ที่มาของความล้มเหลวของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ไม่ได้หยุดอยู่แค่ตรงที่เรื่องของความขัดแย้งระหว่าง นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นปัญหาความขัดกันของคนสองคนเท่านั้น
แต่ปัญหาอยู่ที่เรื่องเงินทุนพรรค ที่ขณะนี้เพื่อไทยกลายเป็นพรรคอยู่ในฐานะยกจก เพราะขาดนายทุน ส่งผลให้การขับเคลื่อนงานทางการเมืองหยุดชะงัก
จึงมีการเรียกร้องให้ปรับโครงการสร้างของการจัดการบริหารภายในพรรคเสียใหม่ การกดดันให้ปรับโครงสร้างพรรคเพื่อไทย ให้มีการเปลี่ยนหัวหน้าและเลขาธิการพรรคใหม่ด้วยนั้น
เนื่องจากลูกพรรคเพื่อไทยต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้นักการเมืองเข้าไปมีบทบาทในการตัดสินเรื่องต่างๆ ของพรรคด้วย ไม่ใช่ให้นายทุนที่ไม่ประสีประสาการเมืองเท่าไหร่ มาเจ้ากี้เจ้าการ สั่งโน่นสั่งนี่ตามใจชอบ
ที่ผ่านมานับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาเป็นพรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย ถ้าเปรียบเป็นบริษัทก็ต้องถือว่า บริษัทนี้มีสินค้าขายดีอยู่เพียงแค่ชิ้นเดียวคือ สินค้าที่ชื่อ "ทักษิณ" แต่รูปการณ์ขณะนี้สินค้าตัวนี้ เริ่มถึงจุดเสื่อม ยอดขายเริ่มตก ดังนั้นบริษัทก็ต้องปรับกลยุทธการขายใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องคิดให้ไกลและมากกว่าที่คู่แข่งคิดกันอยู่ ที่สำคัญคือ ต้องไม่ให้พรรคยึดติดอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งเหมือนอย่างอดีตที่แล้วๆ มา
เพราะถ้าหากยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมๆแล้วละก็ ศึกภายในพรรคที่มักจะรุนแรงกว่าศึกภายนอกเสมอนั้น ก็จะยังคงวนเวียนตามมารังควาญอยู่แบบนี้อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น เห็นได้จากในอดีตนั้น อาการร้าวภายในพรรคส่งผลให้พรรคเกือบจะแตกมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว
ความนิยมของพรรคเพื่อไทยนั้นดูจะยิ่งเสื่อมหนักลงไปอีก ภายหลังจากมีกระแสข่าวจากวงในหลุดออกมาว่า แกนนำขับเคลื่อนหลักของพรรค ทั้งที่เปิดเผยหน้าและไม่เปิดเผยหน้า โดยเฉพาะเหล่าคนสนิทของพ.ต.ท.ทักษิณ นั้น เริ่มจะแตกคอกันเอง
ไฮไลต์สำคัญอย่าง นายยงยุทธ ติยะไพรัช กับนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี รอยร้าวนี้เริ่มปริออกมาให้เห็นทันที หลังพรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาชนิดที่เรียกว่าหมดรูป
ทั้งๆที่มือพระกาฬระดับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ลงมาวางหมากกระดานนี้ด้วยตัวเอง รวมทั้งความพยายามที่จะใช้กลุ่มม็อบเสื้อแดง กดดันรัฐบาลภายใต้ยุทธศาสตร์ "ย้อนศรสีเหลือง" แล้วก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไร้ผลโดยสิ้นเชิง
นายยงยุทธ เสนอให้ใช้กลุ่มม็อบเสื้อแดงเป็นทัพหลักในการเคลื่อนไหว แต่ผลที่ออกมานั้นกลับได้ผลตรงกันข้าม เพราะยิ่งเป็นการแสดงให้สาธารณะชนเห็นถึงความล้มเหลวมากยิ่งขึ้นไปอีก จนกระทั่งแนวร่วมหลายต่อหลายคน เริ่มทยอยตีจากไปทีนิดทีละหน่อย
ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้นายยงยุทธเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยควรจะต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์การบริหารพรรคใหม่ทั้งหมดชนิดยกเครื่องกันเลยทีเดียว โดยเริ่มต้นที่การเลิกยึดติด "ทักษิณ" แล้วหันมาใช้บริการมันสมองของคณะกรรมการบริหารพรรคให้มากขึ้น โดยเน้นที่การให้อำนาจกับคณะกรรมการบริหารพรรคในการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเมืองต่างๆ ไม่ใช่มีคณะกรรมการบริหารพรรคไว้เพียงเพื่อรับคำสั่งจากใครบางคนเพียงคนเดียว เหมือนอย่างที่แล้วๆ มา
แต่แนวคิดดังกล่าวของนายยงยุทธ กลับถูกคัดค้านชนิดหัวชนฝาจากนางเยาวภา ที่ยังต้องการสืบทอดอำนาจและความนิยมในตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ ต่อไป
ปัญหาของนางเยาวภาคือ จนถึงวันนี้ก็ยังหาคนของตระกูลชินวัตร ที่มีบารมีและฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่ง เพื่อปั้นเป็นทายาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เสียที
แม้ว่าจะมีชื่อของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนเล็กของพ.ต.ท.ทักษิณ โผล่มาให้หวือหวาอยู่วูบหนึ่ง แต่ก็ยังต้องอาศัยระยะเวลาอีกพักใหญ่ในการหล่อหลอม เพื่อที่จะปั้นให้เป็นดาวทางการเมือง จนเป็นที่มาของข่าวการขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน
ห้วงนี้มีกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดที่จะไปพึ่งบริการของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อมาเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของส.ส. หวังที่จะสร้างขวัญและกำลังใจเพื่อกล่อมบรรดาส.ส.ไม่ให้ชิ่งหนีทิ้งพรรคไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ของกลุ่มเพื่อนเนวิน
เป็นที่รู้กันดีในสายตาของเซียนการเมืองว่า นาทีนี้ พล.อ.ชวลิต เป็นเพียงโบราณวัตถุทางการเมืองไทย ที่หลายคนมองว่าไม่มีราคาแล้ว
เกมแย่งชิงอำนาจการบริหารภายในพรรค การเดินเกมทางการเมืองที่จำเป็นต้องใช้เงิน แต่กลับไม่มีเถ้าแก่มาควักกระเป๋าจ่ายให้เหมือนที่ผ่านมา รวมทั้งการเฟ้นหาตัวบุคคลที่จะต้องหาคนระดับเท่ากับนายอภิสิทธิ์ มาแข่งขันด้วยนั้น เหล่านี้คือเข็มทิศชี้ชะตาพรรคเพื่อไทยทิ้งสิ้น
หากพรรคเพื่อไทยยังยุติศึกภายในพรรคไม่ได้แล้วละก็ เห็นทีงานนี้คงไม่ต้องคิดที่จะไปต่อสู้กับศึกภายนอกพรรคให้เสียแรงเปล่า เพราะสภาพที่กำลังตกต่ำเกือบถึงขีดสุดอย่างทุกวันนี้ หากยังไม่ยกเครื่องกันใหม่แบบยกชุด
ให้นับถอยหลังรอวันล่มสลายกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปได้เลย