“สมเกียรติ” ประกาศกร้าวพร้อมประจัญบาน เตรียมเคลื่อนทัพ “พันธมิตรฯ” ไป “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-วัดพระแก้ว” เพื่อคัดค้านการแก้ รธน.-ขับไล่ “รัฐบาลซ่องโจร” 9 โมงเช้าวันนี้จนสุดชีวิต พร้อมหนุนองค์กร “ศาล” เพื่อค้ำจุนประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันนี้ (2 ส.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศว่าถ้าเปิดสภา แล้วจะยื่นแก้รัฐธรรมนูญทันทีว่า พอกลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศชุมนุม เขาเลื่อนการยื่นแก้รัฐธรรมนูญไปอีก 18 วัน แต่ไม่เป็นไร เพราะเราจะให้เขาเลื่อนชั่วนิจนิรัน เนื่องจากการถอยไปจนมุมในระบอบทักษิณ มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เพราะแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ 1.รัฐสภา 2.คณะรัฐมนตรี 3.ศาล และ 4.กลุ่มพันธมิตรฯ
“1.รัฐสภาขณะนี้ เหมือนไม่ใช่รัฐสภา โดยผมได้รับเชิญชวนให้ไปเที่ยวต่างประเทศสูงถึงหัวละ 150,000 บาท แต่ผมปฏิเสธ เพราะต้องการอยู่กับพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯ เงินรัฐสภามันเกลือกว่า 200 กว่าล้านบาท จึงต้องเอาไปทัศนศึกษากัน โดยให้ลงมติกันว่าจะไปประเทศไหน นอกจากนี้ยังมีค่าเครื่องบิน ค่ากินอยู่ และค่าเบี้ยเลี้ยงต่อวันประมาณ 4-5 พันบาท ดังนั้นวันนี้รัฐสภาจึงอยู่ในสภาพซากเน่า เพราะ 4 พรรคการเมืองเจ๊งหมดแล้ว รอเพียงการแต่งศพเท่านั้น ที่สำคัญการยุบพรรคไม่ใช่ตั้งใหม่ง่ายๆ เพราะกรรมการบริหารพรรคจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิ 5 ปี เหมือน 111 คนของพรรคไทยรักไทย ฉะนั้นจึงไม่ต้องไปพูดถึงรัฐสภาแล้ว” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า 2.ขณะนี้รัฐมนตรีของรัฐบาลนี้มีปัญหาอยู่ 6 คน ประกอบด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รมว.คลัง นางอุไรวรรณ เทียนทอง และนายอนุรักษ์ จุรีมาศ ซึ่งเป็น 3 หนาที่ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง และพอตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ก็มีปัญหาขึ้นมาอีก 3 คน คือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข และนายประสงค์ โฆษิตานนท์ นอกจากนี้ ป.ป.ช.เตรียมที่จะฟัน 35 รัฐมนตรี กรณีประเคนเขาพระวิหารให้กับกัมพูชา ซึ่งคาดว่าในวันที่ 4-8 ส.ค.นี้จะเห็นดำเห็นแดงกัน และถ้าร้ายที่สุด ป.ป.ช.ยังไม่ได้ดำเนินการ ก็จะมีกรณีของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพราะเขาส่งรายการชิมไปบ่นไป ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว และถ้าศาลวินิจฉัยว่านายกฯ ผิดกฎหมาย คณะรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ
“ส่วนข้อ 3 คือ อำนาจนิติบัญญัตินั้น พรรคการเมืองอย่างน้อย 4 พรรค ต้องเข้าสู่การพิจาณายุบพรรค ซึ่งมีสมาชิกนับร้อยคน โดยพรรคเพื่อแผ่นดินก็แตกเรียบร้อยแล้ว ส่วนพรรคชาติไทยที่ไปร่วมกับรัฐบาล ก็เพราะอดอยากปากแห้ง ดังนั้นจึงถือว่าจบแล้ว และเหลืออย่างเดียวก็คือ ศาล ซึ่งพวกเราไม่ผิดหวังเพราะเป็นองค์กรยุติธรรม เนื่องจากได้สั่งจำคุกคนโกงให้พวกเราได้เห็นแล้ว และศาลยังสั่งให้กลับมาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ เพื่อมาพบศาลครั้งสุดท้ายก่อนมีคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดา 772 ล้านบาท ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้” นายสมเกียรติ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีกรณีธนาคารเอ็กซิมแกงก์ปล่อยกู้ให้กับประเทศพม่า 4,000 ล้านบาท กรณีร่ำรวยผิดปกติ 76,000 ล้านบาท กรณีแปลงภาษีโทรศัพท์สัมปทานเป็นสรรพสามิต 66,000 ล้านบาท ซึ่งรอคิวเต็มไปหมด และเมื่อถามใครก็จะได้คำตอบว่า เขาคงไม่รอเราแล้ว เพราะเขาจะไปตายเอาดาบหน้า อย่างน้อยที่สุดคือ เกาะกง วันนี้ถามแกนนำพันธมิตรฯ ทุกคน ต่างวิเคราะห์กันว่า ระดับมหาเศรษฐีของโลก ไม่มีทางที่จะติดคุกอย่างเด็ดขาด
“ขณะนี้องค์การที่เหลือคือ ป.ป.ช. และศาล เหมือนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ออกมาเตือนเอาไว้ 2 ข้อ คือ 1.สนับสนุนองค์กรอิสระ และศาลทำงานเต็มที่ 2.อย่าแก้รัฐธรรมนูญ แต่คนที่ควรได้รับความเคารพเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เพราะทำงานปิดทองหลังพระ โดยส่งทหาร และ ส.ห.มาช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกคืน ซึ่งไม่เคยเอาหน้าเอาตาแม้แต่น้อย ฉะนั้นไอ้พวกซากเน่าทางการเมืองจึงกลัวศาล และพลังของกลุ่มพันธมิตรฯ” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ขอให้พวกเราพี่น้องพันธมิตรฯ โปรดภูมิใจที่ได้มาร่วมชุมนุม เพราะสิ่งนี้จะกลายเป็นพลังที่ค้ำจุนประเทศไทย และขอให้ภูมิใจว่าไม่มีใครสามารถทำลายรัฐบาลซ่องโจรได้นอกจากพวกเราชาวพันธมิตรฯ ดังจะเห็นได้จากมวลชนที่หลั่งไหลกันมา ที่สำคัญในวันนี้เราจะเดินขบวนครั้งใหญ่ในเวลา 09.00 น. เพื่อแสดงแสนยานุภาพของเรา โดยจะเคลื่อนขบวนไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อที่จะประกาศว่าเราจะปกป้องรัฐธรรมนูญจนสุดชีวิต โดยมีนายทหารมาควบคุมการสวนสนามในครั้งนี้ เพราะเราคือทหารของพระราชา และพระราชินี
“หลังจากนั้นเราจะไปที่วัดพระแก้ว เพื่อไปทำพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เพราะรัฐบาลส่ง รมว.ต่างประเทศ และ ผบ.สส.ไปเจรจากรณีเขาพระวิหารกับเขมร ซึ่งผลสุดท้ายไม่มีใครถอนทหาร และพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของไทยมาโดยตลอด แต่เขามาสร้างวัดในพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นมาเขาก็บอกว่าเป็นของเขา อีกทั้งเราร้องขอให้กัมพูชาเอาประชาชนกว่า 900 คน ออกจากพื้นที่ แต่เขาไม่ออก และที่จะออกก่อนก็น่าจะเป็นรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้นวันพุ่งนี้คือการประกาศประจัญบานว่า จะไม่ยอมให้มีการแก้รับธรรมนูญอย่างเด็ดขาด และจะยอมเสียชีวิต เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเสียอธิปไตยอีกต่อไป ฉะนั้นจึงขอร้องให้พ่อแม่พี่น้องมารวมกันในวันนี้ เพื่อมาสำแดงพลังบริสุทธิ์ให้เขาได้รู้ว่าคนที่มาร่วม จะไม่น้อยไปกว่าตอนที่ไปทวงคืน ปตท.” นายสมเกียรติ กล่าว
นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งซากเน่ารัฐสภา และคณะรัฐมนตรีไปแล้วไปลับ เหลือเพียงองค์กรที่สูงเด่นเชิดชูปะเทศไทย นั่นก็คือศาล และกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นองค์กรที่ยิ่งใหญ่ของมวลชนตลอดไป
