นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า หลังจากการดำเนินโครงการครัวไทยสู่โลก ระยะที่ 1 ตั้งแต่ปี 2547-2551 สร้างความรู้จักอาหารไทยหรือ Thai Kitchen to the world ไปสู่ตลาดโลกมากขึ้นและจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กระจายไปทั่วโลก สถาบันอาหารเห็นว่ามีความจำเป็นที่ทุกประเทศต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนของสถาบันอาหารจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทั่วโลกว่า อาหารไทยปลอดภัยทั่วโลก ดังนั้น โครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 จึงอยู่ภายใต้แนวคิด "เชื่อมั่นอาหารไทย" หรือ Thailand Food Forward โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ดำเนินการ และจะเห็นผลภายใน 1 ปี เน้นด้านผู้ผลิต ซึ่งช่วง 6 เดือนนับจากนี้ จะใช้งบกลางที่ได้รับจัดสรร 150 ล้านบาท ยกขีดความสามารถในการผลิตอาหารให้ตรงตามเป้าหมาย 250 แห่ง มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล มีความปลอดภัยที่ทั่วโลกมั่นใจได้
นอกจากนี้ จะดำเนินการต่อเนื่องจากครัวไทยระยะที่ 1 โดยผลักดันให้เกิดร้านอาหาร หรือภัตตาคารไทยในต่างประเทศ 20,000 ร้าน และขยายเครื่องหมายไทยซีเล็กให้ร้านอาหารไทยทั่วโลก รวมทั้งสร้างและรักษาภาพลักษณ์ร้านอาหารไทย เน้นให้ความรู้ผู้บริโภคในเรื่ององค์ความรู้ วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวข้องกับการประกอบอาหารไทยและบริโภคอาหารไทย
สำหรับงบประมาณโครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 นั้น ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า จำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มอีก 1,850 ล้านบาท ดังนั้น สถาบันอาหารจะหารือกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอบรรจุไว้ในงบปี 2553 ส่วนกิจกรรมที่จะดำเนินการ ได้แก่ โครงการ Eat Safe ตอกย้ำความชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์อาหารไทยปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยจะโรดโชว์และการสร้างสัญลักษณ์ เครื่องหมายคุณภาพ AQP พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายระดับพรีเมี่ยม โครงการพัฒนาตลาดเสมือนจริงผ่านเว็บไซต์ www.foodfromthailand.com
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนของสถาบันอาหารจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคทั่วโลกว่า อาหารไทยปลอดภัยทั่วโลก ดังนั้น โครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 จึงอยู่ภายใต้แนวคิด "เชื่อมั่นอาหารไทย" หรือ Thailand Food Forward โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 2,000 ล้านบาท ดำเนินการ และจะเห็นผลภายใน 1 ปี เน้นด้านผู้ผลิต ซึ่งช่วง 6 เดือนนับจากนี้ จะใช้งบกลางที่ได้รับจัดสรร 150 ล้านบาท ยกขีดความสามารถในการผลิตอาหารให้ตรงตามเป้าหมาย 250 แห่ง มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล มีความปลอดภัยที่ทั่วโลกมั่นใจได้
นอกจากนี้ จะดำเนินการต่อเนื่องจากครัวไทยระยะที่ 1 โดยผลักดันให้เกิดร้านอาหาร หรือภัตตาคารไทยในต่างประเทศ 20,000 ร้าน และขยายเครื่องหมายไทยซีเล็กให้ร้านอาหารไทยทั่วโลก รวมทั้งสร้างและรักษาภาพลักษณ์ร้านอาหารไทย เน้นให้ความรู้ผู้บริโภคในเรื่ององค์ความรู้ วัฒนธรรมความเชื่อเกี่ยวข้องกับการประกอบอาหารไทยและบริโภคอาหารไทย
สำหรับงบประมาณโครงการครัวไทยสู่โลกระยะที่ 2 นั้น ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า จำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มอีก 1,850 ล้านบาท ดังนั้น สถาบันอาหารจะหารือกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอบรรจุไว้ในงบปี 2553 ส่วนกิจกรรมที่จะดำเนินการ ได้แก่ โครงการ Eat Safe ตอกย้ำความชัดเจนว่า ผลิตภัณฑ์อาหารไทยปลอดภัยและมีคุณภาพ โดยจะโรดโชว์และการสร้างสัญลักษณ์ เครื่องหมายคุณภาพ AQP พัฒนาช่องทางจัดจำหน่ายระดับพรีเมี่ยม โครงการพัฒนาตลาดเสมือนจริงผ่านเว็บไซต์ www.foodfromthailand.com
