ 5 เสือ ทบ. ที่ประกอบด้วย พล.อ.จิรเดช คชรัตน์ รองผบ.ทบ. พล.อ.วิโรจน์ บัวจรูญ ผช.
ผบ.ทบ. พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยประดับ ผช.ผบ.ทบ. และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. ก็ตาม
แต่เมื่อรายชื่อออกมา นายทหารระดับสูงขององทัพบกหลายคน เชื่อว่า การจัดทำรายชื่อ
การปรับย้ายนายทหารครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ได้ร่วมพิจารณาการจัดทำกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เสนาธิการทหารบก เพียง 2 คน เช่นเดิม ท่ามกลางความอึมครึมของสถานการณ์บ้านเมืองที่ถูกแบ่ง
เป็นฝ่าย แม้เจ้าตัวจะออกมายืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนการปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็น
การย้ายนายทหารในตำแหน่ง ผู้บังคับการกรม ที่คุมกำลังปฏิวัติหลักในทบ. ทั้งทหารราบ ทหารม้า
และทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน (ปตอ.) โดยในส่วนตำแหน่งสำคัญที่มีการปรับย้ายประกอบด้วย
พ.อ.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผบ.ร.1 รอ (ตท.18) ที่มีผลงานจากการปฏิวัติ 19 ก.ย. ได้ขยับอีกครั้งขึ้นเป็น
รอง ผบ.พล.ร.1 รอ.พ.อ.ณัฐวัฒน์ อัครนิบุตร เสธ.พล.1 รอ.(ตท.20) ข้ามกลับมาเป็น ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.
ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผบ.ร.11 รอ. (ตท.24) ลูกชายพล.อ. อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีตผบ.ทบ. แกนนำ
รสช. ขยับจากรองผบ.ร.11 รอ. เป็นเสธ.พล.1 รอ.
พ.อ.ตะวัน เรืองศรี ผบ.ร.9 (ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ร.9 พ.อ.พรเทพ พัชราพันธุ์ ผบ.ร.29 (
ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ร.9 พ.อ.มนตรี ช้างพลายแก้ว เสธ.มทบ.12 (ตท.18) เป็น ผบ.ร.9 พ.อ.เครือ
นาค เกิดขำ ผบ.กรม สน.พล.ร.9 (ตท.17) เป็น ผบ.ร.29 พ.อ.เกษม เบญจนำรัติศัย ผบ.จทบ.กาญจนบุรี
(ตท.18) เป็น ผบ.กรม สน.พล.ร.9 พ.อ.จักรชัย โมกขะสมิต ผบ.ช.1 รอ. (ตท.18) เป็นรองผบ.พลพัฒนา
1 พ.อ.เจษฎา เปรมนิรันดร รองผบ.พรมพัฒนา 1 (ตท.20) เป็น ผบ.ช.1 รอ. พ.อ.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง
ฝสธ.ประจำฯ(ตท.21) เป็น ผบ.จทบ.กาญจนบุรี
พ.อ.ชวลิต ชุนประสาน รองผบ.พล.ร.6 (ตท15) เป็น รองผบ.พล.ร.3 พ.อ.วุฒิ แสงจักร เส
ธ.พล.ร.6 (ตท.15) เป็นรองผบ.พล.6 พ.อ.ไชยอนันต์ คำชุ่ม รองผบ.พล.ร.6 (ตท.17) เป็น ผบ.ร.6
พ.อ.กุศล สิงห์สาย รองผบ.ม.6 (ตท.17) เป็นผบ.ม.6 พ.อ.ปราการ ชลยุทธ รองผบ.จทบ.อ.ต.
(ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ม.1 พ.อ.นันทพล จำรัสโรมรัน เสธ.พล.ม.2 รอ. (ตท.15) เป็น รองผบ.พล.ม.2
รอ.พ.อ.สมโภชน์ วังแก้ว รองผบ.ม.1 รอ. (ตท.17) เป็น ผบ.ม.1 รอ. พ.อ.โชติอนันต์ ทรัพย์หิรัญ ผบ.
ปตอ.2 (ตท.17) เป็น รอง ผบ.พล.ปตอ. พ.อ.ปริญญา สุจริตตานันท์ ผบ.ศปภอ.ทบ.1 (ตท.17) เป็น ผบ.
ปตอ.1 พ.อ.ศักดิ์ณรงค์ เอียงพยุง ผอ.กยก.นปอ.(ตท.16) ผบ.ปตอ.2
**ผบ.ทบ.เรียก"เสธ.แดง"ตบโหลก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้ พล.ท.พิรุณ แผ้ว
พลสง รองเสนาธิการทหารบก เรียก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ"เสธ.แดง" ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก
เข้าพบที่กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อสอบถามถึงจุดยืนต่อการออกไปเคลื่อนไหวฝึกกองกำลังนัก
รบพระเจ้าตาก ที่ท้องสนามหลวง โดยกลุ่มนักรบพระเจ้าตากเหล่านี้ เคยเป็นส่วนรักษาความ
ปลอดภัยให้กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อครั้งเดินขบวนมาที่
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อคัดค้านการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ยึดทำเนียบรัฐบาล
ด้าน พล.ต.ขัตติยะ เปิดเผยว่าพล.ท.พิรุณได้ขอให้ พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต ผู้ทรงคุณวุฒิ
พิเศษกองทัพบก มาประสานงานให้ตนไปพบ เนื่องจากพล.อ.อนุพงษ์ ต้องการทราบจุดยืนที่แท้จริง
ของตน ซึ่งได้บอกไปว่าจุดยืนที่แท้จริงคือ ต่อต้านการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เข้ายึด
ทำเนียบรัฐบาล และ การนำประเด็นการอภิปรายต่างๆไปพูดจาพาดพิงสถาบันฯ รวมถึงเคลื่อน
ไหวอย่างไม่สนใจอำนาจรัฐใดๆ ทั้งสิ้น โดยที่รัฐบาล หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ
ได้เลย
**แฉแก๊งนปช.ซ่องสุม 2 แห่ง
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ขัตติยะ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแนวร่วม นปช. หรือพวกเสื้อแดง และยัง
ได้อธิบายให้ฟังว่า กลุ่มเหล่านี้แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกอยู่ที่ท้องสนามหลวงเป็นม็อบเติมเงิน
แกนนำ 5 -6 คน รับเงินค่าจ้างสดๆ 2 แสนบาท อีกส่วนอยู่ที่เมืองทองธานี มีกลุ่มคนที่เป็นอดีตนักการ
เมืองพรรคพลังประชาชนเป็นหลัก ซึ่งตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือรับค่าจ้าง แต่ต้องการฝึกพวกฮา
ร์ดคอร์ ไว้เป็นกองกำลังในการต่อสู้กดดันพวกนักรบศรีวิชัย ที่มีอาวุธ และ การฝึกมาอย่างดี ทั้งนี้ ใน
ส่วนของแกนนำพันธมิตรฯ บางคนก็ได้เงินค่าจ้างเหมือนกัน วงเงินอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท
"ผมเอาพวกฮาร์ดคอร์ ที่มันปะปนอยู่ในพวกเสื้อแดงในท้องสนามหลวงมาฝึก เพราะคน
พวกนี้ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพันธมิตรฯ เหมือนกับที่ผมไม่เห็นด้วย ส่วนพวกนปช. ก็เป็นพวก
เข้าป่ามาก่อน เป็นพวกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ซึ่งผมก็เล่าโครงสร้างทั้งหมดให้ รอง เสธ.ทบ. ฟังทั้งหมด
พร้อมเล่าให้เขาฟังว่า ขณะนี้กระแสความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ต่างๆ โจมตีสถาบันฯ อย่างมาก ด่า
กันหยาบๆ คายๆ เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหลังงานศพน้องโบว์ ซึ่งในอดีตไม่เคยมีมาก่อน"
**เย้ย ผบ.เหล่าทัพ"บ่มีไก๊"
"ความจริง ผบ.ทบ.ไม่ควรจะให้คนมาถามผมว่า จุดยืนเป็นอย่างไร แต่ขอบอกท่านได้คำ
เดียวว่า ตอนนี้ผมกับท่านอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในขณะนี้ทหารในกองทัพบก มีผมกับท่าน 2 คน
ที่โดนมือตบไล่ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมทำ ท่านอย่ามาสงสัย ตอนนี้ผู้นำเหล่าทัพควรมีความเข้มแข็ง
วันก่อนเห็น 4 คน ไปเรียงหน้ากระดานออกทีวี ขู่รัฐบาลฟ่อๆ ไม่มีท่าอะไร อ่อนแอ ผู้นำเหล่าทัพต้อง
เข้มแข็ง แต่ผมก็เข้าใจเพราะ พี่ป็อก เป็นเด็กรร.กวดวิชา อโณชา มาด้วยกัน เป็นเด็กเรียบร้อยมาตลอด
นิ่มๆ เรียบร้อยมาตลอด ไม่เหมือน เสธ.แดง ที่ลุยมาตลอดชีวิต หากผบ.ทบ.จะใช้ผมทำอะไรเพื่อชาติ
หรือ จัดการปัญหาอะไรก็ให้บอกมา เพราะบ้านเมืองไม่ควรปล่อยให้คนกลุ่มเดียวกำหนด เพราะฉะนั้น
อย่ามาถามเรื่องจุดยืน "
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวด้วยว่า เคยคุยกับพล.ต.อ. สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ
ถึงการออกมาประกาศยึดทำเนียบฯ คืน แต่ขณะนี้ไม่ทราบว่า พล.ต.อ. สล้าง จะทำอะไรต่อไป เพราะ
เห็นเปลี่ยนเป็นการทำบุญไปแล้ว แต่หากมีการบุกยึดทำเนียบฯคืน ตนพร้อมนักรบพระเจ้าตาก ก็จะ
พิจารณาดูว่า จะทำอย่างไร แต่คงไม่ไปร่วม เนื่องจากการฝึกของตน เป็นแบบจรยุทธ์ ยังยืนยันว่าจะ
เผารถยนต์ ที่จอดข้างคลองวัดโสมนัส 10 คันก่อน แล้วจึงเปิดเกมตามที่วางแผนไว้ เป็นขั้นตอน
ส่วนกรณีที่นักรบพระเจ้าตากถูกจับที่ศาล เมื่อวันที่ 21 ต.ค.นั้น เท่าที่ทราบ เป็นการไปดูสถานการณ์