ASTV ผู้จัดการรายวัน-สถาบันอาหาร สานต่อโครงการครัวไทยสู่โลกระยะ 2 เน้นสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทย หลังต่างชาติรู้จักอาหารไทยมากขึ้น คาดใช้งบฯ 2,000ล้านบาท เบื้องต้นใช้งบกลาง 150 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นภายใน 6 เดือน เชื่อมูลค่าส่งออกอาหารไทยปี 52 ทะลุ 75,000 ล้านบาท หากเศรษฐกิจโลกโตถึง 2.2%
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการครัวไทยสู่โลกในระยะที่ 2 ว่า จากเดิมที่ผ่านมาทางสถาบันฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการครัวไทยสู่โลกในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2547-551 โดยเน้นการทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยในต่างแดน 20,000 ร้าน ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งได้เร่งผลักดันจำนวนร้านอาหารไทยไปแล้วประมาณ 13,000 ร้าน
ทั้งนี้การดำเนินงานในโครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 ทางสถาบันอาหารจะเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทย : Thailand Food Forward ภายใต้แนวทางการดำเนินงานดังนี้ คือ 1.การสร้างการรับรู้ ยกระดับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์อาหารไทยโดยเน้นความปลอดภัย และคุณภาพมาตรฐานการผลิต 2.สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต และ3.สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับอุตสาหกรรมอาหารโลก
“สำหรับกิจกรรมที่ทางสถาบันอาหารจะเน้นสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยนั้น ประกอบด้วย โครงการ Eat Safe ที่เป็นการตอกย้ำคุณภาพอาหารไทยที่มีมาตรฐานทัดเทียมระดับสากล , โครงการสร้างสัญลักษณ์และเครื่องหมายคุณภาพ AQP : Assure Quality Product พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายในระดับพรีเมียม และโครงการพัฒนาตลาดเสมือนจริงผ่าน www.foodfromthailand.com เป็นต้น” ผอ.สถาบันอาหารกล่าว
ทั้งนี้โครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 สามารถดำเนินโครงการได้ทันที คาดว่าจะใช้ประมาณรวม 2,000 ล้านบาท ดำเนินการ และจะเห็นผลภายใน 1 ปี เน้นด้านผู้ผลิต ซึ่งในช่วง 6 เดือนนับจากนี้จะใช้งบกลางที่ได้รับจัดสรร 150 ล้านบาท ยกขีดความสามารถในการผลิตอาหารให้ตรงตามเป้าหมาย 250 แห่ง มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล มีความปลอดภัยที่ทั่วโลกมั่นใจได้
ส่วนโครงการเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศทางสถาบันฯ จะดำเนินงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยให้ได้ 500 แห่ง/ปี คาดจะช่วยเพิ่มมูลค่าอาหารไทยได้ไม่ต่ำกว่า 10% และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่การคาดการณ์มูลค่าการส่งออกอาหารไทยในปี 52 จะอยู่ที่ 76,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิม 79,000 ล้านบาท ในกรณีที่เศรษฐกิจโลกโต 2.2% แต่หากภาวะเศรษฐกิจโลกโตไม่ตามเป้ามูลค่าการส่งออกของไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการครัวไทยสู่โลกในระยะที่ 2 ว่า จากเดิมที่ผ่านมาทางสถาบันฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการครัวไทยสู่โลกในระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2547-551 โดยเน้นการทำให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ รวมถึงการเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยในต่างแดน 20,000 ร้าน ภายในเวลา 5 ปี ซึ่งได้เร่งผลักดันจำนวนร้านอาหารไทยไปแล้วประมาณ 13,000 ร้าน
ทั้งนี้การดำเนินงานในโครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 ทางสถาบันอาหารจะเน้นไปที่การสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทย : Thailand Food Forward ภายใต้แนวทางการดำเนินงานดังนี้ คือ 1.การสร้างการรับรู้ ยกระดับภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์อาหารไทยโดยเน้นความปลอดภัย และคุณภาพมาตรฐานการผลิต 2.สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอาหารตลอดห่วงโซ่การผลิต และ3.สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับอุตสาหกรรมอาหารโลก
“สำหรับกิจกรรมที่ทางสถาบันอาหารจะเน้นสร้างความเชื่อมั่นอาหารไทยนั้น ประกอบด้วย โครงการ Eat Safe ที่เป็นการตอกย้ำคุณภาพอาหารไทยที่มีมาตรฐานทัดเทียมระดับสากล , โครงการสร้างสัญลักษณ์และเครื่องหมายคุณภาพ AQP : Assure Quality Product พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายในระดับพรีเมียม และโครงการพัฒนาตลาดเสมือนจริงผ่าน www.foodfromthailand.com เป็นต้น” ผอ.สถาบันอาหารกล่าว
ทั้งนี้โครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 สามารถดำเนินโครงการได้ทันที คาดว่าจะใช้ประมาณรวม 2,000 ล้านบาท ดำเนินการ และจะเห็นผลภายใน 1 ปี เน้นด้านผู้ผลิต ซึ่งในช่วง 6 เดือนนับจากนี้จะใช้งบกลางที่ได้รับจัดสรร 150 ล้านบาท ยกขีดความสามารถในการผลิตอาหารให้ตรงตามเป้าหมาย 250 แห่ง มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล มีความปลอดภัยที่ทั่วโลกมั่นใจได้
ส่วนโครงการเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศทางสถาบันฯ จะดำเนินงานร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านอาหารไทยให้ได้ 500 แห่ง/ปี คาดจะช่วยเพิ่มมูลค่าอาหารไทยได้ไม่ต่ำกว่า 10% และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่การคาดการณ์มูลค่าการส่งออกอาหารไทยในปี 52 จะอยู่ที่ 76,000 ล้านบาท ลดลงจากเดิม 79,000 ล้านบาท ในกรณีที่เศรษฐกิจโลกโต 2.2% แต่หากภาวะเศรษฐกิจโลกโตไม่ตามเป้ามูลค่าการส่งออกของไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 14,000 ล้านบาท