xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กจิ๋ว” เหน็บ “รบ.หน้าบูด” ไร้น้ำยา แนะตั้ง “รบ.เฉพาะกิจ” ฝ่าวิกฤตชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี
“บิ๊กจิ๋ว” เหน็บ “รัฐบาลหน้าบูด” ไร้ทางทำให้เกิดความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ก่อนสอนมวย “พรรคการเมือง” ต้องมีโปรโมชันเหมือนโทรศัพท์มือถือเพื่อให้ ปชช.เป็นผู้เลือกเพื่อฝ่าวิกฤตทางการเมือง แนะดึง “ผู้ใหญ่” จับมือกันตั้ง “รัฐบาลเฉพาะ” เชื่อช่วยฝ่าวิกฤตชาติให้พ้นภัย

วันนี้ (6 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งจากวัดศรีสุดารามว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “การเมืองกับการให้ความอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนา” ให้กับนิสิตสงฆ์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า “การมีกลุ่มคน เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์หนึ่ง มารวมอยู่บนแผ่นดินหนึ่งมีอาณาเขตชัดเจน มีการปกครองชัดเจน คำว่าชาติเกี่ยวกับ 4 เรื่อง คือ เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง และสังคม ซึ่งศาสนาก็เป็นสิ่งหนึ่งของสังคม ทั้งนี้ เศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพราะทำให้สังคมอยู่รอด แต่เศรษฐกิจจะดีหรือไม่อยู่ที่การเมือง แม้การเมืองจะเป็นเรื่องรอง แต่เป็นเรื่องนำ เพราะการาเมืองมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ความมั่นคง และสังคม ถ้าการเมืองไม่ดี ทุกอย่างก็ไม่ดี ซึ่งการเมืองที่ดีต้องเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

“วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาสังคมเกิดความแตกแยก ทุกคนกลุ้มใจหมดว่าจะทำอย่างไร ปัญหาเรื่องเดียวคือ การปกครอง หลายประเทศ เช่น ประเทศจีน ไม่ว่าจะมาจากประชาชน แต่เขาปกครองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนได้ คำว่าการปกครองถ้ามาโดยประชาชนไม่ได้ ก็ต้องทำเพื่อประชาชนให้ได้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ พ.ศ.2475 จนถึงวันนี้ เราเข้าใจผิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นตัวสร้างความเจริญในระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา มีการยึดอำนาจ และฉีกรัฐธรรมนูญ แล้วสร้างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ก็หวังว่ารัฐธรรมนูญเป็นฐานสร้างชาติบ้านเมือง จนวันนี้มีรัฐธรรมนูญมา 18 ฉบับ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในโลก ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญไม่ใช่แก้วสารพัดนึก และเป็นอย่างนี้มา 5 ปี 10 ปี เดี๋ยวก็มาอีก” พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนปกครองที่ดีทั้งนั้น แต่ทำไมประเทศเป็นเช่นนี้ ซึ่งระบบต้องมาก่อน ต้องสร้างกติกาที่ดี โดยเมื่อ 20 ปีก่อน คนในชาติเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ฝ่ายหนึ่งอยู่ป่า อีกฝ่ายหนึ่งอยู่บ้าน ใช้ปืนเป็นอาวุธ เพราะการปกครองไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้สังคมแตกแยก มาวันนี้สังคมเกิดความขัดแย้ง ใช้คมแฝก ไม่หน้าสาม แต่ไม่เป็นไรแก้ได้ เมื่อ 20 ปีก่อนให้สิทธิเสรีภาพ ทุกคนทำความเข้าใจก็วางอาวุธ

“ปัญหาอยู่ที่ความไม่เป็นธรรม การแก้ปัญหาหลัก คือ การเมืองการปกครองต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม วันนี้หน่วยงานที่แก้ไขได้มีอยู่ 3 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจแก้ไขได้เร็ว คือ 1.รัฐบาล ที่แม้พยายามแก้ แต่แก้ไม่ได้ ทุกคนต่อว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นตัวการ แต่เท่าที่รู้จักกับท่าน เห็นว่าเป็นคนตรงไปตรงมา อยากให้ทุกคนช่วยท่าน 2.สถาบันกษัตริย์ ด้วยพระบารมีพระองค์ท่าน ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยตรง พระองค์ท่านทรงทราบ และเมื่อถึงเวลาก็ลงมาทุกที แต่ทุกวันนี้เราพยายามช่วยกันแก้ก่อน ซึ่งขณะนี้สถาบันกษัตริย์ยังไม่ได้แก้ 3.ทหาร เข้ามาแก้เมื่อปี 2549 แล้วแก้ไม่ได้ เมื่อแก้ไม่ได้อยู่ที่ประชาชนว่าจะเอาแบบมัฆวาน หรือแบบใด” พล.อ.ชวลิต กล่าว

ส่วนภารกิจที่รัฐบาลจะต้องไปแก้ไขนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า นั่นก็คือ สร้างความสมานฉันท์ แต่รัฐบาลหน้าบูดๆ ไปแก้ความสมานฉันท์ไม่ได้ ควรเป็นรัฐบาลพิเศษ ซึ่งรัฐบาลมี 3 ประเภท คือ 1.รัฐบาลประจำการ หรือรัฐบาลปกติที่มีการแย่งชิงทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย 2.รัฐบาลแคร์เทคเกอร์ คือ เกิดชั่วคราวเพื่อดูแลปัญหา เพื่อให้รัฐบาลประจำการกลับมาอีก เช่น รัฐบาลขิงแก่ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลประเภทนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 3.รัฐบาลพิเศษ คือ รัฐบาลเฉพาะกาล ไม่ใช่รัฐบาลที่มาด้วยการยึดอำนาจ แต่สร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ใช้ได้เลย และรัฐบาลต้องมีรูปร่างที่จะแก้ไขปัญหา และแสดงความสมานฉันท์

“นายกฯ พยายามทำอยู่ และพยายามทำให้ถึงที่สุด เอาคนดีเข้ามา ไม่ใช่โควตา ไม่เอา บอกทุกคนว่าเราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหา ขอแค่ 2 ปี มาแก้ตรงนี้เอาคนดีเข้ามา ประชาธิปัตย์มาช่วยกันหน่อยไหม ถ้าไม่มาก็ช่วยไม่ได้ ให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มาช่วยกัน ครม.มี 36 ท่าน เอาแค่ 10 ที่ก็พอ ส่วนที่เหลือเอาคนดี และคนนอกมาช่วย เพราะกฎหมายไม่ได้บอกว่าฝ่ายค้านต้องมี 10 คน 100 คน เหมือนอย่างเช่น นายลีกวนยู ประธานาธิบดีสิงคโปร์ปกครองมากว่า 10 ปี มีฝ่ายค้านคนเดียว ขณะนี้นายกฯ พยายามแก้ด้วยการตั้งที่ปรึกษามาช่วยได้ แต่ได้ไม่สะท้อนปัญหาที่แท้จริง” พล.อ.ชวลิต กล่าว

พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า การเมืองที่ผ่านมา พรรคการเมืองเสนอนโยบายให้ประชาชนเลือก ประชาชนก็เลือก แต่ความจริงไม่มีนโยบายที่มาจากความต้องการประชาชนอย่างแท้จริง เหมือนกับบริษัทขายมือถือให้ประชาชนเป็นผู้เลือก ซึ่งเปรียบเหมือนพรรคพลังประชาชนเป็นซัมซุง พรรคประชาธิปัตย์เหมือนโนเกีย มีโปรโมชั่นให้เลือก จึงอยู่ที่ประชาชนจะต้องเลือกเองว่าจะเอาแบบไหน ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยพูดกับตน เมื่อปี 2547 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มาทานข้าวกับตนทุกเดือน และเคยบอกว่าจะเลิกเล่นการเมือง แล้วจะขายหุ้น ตนฟังแล้วตกใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นทุกอย่างจบเลย ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะขายหุ้น ตนใจหายวาบ เพราะรู้ว่าขายหุ้นไปคนจะรู้ว่ามีเงินเยอะ จะเป็นอันตราย ประชาชนอาจจะมองว่าที่ผ่านมาจะเป็นการทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้มีการทำเพื่อประชาชน ทั้งๆ ที่เงินนั้นอาจจะเป็นเงินบริสุทธิ์

“ผมบอกว่าอย่าเพิ่งขายเลย แต่พอท่านจะขายก็คิดว่าคงจะแค่ 200-300 ล้านบาท แต่นี่ขายไป 76,000 ล้านบาท พอขายแล้วผมก็นึกว่าตายแน่ เสร็จแน่ นอกจากนี้เรื่องของนายสมัคร ผมยังคิดว่าถ้าผมมีโอกาส จะบอกท่านว่าเวลาก้าวขึ้นบันไดให้ขึ้นไปเลย ไม่ต้องพูด แต่นี่ท่านก้าวไปขั้นแรกก็พูดเรื่องนอมินี แต่คนอย่างท่านเป็นคนจริงใจ ถ้าไม่จริงใจคงพูดแบบนี้ไม่ได้ ท่านเป็นคนดี แต่ใช้ความดีผิดจังหวะ ส่วนใครจะว่าอะไรก็เฉย บอกแค่ว่ารับทราบ และขอบคุณในความหวังดี จากนั้นไปพูดเรื่องผลงานดีกว่าว่า รัฐบาลทำอะไรบ้าง เพราะคนจะได้เห็นอนาคต ควรจะปิดหูซะ แล้วไปทำงานจะดีกว่า เพราะประชาชนอยากเห็นผลงานของรัฐบาลที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม” พล.อ.ชวลิต กล่าว

จากนั้น พล.อ.ชวลิต ได้ให้สัมภาษณ์กรณีเสนอรัฐบาลเฉพาะเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองว่า รัฐบาลเฉพาะการ คือ รัฐบาลที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ผู้ใหญ่ข้างบนช่วยกันจับมือกันทำงานแก้ปัญหาก็คงไม่ยาก นี่คือหลักการ บ้านเมืองกำลังต้องการตรงนี้ ไม่ใช่ต้องการการบริหารงาน หรือแนวทางที่ปกติ ตอนนี้บ้านเมืองวิกฤติ ปัญหาที่ต้องแก้ไข ขอเป็นพิเศษ อย่าไปใช้แนวคิด หรือแนวทางเก่าๆ

“ตอนนี้ทางออกของปัญหา คือ เราต้องสร้างรัฐบาลแห่งความสมานฉันท์ขึ้นมา ซึ่งวันนี้นายกฯ พยายามทำแล้ว ก็ตั้งคณะกรรมการเข้าไปทำงาน เราต้องช่วยกันก่อน ทุกคนเข้ามาตามระบอบ เราต้องใช้ระบอบของเราให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่าไปเปลี่ยน หรือใช้ระบอบพิเศษ ส่วนปัญหาทั้งหมดเกิดมาจากนายกฯ ที่อยู่ตัวคนเดียวภายในพรรคหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะท่านเป็นนายกฯ ท่านมีอำนาจที่จะทำ ซึ่งทำสำเร็จ หรือไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ทำคนเขาจะว่าเอา และท่านก็พยายามทำอยู่” พล.อ.ชวลิต ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น