xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมตำรวจจัดฉากสัมนาหวังล่าชื่อถอดถอน9ป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจ 7 ตุลาเลือดดิ้นอีกเฮือกหนีคุก ล่าสุดสั่งล่ารายชื่อลูกน้องในสังกัด พร้อมจับมือนายกสมาคมตำรวจ จัดสัมนาวิชาการเรื่อง “องค์กรตามรัฐธรรมนูญกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ” 19 ม.ค.นี้ งานนี้หวังจัดฉากตั้งโต๊ะล่ารายชื่อยื่นถอดถอน 9 ป.ป.ช.ด้านโฆษก ตร.ทำไขสือ ระบุจัดสัมนาเป็นเรื่องดีช่วยให้ความรู้ความเข้าใจตำรวจ ปัดไม่กดดันรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ตำรวจใช้อาวุธและแก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเดินทางไปปิดล้อมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 เพื่อไม่ให้รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แถลงนโยบาย จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านพ้นไป คณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้สรุปผลการสอบสวน และส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในการสั่งการสลายการชุมนุมดังกล่าว โดยมีทั้งนักการเมือง และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องหลายนายเข้าข่ายมีความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติและ/หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 295, 297, 288, 289, 83 อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. ฯลฯ
ทั้งนี้ หาก ป.ป.ช.ดำเนินการสอบสวน และชี้มูลความผิดกับนักการเมืองและนายตำรวจทั้งหมดแล้ว จะส่งผลให้นายตำรวจทั้งหมดต้องถูกให้ออกจากราชการ จึงทำให้มีนายตำรวจบางนาย พยายามหาช่องทางให้พ้นผิดจากกรณีดังกล่าว
ในส่วนของ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ได้ทำหนังสือไม่ระบุวันที่ เดือนมกราคม 2552 ถึง นายกสมาคมตำรวจ (พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์) เรื่องขอล่ารายชื่อนายตำรวจ เพื่อยื่นถอดถอนให้กรรมการ ป.ป.ช.พ้นจากตำแหน่ง
รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ได้เรียกนายตำรวจระดับสูงในสังกัดประชุมในทางลับเพื่อให้ประสานงานกับหน่วยงานอื่น ล่ารายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยให้ได้จำนวนมากที่สุด เพื่อยื่นถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ซึ่งกำลังสอบสวนคดีตำรวจฆ่าประชาชนกรณี 7 ตุลาคม 2551 โดยกำชับผู้บังคับบัญชาแต่ละกองบังคับการ รวบรวมรายชื่อโดยตั้งเป้าหมายให้ได้กองบังคับการละ 1,000 คน พร้อมแนบสำเนาบัตรข้าราชการให้ถูกต้อง
คำสั่งดังกล่าวขอให้เป็นไปในทางลับ และ ให้นายตำรวจนำส่งรายชื่อพร้อมเอกสารดังกล่าวภายในวันศุกร์นี้ (16 ม.ค.51)ซึ่งในทางอีกทางหนึ่ง พล.ต.ท.สุชาติ และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ได้ประสานกับพล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ เพื่อจัดสัมมานาวิชาการ เรื่อง “องค์กรตามรัฐธรรมนูญกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ”ในวันที่ 19 มกราคม นี้เวลา 9 นาฬิกา เพื่อจัดฉากตั้งโต๊ะล่ารายชื่อให้ดูเหมือนตำรวจจำนวนมากที่มาร่วมงานเห็นด้วยกับการยื่นถอดถอน
รายงานข่าวแจ้งว่า หากแผนการทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายก็คาดว่า จะยื่นรายชื่อถอดถอน ป.ป.ช.ได้ในเร็วๆนี้ เพื่อชิงจังหวะสกัดเกมการสอบสวนของ ป.ป.ช.ต่อกรณีดังกล่าว

โฆษก ตร.ไขสือสัมนาเป็นเรื่องดี

วันเดียวกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงาน กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจได้จัดสัมมานาวิชาการ เรื่อง “องค์กรตามรัฐธรรมนูญกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ”ในวันที่ 19 มกราคม ว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหนังสือเวียนให้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งหากใครว่างก็เข้าไปร่วมสัมมนาได้ การจัดสัมมนาเป็นเรื่องที่ดีเป็นการร่วมแสดงความคิดเห็น ให้ความรู้ความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้มีความเข้าใจที่มากขึ้นและตรงกันเป็นประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า องค์กรตามรัฐธรรมนูญเข้ามาตรวจสอบตำรวจทำให้การทำงานของตำรวจบางครั้งตกเป็นจำเลยของสังคม พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ไม่ได้มองแบบนั้น องค์กรที่มาตรวจสอบเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ แต่ละองค์กรก็มีหน้าที่ของตัวเอง หลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบการทำงานของตำรวจ สำนักงานตำรวจก็ดีใจ เพราะจะทำให้มีการปรับปรุงการทำงาน ทำงานอย่างโปร่งใส แต่อย่างเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ตกเป็นจำเลยของสังคมนั้น ต้องเข้าใจว่า งานตำรวจต้องทำอย่างรวดเร็วต้องทำให้ทันกับเหตุการณ์ใครไม่อยู่ตรงนั้นไม่เข้าใจ เหตุการณ์แต่ละเหตุการณ์แตกต่างกันก็ต้องปรับการทำงานตามสถานการณ์ ซึ่งการตรวจสอบมีหลายขั้นตอนไม่ได้ชี้ผิดชี้ถูกได้เลยสุดท้ายแล้วศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็สามารถชี้แจงได้ หากผิดจริงก็จะเข้าไปสู่กระบวนการสุดท้ายจบที่ศาลยุติธรรม ตำรวจไม่ได้หวั่นเกรงเชื่อมั่นว่าทำตามหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้เป็นการกดดันรัฐบาลเรื่องการทำหน้าที่ของตำรวจในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 7 ตุลาคมหรือไม่ โฆษก ตร.กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เป็นเรื่องการสัมมนาให้ความรู้ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
กำลังโหลดความคิดเห็น