เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (6ส.ค.) ที่วัดยานนาวา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธานใน พิธีบวชสีลจารี และสีลจาริณี จำนวน 158 คน เป็นชาย 79 หญิง 79 ในโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 76 โดยมีพล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นประธานจัดงาน พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวานเป็นประธาน
โอกาสนี้ นายสมัคร กล่าวสัมโมทนียคาถาว่า วันนี้มีชาย หญิง 158 คน จะทำพิธีถือศีล 8 เรียกกันว่าพิธีบวชสีลจารี สีลจาริณี ผมก็มาแสดงให้รู้ว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงอยู่กลางดวงใจ ของคนไทยทุกคน ในยามที่บ้านเมืองแตกแยก ก็ต้องพึ่งบารมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน กราบบังคมทูลว่า ต้องขอพึ่ง ขอให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มาเป็นสะพานเลย ให้มีความผูกพัน จัดงานหนึ่ง สอง สาม สี่ ให้รู้ว่าเขาแตกแยก ศาลจะพิพากษาคดี ต้องพูดก่อนพิพากษา ใครเคยได้ยิน คนไทยแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย แต่ศาลขอยืนยันว่า คำพิพากษาของศาลนั้นเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใด ศาลต้องออกตัวก่อนลองคิดดู ผมจึงนำความกราบบังคมทูลเมื่อวานนี้ ขอบารมีพระองค์ท่าน จะทำงาน 116 จากวันแม่สู่วันพ่อ มี 5 งาน เพื่อบอกว่า ต้องเลิกแบ่งแยก
ผมกราบบังคมทูลเมื่อคืน ใครจะอย่างไรต่อไป แต่ผมจะไม่เป็นคนริเริ่ม จะไม่ไปทำความรุนแรง ไม่ให้ก่อความรุนแรง และต้องการให้ดับ วันนี้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง 158 ท่านทั้งหญิงชาย จะช่วยกันทำงานถวายเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 76 พรรษา ผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อวานนี้ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินโปรดที่จะได้ให้ทำงานเพื่อจะสมัครสมานสามัคคี ที่ท่านทั้งหลายทำวันนี้ เป็นส่วนเล็กๆ ที่ผมได้กราบบังคมทูลว่าเราจะมีความสมัครสมานสามัคคี คือแตกแยกต่อไปไม่ไหวแล้ว ใครจะไปอย่างไร ผมบอกสุดแท้แต่เขา แต่ทางฝ่ายข้าพระพุทธเจ้า ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เริ่มที่จะทำให้เกิดความเสียหาย
**มาร์คซัดหมักตัวทำแตกแยก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง โครงการ 116 วัน เพื่อคนไทยสมานฉันท์ ว่าทางรัฐบาลควรชี้แจงรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร และเชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
" ขอให้ทางรัฐบาลมีรูปธรรมออกมาเลยว่า ทางรัฐบาลจะถอย หรือจะไม่ เพราะเป็นฝ่ายเริ่มต้นเงื่อนไขความขัดแย้งต่างๆ ขอให้มีความชัดเจนออกมา ซึ่งที่ผ่านมาความขัดแย้งเกิดจากเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 309 จนกระทั่งมาถึง มาตรา 63 ที่จะกำจัดสิทธิการชุมนุม ดังนั้น รัฐบาลต้องมีความชัดเจนต่อประเด็นนี้ด้วย"
**บิ๊กจิ๋วแนะตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล
เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (6ส.ค.) ที่วัดศรีสุดาราม พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง"การเมืองกับการให้ความอุปถัมท์คุ้มครองพระพุทธศาสนา" ให้กับนิสิตสงฆ์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาของชาติและทางแก้ในขณะนี้ ว่า
วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ สังคมเกิดความแตกแยก ทุกคนกลุ้มใจหมดว่า จะทำอย่างไร ปัญหาเรื่องเดียวคือ การปกครอง หลายประเทศเช่น จีน ไม่ว่าจากมาประชาชน แต่เขาปกครองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนได้ คำว่า การปกครองถ้ามาโดยประชาชนไม่ได้ ก็ต้องทำเพื่อประชาชนให้ได้
ที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนปกครองที่ดีทั้งนั้น แต่ทำไมประเทศเป็นเช่นนี้ ซึ่งระบบต้องมาก่อน กติกาต้องสร้างที่ดี เมื่อ 20 ปีก่อน คนในชาติเกิดความขัดแย้งรุนแรง ฝ่ายหนึ่งอยู่ป่า ฝ่ายหนึ่งอยู่บ้าน ใช้ปืนเป็นอาวุธ เพราะการปกครองไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้สังคมแตกแยก มาวันนี้ สังคมเกิดความขัดแย้งใช้คมแฝก ไม่หน้าสาม แต่ไม่เป็นไร แก้ได้ เมื่อ 20 ปีก่อนให้สิทธิเสรีภาพ ทุกคนทำความเข้าใจ ก็วางอาวุธ
ปัญหาอยู่ที่ความไม่เป็นธรรม การแก้ปัญหาหลักคือ การเมืองการปกครองต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม วันนี้หน่วยงานที่แก้ไขได้มีอยู่ 3 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจแก้ไขได้เร็ว คือ 1.รัฐบาล ที่แม้พยายามแก้ แต่แก้ไม่ได้ ทุกคนต่อว่านายสมัคร สุนทรเวช ว่าเป็นตัวการ แต่ที่รู้จักกับท่านเห็นว่าเป็นคนตรงไปตรงมา อยากให้ทุกคนช่วยท่าน
2.สถาบันกษัตริย์ ด้วยพระบารมีพระองค์ท่านไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยตรง พระองค์ท่านทรงทราบ และเมื่อถึงเวลาได้ลงมาทุกที แต่ทุกวันนี้เราพยายามช่วยกันแก้ก่อน ซึ่งขณะนี้สถาบันกษัตริย์ยังไม่ได้แก้
3.ทหาร เข้ามาแก้เมื่อปี 49 แล้วแก้ไม่ได้ เมื่อแก้ไม่ได้อยู่ที่ประชาชนว่า จะเอาแบบมัฆวานฯ หรือแบบใด
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าภารกิจที่รัฐบาลต้องไปแก้ คือ สร้างความสมานฉันท์ แต่รัฐบาลหน้าบูดๆไปแก้ความสมานฉันท์ไม่ได้ ควรเป็นรัฐบาลพิเศษ ซึ่งรัฐบาลมี 3 ประเภท คือ 1.รัฐบาลประจำการ คือ รัฐบาลปกติที่มีการแย่งชิง ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย 2. รัฐบาลแคร์เทคเกอร์ คือ เกิดชั่วคราวเพื่อดูแลปัญหา เพื่อให้รัฐบาลประจำการกลับมาอีก เช่นรัฐบาลขิงแก่ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลประเภทนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 3. รัฐบาลพิเศษ คือรัฐบาลเฉพาะกาลไม่ใช่รัฐบาลที่มาด้วยการยึดอำนาจ สร้างมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าใช้ได้เลย และรัฐบาลต้องมีรูปร่างที่จะแก้ไขปัญหาและแสดงความสมานฉันท์
ซึ่งนายกฯพยายามทำอยู่ และพยายามทำให้ถึงที่สุด เอาคนดีเข้ามา ไม่ใช่โควตาไม่เอา บอกทุกคนว่า เราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหา ขอแค่ 2 ปี มาแก้ตรงนี้เอาคนดีเข้ามา ประชาธิปัตย์มาช่วยกันหน่อยไหม ถ้าไม่มาก็ช่วยไม่ได้ คุณเติ้ง (นายบรรหาร ศิลปอาชา) มาช่วยกัน ครม.มี 36 ท่าน เอาแค่ 10 ที่ก็พอ ส่วนที่เหลือเอาคนดีคนนอกมาช่วย กฎหมายไม่ได้บอกว่าฝ่ายค้านต้องมี 10 คน 100 คน ลีกวนยู ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ปกครองมากว่า 10 ปี มีฝ่ายค้านคนเดียว ขณะนี้นายกรัฐมนตรี พยายามแก้ด้วยการตั้งที่ปรึกษามาช่วยได้ แต่ไม่สะท้อนปัญหาแท้จริง
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยพูดกับผม เมื่อผมออกมาจากท่านปี 2547 ท่านก็มาทานข้าวด้วยทุกเดือน ซึ่งท่านเคยบอกว่า ท่านจะเลิกเล่นการเมือง จะขายหุ้น ผมฟังแล้วตกใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างจบเลย เพราะรู้ว่าขายหุ้นไปคนจะรู้ว่าท่านมีเงินเยอะ ประชาชนอาจจะมองว่าที่ผ่านมาจะเป็นการทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้มีการทำเพื่อประชาชน ทั้งที่เงินนั้นอาจจะเป็นเงินบริสุทธิ์
ผมบอกว่าอย่าเพิ่งขายเลย แต่พอท่านจะขาย ก็คิดว่าคงจะแค่ 200-300 ล้านบาท แต่นี่ขายไป 76,000 ล้านบาท พอขายแล้ว ผมก็นึกว่าตายแน่ เสร็จแน่ นอกจากนี้เรื่องของนายสมัคร ผมยังคิดว่าถ้าผมมีโอกาสจะบอกท่านว่า เวลาก้าวขึ้นบันไดให้ขึ้นไปเลย ไม่ต้องพูด แต่นี่ท่านก้าวไปขั้นแรกก็พูดเรื่องนอมินี แต่คนอย่างท่านเป็นคนจริงใจ ถ้าไม่จริงใจคงพูดแบบนี้ไม่ได้ ท่านเป็นคนดีแต่ใช้ความดีผิดจังหวะ ส่วนใครจะว่าอะไรก็เฉย บอกแค่ว่ารับทราบ และขอบคุณในความหวังดี จากนั้นไปพูดเรื่องผลงานดีกว่า ว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง เพราะคนจะได้เห็นอนาคต ควรจะปิดหูซะ แล้วไปทำงานดีกว่า เพราะประชาชนอยากเห็นผลงานรัฐบาลที่ทำงาน เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่า
จากนั้น พล.อ ชวลิต ให้สัมภาษณ์กรณีเสนอรัฐบาลเฉพาะแก้ปัญหาบ้านเมืองว่า รัฐบาลเฉพาะกาล คือ รัฐบาลที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ผู้ใหญ่ข้างบนช่วยกันจับมือกันทำงานแก้ปัญหาก็คงไม่ยาก นี้คือหลักการ บ้านเมืองกำลังต้องการตรงนี้ ไม่ใช่ต้องการการบริหารงานหรือแนวทางที่ปกติ ตอนนี้บ้านเมืองวิกฤติปัญหาที่ต้องแก้ไข ขอเป็นพิเศษ อย่าไปใช้แนวคิดหรือแนวทางเก่าๆ
ตอนนี้ทางออกของปัญหาคือ เราต้องสร้างรัฐบาลแห่งความสมานฉันท์ขึ้นมา ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีพยายามทำแล้ว ก็ตั้งคณะกรรมการเข้าไปทำงาน เราต้องช่วยกันก่อน ทุกคนเข้ามาตามระบอบ เราต้องใช้ระบอบของเราให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่าไปเปลี่ยน หรือใช้ระบอบพิเศษ
โอกาสนี้ นายสมัคร กล่าวสัมโมทนียคาถาว่า วันนี้มีชาย หญิง 158 คน จะทำพิธีถือศีล 8 เรียกกันว่าพิธีบวชสีลจารี สีลจาริณี ผมก็มาแสดงให้รู้ว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทรงอยู่กลางดวงใจ ของคนไทยทุกคน ในยามที่บ้านเมืองแตกแยก ก็ต้องพึ่งบารมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน กราบบังคมทูลว่า ต้องขอพึ่ง ขอให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มาเป็นสะพานเลย ให้มีความผูกพัน จัดงานหนึ่ง สอง สาม สี่ ให้รู้ว่าเขาแตกแยก ศาลจะพิพากษาคดี ต้องพูดก่อนพิพากษา ใครเคยได้ยิน คนไทยแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย แต่ศาลขอยืนยันว่า คำพิพากษาของศาลนั้นเป็นกลาง ไม่เข้าข้างใด ศาลต้องออกตัวก่อนลองคิดดู ผมจึงนำความกราบบังคมทูลเมื่อวานนี้ ขอบารมีพระองค์ท่าน จะทำงาน 116 จากวันแม่สู่วันพ่อ มี 5 งาน เพื่อบอกว่า ต้องเลิกแบ่งแยก
ผมกราบบังคมทูลเมื่อคืน ใครจะอย่างไรต่อไป แต่ผมจะไม่เป็นคนริเริ่ม จะไม่ไปทำความรุนแรง ไม่ให้ก่อความรุนแรง และต้องการให้ดับ วันนี้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง 158 ท่านทั้งหญิงชาย จะช่วยกันทำงานถวายเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 76 พรรษา ผมได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เมื่อวานนี้ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินโปรดที่จะได้ให้ทำงานเพื่อจะสมัครสมานสามัคคี ที่ท่านทั้งหลายทำวันนี้ เป็นส่วนเล็กๆ ที่ผมได้กราบบังคมทูลว่าเราจะมีความสมัครสมานสามัคคี คือแตกแยกต่อไปไม่ไหวแล้ว ใครจะไปอย่างไร ผมบอกสุดแท้แต่เขา แต่ทางฝ่ายข้าพระพุทธเจ้า ฝ่ายรัฐบาลจะไม่เริ่มที่จะทำให้เกิดความเสียหาย
**มาร์คซัดหมักตัวทำแตกแยก
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง โครงการ 116 วัน เพื่อคนไทยสมานฉันท์ ว่าทางรัฐบาลควรชี้แจงรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร และเชื่อว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือกับรัฐบาล
" ขอให้ทางรัฐบาลมีรูปธรรมออกมาเลยว่า ทางรัฐบาลจะถอย หรือจะไม่ เพราะเป็นฝ่ายเริ่มต้นเงื่อนไขความขัดแย้งต่างๆ ขอให้มีความชัดเจนออกมา ซึ่งที่ผ่านมาความขัดแย้งเกิดจากเสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 309 จนกระทั่งมาถึง มาตรา 63 ที่จะกำจัดสิทธิการชุมนุม ดังนั้น รัฐบาลต้องมีความชัดเจนต่อประเด็นนี้ด้วย"
**บิ๊กจิ๋วแนะตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล
เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (6ส.ค.) ที่วัดศรีสุดาราม พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง"การเมืองกับการให้ความอุปถัมท์คุ้มครองพระพุทธศาสนา" ให้กับนิสิตสงฆ์จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาของชาติและทางแก้ในขณะนี้ ว่า
วันนี้บ้านเมืองมีปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ สังคมเกิดความแตกแยก ทุกคนกลุ้มใจหมดว่า จะทำอย่างไร ปัญหาเรื่องเดียวคือ การปกครอง หลายประเทศเช่น จีน ไม่ว่าจากมาประชาชน แต่เขาปกครองเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนได้ คำว่า การปกครองถ้ามาโดยประชาชนไม่ได้ ก็ต้องทำเพื่อประชาชนให้ได้
ที่ผ่านมาประเทศไทยมีคนปกครองที่ดีทั้งนั้น แต่ทำไมประเทศเป็นเช่นนี้ ซึ่งระบบต้องมาก่อน กติกาต้องสร้างที่ดี เมื่อ 20 ปีก่อน คนในชาติเกิดความขัดแย้งรุนแรง ฝ่ายหนึ่งอยู่ป่า ฝ่ายหนึ่งอยู่บ้าน ใช้ปืนเป็นอาวุธ เพราะการปกครองไม่เป็นธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย ทำให้สังคมแตกแยก มาวันนี้ สังคมเกิดความขัดแย้งใช้คมแฝก ไม่หน้าสาม แต่ไม่เป็นไร แก้ได้ เมื่อ 20 ปีก่อนให้สิทธิเสรีภาพ ทุกคนทำความเข้าใจ ก็วางอาวุธ
ปัญหาอยู่ที่ความไม่เป็นธรรม การแก้ปัญหาหลักคือ การเมืองการปกครองต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม วันนี้หน่วยงานที่แก้ไขได้มีอยู่ 3 หน่วย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจแก้ไขได้เร็ว คือ 1.รัฐบาล ที่แม้พยายามแก้ แต่แก้ไม่ได้ ทุกคนต่อว่านายสมัคร สุนทรเวช ว่าเป็นตัวการ แต่ที่รู้จักกับท่านเห็นว่าเป็นคนตรงไปตรงมา อยากให้ทุกคนช่วยท่าน
2.สถาบันกษัตริย์ ด้วยพระบารมีพระองค์ท่านไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยตรง พระองค์ท่านทรงทราบ และเมื่อถึงเวลาได้ลงมาทุกที แต่ทุกวันนี้เราพยายามช่วยกันแก้ก่อน ซึ่งขณะนี้สถาบันกษัตริย์ยังไม่ได้แก้
3.ทหาร เข้ามาแก้เมื่อปี 49 แล้วแก้ไม่ได้ เมื่อแก้ไม่ได้อยู่ที่ประชาชนว่า จะเอาแบบมัฆวานฯ หรือแบบใด
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่าภารกิจที่รัฐบาลต้องไปแก้ คือ สร้างความสมานฉันท์ แต่รัฐบาลหน้าบูดๆไปแก้ความสมานฉันท์ไม่ได้ ควรเป็นรัฐบาลพิเศษ ซึ่งรัฐบาลมี 3 ประเภท คือ 1.รัฐบาลประจำการ คือ รัฐบาลปกติที่มีการแย่งชิง ทำให้ประชาชนเบื่อหน่าย 2. รัฐบาลแคร์เทคเกอร์ คือ เกิดชั่วคราวเพื่อดูแลปัญหา เพื่อให้รัฐบาลประจำการกลับมาอีก เช่นรัฐบาลขิงแก่ที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลประเภทนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ 3. รัฐบาลพิเศษ คือรัฐบาลเฉพาะกาลไม่ใช่รัฐบาลที่มาด้วยการยึดอำนาจ สร้างมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าใช้ได้เลย และรัฐบาลต้องมีรูปร่างที่จะแก้ไขปัญหาและแสดงความสมานฉันท์
ซึ่งนายกฯพยายามทำอยู่ และพยายามทำให้ถึงที่สุด เอาคนดีเข้ามา ไม่ใช่โควตาไม่เอา บอกทุกคนว่า เราต้องมาช่วยกันแก้ปัญหา ขอแค่ 2 ปี มาแก้ตรงนี้เอาคนดีเข้ามา ประชาธิปัตย์มาช่วยกันหน่อยไหม ถ้าไม่มาก็ช่วยไม่ได้ คุณเติ้ง (นายบรรหาร ศิลปอาชา) มาช่วยกัน ครม.มี 36 ท่าน เอาแค่ 10 ที่ก็พอ ส่วนที่เหลือเอาคนดีคนนอกมาช่วย กฎหมายไม่ได้บอกว่าฝ่ายค้านต้องมี 10 คน 100 คน ลีกวนยู ประธานาธิบดีสิงคโปร์ ปกครองมากว่า 10 ปี มีฝ่ายค้านคนเดียว ขณะนี้นายกรัฐมนตรี พยายามแก้ด้วยการตั้งที่ปรึกษามาช่วยได้ แต่ไม่สะท้อนปัญหาแท้จริง
พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เคยพูดกับผม เมื่อผมออกมาจากท่านปี 2547 ท่านก็มาทานข้าวด้วยทุกเดือน ซึ่งท่านเคยบอกว่า ท่านจะเลิกเล่นการเมือง จะขายหุ้น ผมฟังแล้วตกใจ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ทุกอย่างจบเลย เพราะรู้ว่าขายหุ้นไปคนจะรู้ว่าท่านมีเงินเยอะ ประชาชนอาจจะมองว่าที่ผ่านมาจะเป็นการทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้มีการทำเพื่อประชาชน ทั้งที่เงินนั้นอาจจะเป็นเงินบริสุทธิ์
ผมบอกว่าอย่าเพิ่งขายเลย แต่พอท่านจะขาย ก็คิดว่าคงจะแค่ 200-300 ล้านบาท แต่นี่ขายไป 76,000 ล้านบาท พอขายแล้ว ผมก็นึกว่าตายแน่ เสร็จแน่ นอกจากนี้เรื่องของนายสมัคร ผมยังคิดว่าถ้าผมมีโอกาสจะบอกท่านว่า เวลาก้าวขึ้นบันไดให้ขึ้นไปเลย ไม่ต้องพูด แต่นี่ท่านก้าวไปขั้นแรกก็พูดเรื่องนอมินี แต่คนอย่างท่านเป็นคนจริงใจ ถ้าไม่จริงใจคงพูดแบบนี้ไม่ได้ ท่านเป็นคนดีแต่ใช้ความดีผิดจังหวะ ส่วนใครจะว่าอะไรก็เฉย บอกแค่ว่ารับทราบ และขอบคุณในความหวังดี จากนั้นไปพูดเรื่องผลงานดีกว่า ว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง เพราะคนจะได้เห็นอนาคต ควรจะปิดหูซะ แล้วไปทำงานดีกว่า เพราะประชาชนอยากเห็นผลงานรัฐบาลที่ทำงาน เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่า
จากนั้น พล.อ ชวลิต ให้สัมภาษณ์กรณีเสนอรัฐบาลเฉพาะแก้ปัญหาบ้านเมืองว่า รัฐบาลเฉพาะกาล คือ รัฐบาลที่เข้ามาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ผู้ใหญ่ข้างบนช่วยกันจับมือกันทำงานแก้ปัญหาก็คงไม่ยาก นี้คือหลักการ บ้านเมืองกำลังต้องการตรงนี้ ไม่ใช่ต้องการการบริหารงานหรือแนวทางที่ปกติ ตอนนี้บ้านเมืองวิกฤติปัญหาที่ต้องแก้ไข ขอเป็นพิเศษ อย่าไปใช้แนวคิดหรือแนวทางเก่าๆ
ตอนนี้ทางออกของปัญหาคือ เราต้องสร้างรัฐบาลแห่งความสมานฉันท์ขึ้นมา ซึ่งวันนี้นายกรัฐมนตรีพยายามทำแล้ว ก็ตั้งคณะกรรมการเข้าไปทำงาน เราต้องช่วยกันก่อน ทุกคนเข้ามาตามระบอบ เราต้องใช้ระบอบของเราให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่าไปเปลี่ยน หรือใช้ระบอบพิเศษ
