“เพ็ญ” ห้าวจัดทำปากดี เตือนทหารปฏิวัติระบุทำได้แต่อยู่ไม่ได้ ฮึ่มจะได้รับผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง เย้ยความคิดล้าหลัง โต้ “แม่ทัพภาค 1” กำลังจินตนาการบ้านเมืองอย่างไร เล่นลิ้นชี้ “ถ้าเห็นใครถือปืนแล้วขนลุกแสดงว่าไม่เคารพตัวเอง”
วันนี้ (8 พ.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของม็อบบริเวณหน้ารัฐสภาว่า ไม่ทราบและคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และคิดว่าคงไม่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดความรุนแรง เนื่องจากการแสดงออกทางประชาธิปไตยเป็นสิทธิเพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมายและไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และในแง่ของความปลอดภัยของบ้านเมืองคาดว่าไม่น่าจะลุกลาม อย่างไรก็ตาม มีการระวังไม่ให้คนที่คิดจะตอกลิ่มให้เกิดความไม่หวังดีในบ้านเมืองสามารถดำเนินการได้
เมื่อถามว่า มองว่ามีกระบวนการที่จะพยายามสร้างความวุ่นวายอยู่ใช่หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า มีอยู่เสมอสำหรับระบอบประชาธิปไตยในระยะตั้งไข่แบบนี้ และมีบุคคลเชื่อว่าประชาธิปไตยไม่น่าจะเดินหน้าไปได้ ที่สำคัญรัฐบาลต้องเดินสร้างผลงานและแก้ไขปัญหาของประเทศให้เร็วที่สุด เพราะความศรัทธาในระบบประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นจากวิธีนี้เมื่อเกิดความศรัทธาขึ้นจะเป็นการป้องกันระบบทั้งหมดทั้งได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่า การใช้ชื่อแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวในปีที่ผ่านมาหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกันเพราะตัวบุคคลเปลี่ยนหมดแล้ว ซึ่งการจัดตั้งกลุ่มประชาชนเป็นเรื่องที่ไม่มีองค์กรอย่างชัดเจนว่าใครสั่งงานใคร ดังนั้น มีการเปลี่ยนตัวบุคคลแนวทางการเคลื่อนไหวก็เปลี่ยนไป หากจะใช้ชื่ออะไรก็ตามคงต้องเป็นเรื่องของกลุ่มใหม่แต่ที่สำคัญรัฐบาลต้องคุมทุกกลุ่มไม่ว่าจะชื่อใดก็ตามให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตย
ถามว่า กรณีที่ พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ออกมาปรามรัฐบาลในลักษณะที่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดมีความกังวลกับตรงนี้หรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า มีความเป็นพิเศษสำหรับ พล.ท.ประยุทธ์ ก็ต้องถามตัวท่านว่าปรามเรื่องอะไร เพราะอะไร แล้ว พล.ท.ประยุทธ์จินตนาการไปอย่างไรกับบ้านเมือง ดังนั้นก็ต้องไปถาม พล.ท.ประยุทธ์ ตนคงไม่ได้อยู่ในหัวคิดท่านไม่ได้
เมื่อถามว่า คิดว่าการยึดอำนาจหรือรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ทุกอย่างมีความก้าวหน้าไปมากถ้าใครคิดล้าหลังอย่างนั้นคงได้รับผลกระทบทางสังคมอย่างรุนแรง ซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้นเพราะยังไม่มีหลักการอย่างมั่นคง เพราะสิทธิเสรีภาพทางสังคมเป็นเรื่องสำคัญ หากคิดว่าใครถือปืนแล้วเราต้องขนลุกทุกครั้งก็แสดงว่าเรายังไม่เคารพตัวเอง ทั้งนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าทำได้หรือไม่แค่ขึ้นอยู่กับว่าทำแล้วจะอยู่ได้หรือไม่
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับทหารตอนนี้เป็นอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า ดีมาก เพราะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากท่านเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บางครั้งนายกรัฐมนตรีก็เกรงใจบอกว่าไม่ต้องไปก็ได้ แต่ท่านก็ยืนยันที่จะติดตามไปด้วย ตนคิดว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าทหารชั้นผู้ใหญ่ในยุคนี้ไม่ได้ลุ่มหลงอยู่ในยุคเก่า และทหารรู้ดีว่าบ้านเมืองต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา ไม่ใช่สูตรสำเร็จที่ใครจะทุบโต๊ะแล้วแก้ได้เพราะมีความต้องการและความเห็นที่แตกต่างกัน ไม่ได้ทุบโต๊ะเอาความคิดเดียวขึ้นมาเป็นหลักจะทำให้ความคิดอื่นระเบิดขึ้นมาเป็นความแตกแยกได้ ดังนั้น ระบอบประชาธิปไตยเป็นทางเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาระบอบอื่นใช้การไม่ได้
เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์รัฐบาลกับผู้นำเหล่าทัพอื่นๆ ที่ไม่ใช่ ผบ.ทบ.เป็นอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า ดีมาก เพราะได้พบกันเป็นประจำ ซึ่งล่าสุดพบกับผู้นำเหล่าทัพหลายท่านทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ยกเว้นในใจคนที่ไม่อยากให้เป็นปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับสื่อกระแสหลักบุคคลที่เคลื่อนไหวคงไม่มีศักยภาพ ซึ่งศักยภาพของบุคคลเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสื่อกระหลักเป็นสำคัญ
/0110