พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาโฟนอินถึงแผนตากสินที่จะล้มรัฐบาล กองทัพ และกระทบสถาบัน ว่ายังไม่ได้ศึกษาละเอียดมากกับข้อมูลที่ได้รับ แต่จะเป็นข้อมูลถูกต้องมากน้อยเพียงใดก็กำลังศึกษาอยู่
ผมอยากบอกสังคมว่า การที่จะคิดอะไรกับสังคมไทยในขณะนี้และไปกระทบกระเทือนกับสถาบันหลักไม่ว่าจะเป็นประชาชน ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นสิ่งดีกับประเทศชาติ เพราะฉะนั้นเราเป็นคนไทยต้องเข้าใจและช่วยกันประคับประคอบให้บ้านเมืองให้ผ่านไปได้ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตาม อำนาจหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความแตกร้าวของคนไทยได้แคบลงมาแล้วหรือยัง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ประเมินจากคนเพียงสองกลุ่มที่ขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่ได้ผลทีเดียวนัก ต้องดูจากคนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบ ซึ่งพลังเงียบในขณะนี้ทุกคนรู้ดีว่า ทุกคนเบื่อหน่ายสถานการณ์ที่ไม่ได้ช่วยกันฝ่าฟันเศรษฐกิจหรือจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ประชาชนหลายส่วนค่อนข้างจะเบื่อหน่าย เมื่อเขาเบื่อหน่ายในการ ปลุกปั่นอะไรก็ไม่ได้ผลมากนัก คิดว่าถ้าคนพวกนี้ออกมาช่วยสังคมก็น่าจะดีขึ้น
ส่วนพลังเงียบน่าจะออกมาในรูปแบบใดได้บ้างนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องออกมาช่วยกันในสิ่งที่สร้างสรรค์สังคม เช่นการสมัครสมานสามัคคีไม่มีการขัดแย้งกันในลักษณะที่เกิดสิ่งดีๆ อะไรก็ได้ที่ไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือใช้อะไรที่ผิดกฎหมายมาทำให้สังคมปั่นป่วน เพราะจะมีผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจ หรือชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ดังนั้นต้องทำในสิ่งที่ดีๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังควรจะยุติบทบาทเช่นกันใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า น่าจะยุติบทบาทตั้งนานแล้วด้วยซ้ำเพราะเป็นการทำร้ายประเทศชาติและคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าใครทั้งสิ้น เมื่อเราอยู่ที่นี่แม้จะเกี่ยวข้องหรือไม่ก็จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้โดยตรง
นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. แถลงข่าวกรณีการเลื่อนวันชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยนายวีระ กล่าวว่า จากเดิมการชุมนุม ของคนเสื้อแดงที่ได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่าจะชุมนุมกันปลายเดือนนี้ คือ วันที่ 29 มี.ค.แต่เหตุการณ์การเมืองผันแปร นปช.จึงขอขยับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล เข้ามาเป็นวันที่ 26 มี.ค.โดยรวมตัวที่สนามหลวง
ทั้งนี้จุดประสงค์ของ นปช.มีเป้าหมายเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่กำลังอภิปรายฯ แต่นปช.คือการเมืองภาคประชาชนที่จำเป็นต้องแสดงเจตจำนง หากรัฐบาลไม่ทำให้ กฎหมายเป็นกฎหมาย ไม่ปลดแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีตำแหน่งในรัฐบาล ไม่นำพันธมิตรฯ มาดำเนินคดี และไม่นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาบังคับใช้ นปช.ก็ต้องใช้เจตจำนงของประชาชน
หวังว่าน่าจะมาร่วมชุมนุมมากเป็นพิเศษ และมั่นใจว่าน่าจะเต็มสองฝั่งถนนราชดำเนิน ทั้งนี้วันที่ 21 มี.ค.นปช.จะชุมนุมบริเวณสนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และวันที่ 22 มี.ค.ชุมนุมที่สนามกีฬา 700 ปีวันที่จ.เชียงใหม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นปช.จะชุมนุมใหญ่โดยตั้งต้นที่สนามหลวงและเดินทางมายังทำเนียบฯ และจะชุมนุมต่อเนื่อง แม้การอภิปรายฯและการลงมติจะเป็นเช่นใด นปช.ไม่สนใจ เเต่การเคลื่อนไหวของ นปช.ไม่ยอมรับที่มาของรัฐบาลชุดนี้ และจะขับไล่ ตนมีคำถามไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า หลังจากนปช. ยุติการ ชุมนุมบริเวณทำเนียบฯเมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายกฯให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เวลาหนึ่งเดือนนั้นคดีความของพันธมิตรฯจะชัดเจน โดยประชาชนและนปช.น่าจะพอใจ แต่ขอถามว่า เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น คดีความเหล่านั้นคืบหน้าเพียงใด การบังคับใช้กฎหมายมีความเท่าเทียมกันหรือไม่ หรือพูดพล่อยๆ ในแบบของความบังเอิญได้อำนาจมาจากอำมาตย์ที่นำลอยไปให้
นปช.ต้องไปทวงถามความจริงใจของนายกฯ เพราะเกือบหนึ่งเดือน ไม่มีความคืบหน้าใดๆ แต่คดีความของนปช.กลับคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่จะคาดคิดไว้ เช่น การกระทบกระทั่งของการ์ด นปช.กับทหารสองนาย เพียง 5 วันก็อนุมัติหมายจับ และดำเนินคดีทันที และวันที่ 14 มี.ค.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายฯ ลงพื้นที่จ.ปทุมธานี นปช.ก็ไปขับไล่แบบเปิดเผย โดยมีการขว้างรองเท้า ไข่ไก่และมีบุคคลลึกลับเข้ามาร่วมชุมนุมแล้วปาประทัดยักษ์ กรณีนี้มีการดำเนิคดีกับคนเสื้อแดง 4 คนและส่งศาลตัดสินจำคุกสองปี ปรับสี่พันบาท แต่ด้วยความเป็น พลเมืองดี ศาลได้ลดโทษเหลือจำคุกหนึ่งปี รอลงอาญาและปรับหนึ่งพันบาท
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า 2 - 3 วันที่ผ่านมามีการพูดกันเยอะว่า มีแผนตากสิน เพื่อโค่นล้มรัฐบาล แม้แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ยังเอากับข่าวลือนี้ด้วย และโยงเข้ากับ นปช. ตนขอท้าทายว่าใครที่รู้ว่ามีแผนการนี้และมีหลักฐานก็ขอให้นำมาเปิดเผย อย่ากล่าวหากันแบบลอยๆ บุคคลระดับ ผบ.ทบ.ยังพูดแบบนี้น่าจะมีหลักฐานว่ามันคืออะไรและเกี่ยวข้องกับใคร ตนยืนยันว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในวงสนทนา ของแกนนำ นปช.เลย
นพ.เหวง แถลงว่า นปช.ได้บอกประชาชนทั่วประเทศให้ลุกขึ้นทวงประชาธิปไตยคืนมาจากรัฐบาลนี้ วันนี้เมล็ดพันธุ์สีแดงงอกเงยทั่วประเทศอย่างน้อย มากกว่า 40 จังหวัด กลุ่มปฏิปักษ์และอำมาตย์ที่จะทำลายคนเสื้อแดงนั้นมันคือ เรื่องเพ้อฝัน นาทีนี้เหมาะสมที่จะระดมพล ในวันที่ 26 มี.ค.เพราะมันคือการระดมกำลังคนเสื้อแดงจากกว่า 50 จังหวัด คาดว่าน่าจะมีประชาชน 2 - 3 แสนคนมาชุมนุม
นายณัฐวุฒิกล่าวเสริมว่า หากรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง นปช.ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ การชุมนุมขับไล่ที่ทำเนียบฯเป็นวิธีหนึ่งเท่านั้น และอาจมียุทธวิธี ดาวกระจายทั่วประเทศก็เป็นได้ ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้นยังไม่มีการนัดหมาย แต่ท่านมีสิทธิที่จะสื่อสารกับประชาชนได้เต็มที่
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงยังเคลื่อนไหวตลอดเวลาอยู่แล้ว และสามารถทำได้ หากอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่ถ้าผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินการ เหมือนกับที่ถูกดำเนินการจากเหตุการณ์ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา และที่มีการปาไข่และวัตถุอื่น ๆ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียหาย
ผมอยากบอกสังคมว่า การที่จะคิดอะไรกับสังคมไทยในขณะนี้และไปกระทบกระเทือนกับสถาบันหลักไม่ว่าจะเป็นประชาชน ชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เป็นสิ่งดีกับประเทศชาติ เพราะฉะนั้นเราเป็นคนไทยต้องเข้าใจและช่วยกันประคับประคอบให้บ้านเมืองให้ผ่านไปได้ ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องดำเนินการตาม อำนาจหน้าที่ของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความแตกร้าวของคนไทยได้แคบลงมาแล้วหรือยัง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ประเมินจากคนเพียงสองกลุ่มที่ขัดแย้งกัน แต่ก็ไม่ได้ผลทีเดียวนัก ต้องดูจากคนส่วนใหญ่ที่เป็นพลังเงียบ ซึ่งพลังเงียบในขณะนี้ทุกคนรู้ดีว่า ทุกคนเบื่อหน่ายสถานการณ์ที่ไม่ได้ช่วยกันฝ่าฟันเศรษฐกิจหรือจะทำให้ชีวิตดีขึ้น ประชาชนหลายส่วนค่อนข้างจะเบื่อหน่าย เมื่อเขาเบื่อหน่ายในการ ปลุกปั่นอะไรก็ไม่ได้ผลมากนัก คิดว่าถ้าคนพวกนี้ออกมาช่วยสังคมก็น่าจะดีขึ้น
ส่วนพลังเงียบน่าจะออกมาในรูปแบบใดได้บ้างนั้น พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องออกมาช่วยกันในสิ่งที่สร้างสรรค์สังคม เช่นการสมัครสมานสามัคคีไม่มีการขัดแย้งกันในลักษณะที่เกิดสิ่งดีๆ อะไรก็ได้ที่ไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือใช้อะไรที่ผิดกฎหมายมาทำให้สังคมปั่นป่วน เพราะจะมีผลกระทบต่อทางเศรษฐกิจ หรือชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนโดยตรง ดังนั้นต้องทำในสิ่งที่ดีๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังควรจะยุติบทบาทเช่นกันใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า น่าจะยุติบทบาทตั้งนานแล้วด้วยซ้ำเพราะเป็นการทำร้ายประเทศชาติและคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าใครทั้งสิ้น เมื่อเราอยู่ที่นี่แม้จะเกี่ยวข้องหรือไม่ก็จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้โดยตรง
นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. แถลงข่าวกรณีการเลื่อนวันชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยนายวีระ กล่าวว่า จากเดิมการชุมนุม ของคนเสื้อแดงที่ได้ประกาศล่วงหน้าแล้วว่าจะชุมนุมกันปลายเดือนนี้ คือ วันที่ 29 มี.ค.แต่เหตุการณ์การเมืองผันแปร นปช.จึงขอขยับการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาล เข้ามาเป็นวันที่ 26 มี.ค.โดยรวมตัวที่สนามหลวง
ทั้งนี้จุดประสงค์ของ นปช.มีเป้าหมายเดียวกับพรรคเพื่อไทยที่กำลังอภิปรายฯ แต่นปช.คือการเมืองภาคประชาชนที่จำเป็นต้องแสดงเจตจำนง หากรัฐบาลไม่ทำให้ กฎหมายเป็นกฎหมาย ไม่ปลดแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีตำแหน่งในรัฐบาล ไม่นำพันธมิตรฯ มาดำเนินคดี และไม่นำรัฐธรรมนูญ 2540 มาบังคับใช้ นปช.ก็ต้องใช้เจตจำนงของประชาชน
หวังว่าน่าจะมาร่วมชุมนุมมากเป็นพิเศษ และมั่นใจว่าน่าจะเต็มสองฝั่งถนนราชดำเนิน ทั้งนี้วันที่ 21 มี.ค.นปช.จะชุมนุมบริเวณสนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และวันที่ 22 มี.ค.ชุมนุมที่สนามกีฬา 700 ปีวันที่จ.เชียงใหม่
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า นปช.จะชุมนุมใหญ่โดยตั้งต้นที่สนามหลวงและเดินทางมายังทำเนียบฯ และจะชุมนุมต่อเนื่อง แม้การอภิปรายฯและการลงมติจะเป็นเช่นใด นปช.ไม่สนใจ เเต่การเคลื่อนไหวของ นปช.ไม่ยอมรับที่มาของรัฐบาลชุดนี้ และจะขับไล่ ตนมีคำถามไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า หลังจากนปช. ยุติการ ชุมนุมบริเวณทำเนียบฯเมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายกฯให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เวลาหนึ่งเดือนนั้นคดีความของพันธมิตรฯจะชัดเจน โดยประชาชนและนปช.น่าจะพอใจ แต่ขอถามว่า เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้น คดีความเหล่านั้นคืบหน้าเพียงใด การบังคับใช้กฎหมายมีความเท่าเทียมกันหรือไม่ หรือพูดพล่อยๆ ในแบบของความบังเอิญได้อำนาจมาจากอำมาตย์ที่นำลอยไปให้
นปช.ต้องไปทวงถามความจริงใจของนายกฯ เพราะเกือบหนึ่งเดือน ไม่มีความคืบหน้าใดๆ แต่คดีความของนปช.กลับคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่จะคาดคิดไว้ เช่น การกระทบกระทั่งของการ์ด นปช.กับทหารสองนาย เพียง 5 วันก็อนุมัติหมายจับ และดำเนินคดีทันที และวันที่ 14 มี.ค.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายฯ ลงพื้นที่จ.ปทุมธานี นปช.ก็ไปขับไล่แบบเปิดเผย โดยมีการขว้างรองเท้า ไข่ไก่และมีบุคคลลึกลับเข้ามาร่วมชุมนุมแล้วปาประทัดยักษ์ กรณีนี้มีการดำเนิคดีกับคนเสื้อแดง 4 คนและส่งศาลตัดสินจำคุกสองปี ปรับสี่พันบาท แต่ด้วยความเป็น พลเมืองดี ศาลได้ลดโทษเหลือจำคุกหนึ่งปี รอลงอาญาและปรับหนึ่งพันบาท
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า 2 - 3 วันที่ผ่านมามีการพูดกันเยอะว่า มีแผนตากสิน เพื่อโค่นล้มรัฐบาล แม้แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ยังเอากับข่าวลือนี้ด้วย และโยงเข้ากับ นปช. ตนขอท้าทายว่าใครที่รู้ว่ามีแผนการนี้และมีหลักฐานก็ขอให้นำมาเปิดเผย อย่ากล่าวหากันแบบลอยๆ บุคคลระดับ ผบ.ทบ.ยังพูดแบบนี้น่าจะมีหลักฐานว่ามันคืออะไรและเกี่ยวข้องกับใคร ตนยืนยันว่าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ในวงสนทนา ของแกนนำ นปช.เลย
นพ.เหวง แถลงว่า นปช.ได้บอกประชาชนทั่วประเทศให้ลุกขึ้นทวงประชาธิปไตยคืนมาจากรัฐบาลนี้ วันนี้เมล็ดพันธุ์สีแดงงอกเงยทั่วประเทศอย่างน้อย มากกว่า 40 จังหวัด กลุ่มปฏิปักษ์และอำมาตย์ที่จะทำลายคนเสื้อแดงนั้นมันคือ เรื่องเพ้อฝัน นาทีนี้เหมาะสมที่จะระดมพล ในวันที่ 26 มี.ค.เพราะมันคือการระดมกำลังคนเสื้อแดงจากกว่า 50 จังหวัด คาดว่าน่าจะมีประชาชน 2 - 3 แสนคนมาชุมนุม
นายณัฐวุฒิกล่าวเสริมว่า หากรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง นปช.ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ การชุมนุมขับไล่ที่ทำเนียบฯเป็นวิธีหนึ่งเท่านั้น และอาจมียุทธวิธี ดาวกระจายทั่วประเทศก็เป็นได้ ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้นยังไม่มีการนัดหมาย แต่ท่านมีสิทธิที่จะสื่อสารกับประชาชนได้เต็มที่
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากลุ่มคนเสื้อแดงยังเคลื่อนไหวตลอดเวลาอยู่แล้ว และสามารถทำได้ หากอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย แต่ถ้าผิดกฎหมายก็จะถูกดำเนินการ เหมือนกับที่ถูกดำเนินการจากเหตุการณ์ที่ จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา และที่มีการปาไข่และวัตถุอื่น ๆ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียหาย