"หมัก"อุ้ม"แม้ว" ยันไม่มีนโยบายถอนพาสปอร์ตแดง ฉุนสื่อถามเรื่องชี้แจงศาลกรณีชิมไปบ่นไป "เตช" ระบุ"แม้ว" ไม่ใช่คนธรรมดา ต้องให้นายกฯตัดสินใจจะยกเลิกหรือไม่ อ้างเป็นวาระแห่งชาติ เตรียมหารือในครม.อังคารนี้ พร้อมรับบัญชาหาก"หมัก"ไม่ยอมให้ถอน "อภิสิทธิ์"ย้ำต้องยึดระเบียบ ไม่ใช่ยึดตัวบุคคล ด้านป.ป.ช. เตรียมถกขอตัว"แม้ว"เป็นผู้ร้ายข้ามแดน มาดำเนินคดีในไทยสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 9.30 น. วานนี้ (22 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรคพลังประชาชน อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรี เพื่อบันทึกเทปชี้แจงผลการดำเนินงานของพรรคการเมืองความยาวประมาณ 20 นาที ที่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และจะออกอากาศภายในเดือนต.ค.นี้
ภายหลังการบันทึกเทป ผู้สื่อข่าวถามถึงการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ โดยนายสมัคร กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกัน ก็เลยยังไม่มีนโยบาย
เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดนายสมัคร เข้าไต่สวน ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ จากกรณี จัดรายการ ชิมไปบ่นไป ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญว่าจะไปให้ปากคำด้วยตัวเองหรือไม่ แต่นายสมัคร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยถอนหายใจ พร้อมหันมาทำตาขวางใส่กลุ่มผู้สื่อข่าว ก่อนก้าวขึ้นรถ และเดินทางออกจากที่ทำการพรรคไป
ด้านนายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ระบุ ยังไม่มีนโยบายในการถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของนายกฯ และรัฐบาล ซึ่งต้องรอให้นายกฯบัญชามายังกระทรวงการต่างประเทศ เพราะไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนต่อการยกเลิกพาสปอร์ตดังกล่าว ซึ่งต้องขึ้นกับบัญชา ของนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเพียงคนเดียว และต้องเข้าใจว่า เรื่องนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะคนที่เกี่ยวข้องเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็คงเป็นอำนาจการตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ไม่ได้เป็นคนธรรมดา
เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่ายังไม่เจอ รมว.ต่างประเทศ นายเตช กล่าวว่า หนังสือการขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกพาสปอร์ตแดงดังกล่าวเพิ่งจะส่งไปเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่างระเบียบการถอนพาสปอร์ตแดงให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในอนาคตนั้น ที่ผ่านมาได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับกฎระเบียบหนังสือเดินทางของสถานทูตอยู่ตลอด
เมื่อถามว่าในกรณีที่เป็นพาสปอร์ตแดง ถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายเตช ตอบว่า เฉพาะกรณีนี้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากตัดสินใจอย่างไรนายกฯจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจหรือไม่ นายเตช กล่าวว่า คงต้องมีการหารือกัน โดยในการประชุมครม.วันอังคารที่ 26 ส.ค. ตนจะหารือเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงได้มีโอกาสพิจารณาหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศก่อนการประชุมครม.แล้ว
นายอภสิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลควรพิจารณาตามข้อเท็จจริง ปฏิบัติตามระเบียบ โดยไม่ต้องคำนึงว่า บุคคลที่พิจารณาอยู่เป็นใคร หากระเบียบบอกชัดเจนว่า บุคคลใดขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการถือหนังสือเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องปฏิบัติให้สมอกัน คิดกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีความเห็นเรื่องนี้ให้ชัดเจน ว่าเป็นอย่างไร โดยพิจารณาว่า สถานการณ์ปัจจุบันเข้ากับเงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์นี้อย่างไร
พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึง การหนีคดีออกนอกประเทศ ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ว่า ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ยังอยู่ที่นี่ จึงขึ้นอยู่กับคนหมู่มาก หากมีเป้าหมายเพื่อประเทศ และประชาชนอย่างแท้จริง ทุกอย่างจะเรียบร้อย ขอให้ทุกคนปรับเป้าหมายให้อยู่ในที่เดียวกัน
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้เพิกถอน พาสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เป็นแบบนี้เมื่อเข้ากลุ่มกันแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องยึดกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก หากทำเกินเลยก็มีปัญหา ไม่ทำเลยก็ไม่ดี
นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ในการประชุม ป.ป.ช. สัปดาห์หน้าจะมีการหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการขอตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจาก ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานที่รับคดีต่อจาก คตส. มาดำเนินการต่อ จึงเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.โดยตรงที่จะดำเนินการเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในอนาคตคดีที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ที่กำลังจะขึ้นศาลอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการนำตัวจำเลยมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จะเหมือนกับการไต่สวนคดีที่ดินรัชดาช่วงแรก ที่มีการจำหน่ายคดีในส่วนของ พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะนำตัวจำเลยมาขึ้นศาลได้
ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการ ประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คือ อัยการสูงสุด
เมื่อเวลา 9.30 น. วานนี้ (22 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรคพลังประชาชน อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรี เพื่อบันทึกเทปชี้แจงผลการดำเนินงานของพรรคการเมืองความยาวประมาณ 20 นาที ที่ต้องเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และจะออกอากาศภายในเดือนต.ค.นี้
ภายหลังการบันทึกเทป ผู้สื่อข่าวถามถึงการยกเลิกพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ ให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ โดยนายสมัคร กล่าวว่า ยังไม่ได้พบกัน ก็เลยยังไม่มีนโยบาย
เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดนายสมัคร เข้าไต่สวน ในวันที่ 8 ก.ย.นี้ จากกรณี จัดรายการ ชิมไปบ่นไป ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญว่าจะไปให้ปากคำด้วยตัวเองหรือไม่ แต่นายสมัคร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยถอนหายใจ พร้อมหันมาทำตาขวางใส่กลุ่มผู้สื่อข่าว ก่อนก้าวขึ้นรถ และเดินทางออกจากที่ทำการพรรคไป
ด้านนายเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายสมัคร ระบุ ยังไม่มีนโยบายในการถอนพาสปอร์ตแดงของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เรื่องนี้เป็นนโยบายของนายกฯ และรัฐบาล ซึ่งต้องรอให้นายกฯบัญชามายังกระทรวงการต่างประเทศ เพราะไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนต่อการยกเลิกพาสปอร์ตดังกล่าว ซึ่งต้องขึ้นกับบัญชา ของนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเพียงคนเดียว และต้องเข้าใจว่า เรื่องนี้ถือเป็นวาระแห่งชาติ เพราะคนที่เกี่ยวข้องเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี
ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องเป็นผู้วินิจฉัย แต่ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็คงเป็นอำนาจการตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศ แต่พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกฯ ไม่ได้เป็นคนธรรมดา
เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่ายังไม่เจอ รมว.ต่างประเทศ นายเตช กล่าวว่า หนังสือการขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกพาสปอร์ตแดงดังกล่าวเพิ่งจะส่งไปเมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่วนที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ขอให้กระทรวงการต่างประเทศร่างระเบียบการถอนพาสปอร์ตแดงให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในอนาคตนั้น ที่ผ่านมาได้มีวิวัฒนาการเกี่ยวกับกฎระเบียบหนังสือเดินทางของสถานทูตอยู่ตลอด
เมื่อถามว่าในกรณีที่เป็นพาสปอร์ตแดง ถือเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายเตช ตอบว่า เฉพาะกรณีนี้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากตัดสินใจอย่างไรนายกฯจำเป็นต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจหรือไม่ นายเตช กล่าวว่า คงต้องมีการหารือกัน โดยในการประชุมครม.วันอังคารที่ 26 ส.ค. ตนจะหารือเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงได้มีโอกาสพิจารณาหนังสือของกระทรวงการต่างประเทศก่อนการประชุมครม.แล้ว
นายอภสิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลควรพิจารณาตามข้อเท็จจริง ปฏิบัติตามระเบียบ โดยไม่ต้องคำนึงว่า บุคคลที่พิจารณาอยู่เป็นใคร หากระเบียบบอกชัดเจนว่า บุคคลใดขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการถือหนังสือเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นใครจะต้องปฏิบัติให้สมอกัน คิดกระทรวงการต่างประเทศ ต้องมีความเห็นเรื่องนี้ให้ชัดเจน ว่าเป็นอย่างไร โดยพิจารณาว่า สถานการณ์ปัจจุบันเข้ากับเงื่อนไข หรือหลักเกณฑ์นี้อย่างไร
พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึง การหนีคดีออกนอกประเทศ ของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ว่า ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ ยังอยู่ที่นี่ จึงขึ้นอยู่กับคนหมู่มาก หากมีเป้าหมายเพื่อประเทศ และประชาชนอย่างแท้จริง ทุกอย่างจะเรียบร้อย ขอให้ทุกคนปรับเป้าหมายให้อยู่ในที่เดียวกัน
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้เพิกถอน พาสปอร์ตแดงของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เป็นแบบนี้เมื่อเข้ากลุ่มกันแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ต้องยึดกฎหมายบ้านเมืองเป็นหลัก หากทำเกินเลยก็มีปัญหา ไม่ทำเลยก็ไม่ดี
นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ในการประชุม ป.ป.ช. สัปดาห์หน้าจะมีการหารือเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการขอตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร มาดำเนินคดี ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจาก ป.ป.ช. เป็นหน่วยงานที่รับคดีต่อจาก คตส. มาดำเนินการต่อ จึงเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.โดยตรงที่จะดำเนินการเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในอนาคตคดีที่เกี่ยวกับอดีตนายกฯ ที่กำลังจะขึ้นศาลอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับการนำตัวจำเลยมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จะเหมือนกับการไต่สวนคดีที่ดินรัชดาช่วงแรก ที่มีการจำหน่ายคดีในส่วนของ พ.ต.ท. ทักษิณ เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะนำตัวจำเลยมาขึ้นศาลได้
ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการ ประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คือ อัยการสูงสุด