ศูนย์ข่าวภูเก็ต -แกนนำพันธมิตรฯเปิดเวทีการเมืองใหม่ที่ภูเก็ต ท่ามกลางพี่น้องพันธมิตรฯร่วมอย่างล้นหลาม ชี้การเมืองเก่ามีแต่ทำลายประเทศชาติ การเมืองใหม่เท่านั้นที่จะแก้ปัญหาการโกงกินของนักการเมืองได้ และให้เวลารัฐบาลภายใต้การนำของปชป.ทำงานพิสูจน์ตัวเอง ประกาศลั่นหากทำไม่ดีปล่อยให้กลุ่มการเมืองเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ ลุกฮือไล่ทันที ขณะที่สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ประกาศลั่นยกมือสวนมติพรรคโครงการรถเมล์ 4 พันคน คิงเพาเวอร์ และสร้างรัฐสภาใหม่
เมื่อคืนวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนำโดยนางพยอม โจถาวร เอียมทอง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภูเก็ต ได้จัดงานพบปะสังสรรค์และให้ความรู้การเมืองใหม่แก่พี่น้องพันธมิตรฯ “ประชาภิวัฒน์ การเมืองใหม่ สังสรรค์พันธมิตร ติดอาวุธทางปัญญา” ที่ บ้านเลขที่ 65/64 หมู่ที่ 5 ต.เทพกระษัตรีย์ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯทั้งจากจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียง ทั้ง พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี มาร่วมเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ในงาน มีแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาเปิดเวทีให้ความรู้การเมืองใหม่ ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายประพันธ์ คูณมี นายอมร อมรรัตนานนท์ นายพิชิต ชัยมงคล และศิลปิน หรั่ง ร็อคเคสตร้า ศิลปินวงซูซู ศิลปิน แสงธรรมดา เป็นต้น
บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคัก พี่น้องพันธมิตรฯเริ่มทยอยเข้ามาร่วมงานตั้งแต่เวลา 17.00 น. จนถึงช่วงที่แกนนำพันธมิตรฯขึ้นเวทีให้ความรู้พี่น้องพันธมิตรฯ ได้หลั่งไหลเข้ามาจนเก้าอี้ที่ผู้จัดงานเตรียมเอาไว้ไม่เพียงพอต้องยืนฟังการปราศรัยของแกนนำตั้งแต่เริ่มต้นจนจบในเวลาหลังตีหนึ่งไปแล้ว ขณะเดียวกันผู้จัดงานได้เตรียมทั้งอาหารคาว หวาน และเครื่องดื่มไว้บริการพี่น้องพันธมิตรฯอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ เริ่มเปิดเวทีด้วยการขึ้นร้องเพลงปลุกจิตสำนึก ในการรักและปกป้องประเทศชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ ของศิลปิน หรั่ง ร็อคเคสตร้า หลังจากนั้นแกนนำได้สลับขึ้นเวทีปราศรัย รวมทั้งการแสดงดนตรีจากศิลปินต่างๆ
สำหรับการปราศรัยของแกนนำในครั้งนี้ ได้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเมืองไทยที่ผ่านมา และผลเสียของการเมืองเก่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการเมืองใหม่จะเป็นการแก้ปัญหาได้ทุกอย่างทั้งการทุจริตและการแก้ปัญหาของชาติ รวมทั้งขอบคุณพี่น้องพันธมิตรฯภูเก็ตและภาคใต้ที่ร่วมกันต่อสู้จนได้รับชัยชนะ
นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังมีการดูแลผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต โดยผู้ที่เสียชีวิตจะจ่ายค่าชดเชยให้รายละ 1 ล้านบาท และบาดเจ็บที่สูญเสียอวัยวะจ่ายค่าชดเชยให้รายละ 8 แสนถึง 1 ล้านบาท เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเป็นรัฐบาลก็ได้เข้าไปหารือ เพื่อที่จะให้รัฐบาลรับภาระในจุดนี้ ซึ่งตนต้องหาเอกสารหลักฐานต่างๆไปยื่นกับรัฐบาล ในการที่จะให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยส่วนนี้ให้ผู้ที่บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิต
นอกจากนี้ยังมีคดีความต่างๆ ที่ต้องขึ้นศาลอีกจำนวนมาก เฉพาะคดีที่บุกยึดสถานีโทรทัศน์ NBT จำนวน 80 คดี มากกว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต้องการการดูแลทางด้านจิตใจได้มีการตั้งทีมขึ้นมาดูแลแล้ว รวมทั้งคนที่ขาดงานจนตกงานก็มีการหางานให้ทำด้วย
ทั้งหมด ตนได้เสนอรัฐบาลผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว ซึ่งปัญหาที่เกิดจากการเมืองที่ล้มเหลวได้ส่งผลกระทบต่อทุกคนและทุกฝ่าย ก่อให้เกิดการบาดเจ็บที่อุดรธานี มหาสารคาม เชียงใหม่ มือลึกลับยิงเอ็ม 79 จากการเมืองล้มเหลวที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2479 มีคนตายมากกว่าการชุมนุม 193 วันของพันธมิตรฯ ตรงนี้ตนอยากจะท้าให้รัฐบาลทำการสอบสวนว่าใครเป็นมือสังหารประชาชน
เรียกร้องให้ปชป.ทำการเมืองใหม่
นายพิภพ ยังกล่าวถึงการเมืองใหม่ ว่า การต่อสู้ของพันธมิตรฯจนล้มทักษิณได้ และไม่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญแม้แต่มาตราเดียวที่จะเอื้อประโยชน์ต่อทักษิณและพวกพ้อง ซึ่งตรงนี้เราต้องภูมิใจว่ารัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาฯแต่ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ จากเสียงของพี่น้องประชาชนและรัฐบาลเองก็ต้องออกไป เพราะทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ตอนนี้บริวารของทักษิณออกมาเคลื่อนไหว เพราะทักษิณต้องการที่จะกลับมามีอำนาจอีกครั้ง
ตอนนี้ทักษิณรอให้ประเทศไทยอ่อนแอและวุ่นวาย คิดว่าประชาชนรู้ว่าทักษิณรออะไรอยู่ ทักษิณเป็นคนบ้าอำนาจไม่คิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งการเมืองใหม่เท่านั้นที่จะจัดการกับระบอบทักษิณได้ ระบอบการเมืองเก่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย มีการคอร์รัปชัน โกงเลือกตั้ง เกาะกลุ่มหากินทางการเมือง ที่ผ่านมาเราไม่สามารถปฏิรูปการเมืองได้เลยอยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น แถมยังหนุนให้ทุนต่างชาติเข้ามาทำลายโชวห่วยของเราอีก นี่คือการเมืองเก่าที่ชั่วร้ายและเอารัดเอาเปรียบ
“การเมืองใหม่ไม่ได้ปฏิเสธทุน และโลกาภิวัตน์ แต่ต้องการทุนที่สะอาดไม่เอารัดเอาเปรียบประชาชน เป็นทุนที่ก้าวหน้า แต่ขณะนี้เราทำอะไรไม่ได้เลยเพราะมีการเมืองเก่าที่ทุจริตอยู่”
นายพิภพ ยังกล่าวถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า การต่อสู้ของพันธมิตรฯไม่ได้ต้องการที่จะเปลี่ยนขั้วทางการเมืองเท่านั้น คนใต้รักพรรคประชาธิปัตย์แต่ไม่อยากให้ประชาธิปัตย์เป็นการเมืองเก่า อยากให้ประชาธิปัตย์และ นายกฯ อภิสิทธิ์ ทำการเมืองใหม่ให้ได้ โดยไม่ให้มีรัฐมนตรีและส.ส.ที่หากินทางการเมือง ซึ่งเราให้โอกาสนายกฯ อภิสิทธิ์ และ นาย ชวน หลีกภัย ทำการเมืองใหม่ในหลายมิติ ประชาชนต้องมีส่วนในการกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลทำการเมืองใหม่ เพราะเป้าหมายของพันธมิตรฯไม่ต้องการเปลี่ยนขั้วการเมืองแต่ต้องการให้เกิดการเมืองใหม่ ซึ่งคงต้องให้เวลาประชาธิปัตย์ได้ทำงานสัก 3 เดือนจากนี้
ปชป.ทำไม่ดีพันธมิตรฯไล่ทันที
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การชุมนุมขับไล่ “ทักษิณ” เริ่มจากภาคใต้ และไม่มีใครที่สามารถขับไล่นายกรัฐมนตรีได้ 3 คนรวด ตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร มาถึงสมัคร สุนทรเวช และสุดท้ายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งการต่อต้านระบอบทักษิณ เริ่มมาตั้งแต่การยุบสภาหลังจากมีการสั่งยุบพรรคไทยรักไทย หลังจากนั้นได้มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้น จนกระทั่งได้นายสมัครมาเป็นนายก ซึ่งกับนายสมัครนั้นตนรบกันมาตั้งแต่ 6 ตุลาคม 2516
เมื่อสมัครหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มาเป็นมะเร็ง ต่อมา สมชาย ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน ซึ่ง สมชาย เป็นคนที่ทำให้เสียชื่อเสียงคนภาคใต้ เราจึงต้องไล่เพื่อรักษาชื่อเสียงของคนใต้ พันธมิตรฯสามารถไล่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งได้ 3 คน และมีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งคดีที่ศาลพิพากษาแล้วแพ้ทุกคดี และการเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯที่ผ่านมาเรามีจุดยืนที่ชัดเจนทำเพื่อปกป้องประเทศชาติไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เราไม่ต้องการรบกับใครแต่เราต้องการสร้างมาตรฐาน
การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ก็เนื่องมาจากการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไม่ใช่เพราะนายเนวิน เป็นพระเอก ถ้าไม่มีเราประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล สิ่งที่เราทำก็ต้องให้โอกาสพรรคประชาธิปัตย์ในการทำงาน แต่หากทำไม่ดีเราก็พร้อมที่จะไล่รัฐบาล ปชป.ทันที
อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบตัวบุคคลระหว่างนายสมัคร นายสมชาย และนายกฯ อภิสิทธิ์ แล้วจะเห็นว่าตอนนี้นายกฯ อภิสิทธิ์ยังดูดีกว่า 2 คนนั้นมาก ยังไม่เคยทำอะไรให้เสียหายแก่ประเทศ แต่ถ้าเมื่อไหร่รัฐบาลชุดใหม่ทำตัวมีปัญหาเราก็จะค่อยๆย่องออกมาเคลื่อนไหว อาจจะมาเยี่ยมหน้าทำเนียบฯ หรือที่อื่นๆ ซึ่งพันธมิตรฯจะต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลาเมื่อมีการเป่านกหวีดก็ให้ออกมาทันที แต่ตอนนี้เป็นการออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเมืองใหม่
ต่อไปนี้ทุกที่ก็จะมีการให้ความรู้กันเรื่องการเมืองไม่ว่าจะเป็นงานศพ งานบวช หรือแม้แต่งานสังสรรค์ และต่อไปจะต้องรวมตัวกันเพื่อทำให้เกิดการเมืองใหม่ การเมืองที่ปราศจากการโกง ถ้าไม่มีการโกงเชื่อว่าภายใน 3 ปีคนในประเทศไทยรวยหมด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน ยางพารา ถ้ามีการส่งเสริมกันจริงเชื่อว่าเราจะดีขึ้นแน่นอน ทรัพยากรธรรมชาติมีเหลือเฟือเป็นประเทศที่ผลิตอาหารได้เป็นอันดับ 6 ของโลก ถ้าทำได้จะทำให้ความแตกต่างของคนภายในประเทศลดลง
สำหรับเป้าหมายการเมืองใหม่ จะต้องทำต่อไปและเกาะกลุ่มกันให้เหนียวแน่น ตอนนี้ให้รัฐบาลทำงานไปก่อนแต่อยู่ภายใต้การตรวจสอบ และเรายื่นข้อเสนอให้จัดการกับคนที่ทำผิด จาบจ้วงสถาบัน เอา ปตท.กลับมา และลงโทษตำรวจที่เข่นฆ่าประชาชน ถ้าไม่ทำอะไรเราก็จะชุมนุมอีก การเมืองใหม่เราจะต้องตรวจสอบนักการเมือง การเมืองเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ ถ้านักการเมืองไม่ฉ้อเศรษฐกิจก็จะดี เมื่อเศรษฐกิจดีสังคมก็จะดี ความสมานฉันท์ก็จะเกิด
นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า จากการติดตามข่าวทราบว่าอธิบดีกรมที่ดินจะเพิกถอนที่ดินของบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม เป็นของ รองนายกรัฐมนตรีคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ขอชมเชยความกล้าหาญ แต่อยากให้ อธิบดีกรมที่ดินจะต้องเพิกถอนที่ดินที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายชัย ชิดชอบ ด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าต่อไปว่า ทักษิณรอเวลาที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ทักษิณไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับมายิ่งใหญ่ถ้าเรายังมีชีวิต มาได้แต่จะต้องมาติดคุก ซึ่งสิ่งที่จะต้องระวังตอนนี้คือระวัง “เนวิน”จะเข้ามาแทนที่ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องไม่ไปสยบให้เขา คุณจะต้องฟังประชาชน ประชาชนจะต้องเป็นใหญ่ ตอนนี้ทักษิณยังมีการเคลื่อนไหว หุ่นเชิดต่างๆยังคงเคลื่อนไหวทุกวัน
นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีพบระเบิดในทำเนียบฯ ว่า ลูกระเบิดถูกน้ำมันไม่ระเบิดแล้ว มันจบแล้ว ไม่ว่าประทัด ระเบิดถูกน้ำมันระเบิดไม่ได้ ลูกนี้มันพิเศษ จมน้ำครำยังระเบิดขึ้นมาอีก ทำไมทำอะไรกันเหลือเกินยังตามกล่าวหาเราไม่รู้จักจบสิ้น ตอนนี้ฟ้องเรียกค่าเสียหายอีกอีก 19 ล้าน 19 ล้าน กับ 2 หมื่นล้าน ห่างกันเยอะ เจอมา 2 หมื่นล้านยังเฉยๆ เลย เจอ 19 ล้าน นี่ไม่รู้เรื่องเลย
ยกมือสวนมติพรรคหากดันรถเมล์4พันคัน
ด้านนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ตนอยากถามพี่น้องพันธมิตรฯที่ภูเก็ตว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี มาจากใคร มาจากนายเนวินหรือ ถ้าพี่น้องพันธมิตรฯไม่ร่วมกันขับไล่ทั้งทักษิณ สมัคร และสมชาย ไม่รู้ว่าสักกี่ชาติพรรคประชาธิปัตย์ถึงจะได้เป็นรัฐบาล และอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในวันที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์พูดถึงพี่น้องพันธมิตรฯสักคำมั้ย และการดึงกลุ่มเนวินเข้ามาร่วมรัฐบาล พี่น้องคิดว่า อภิสิทธิ์จะกล้าขัดโครงการต่างๆที่กลุ่มเนวินเสนอหรือไม่
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตนจะเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่หากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์เดินหน้าโครงการรถเมล์ 4,000 คัน เดินหน้าสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ เดินหน้าโครงการร้านคิงเพาเวอร์ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งทันทีที่รัฐบาลชุดนี้ประกาศเดินหน้าโครงการทั้งหมด เราไม่ควรที่จะเอารัฐบาลชุดนี้ไว้ และตนในฐานะ ส.ส.หากมีการนำเรื่องทั้งหมดนี้ขอความเห็นชอบจากสภาฯ และบังคับให้ตนยกมือสนับสนุน ตนก็จะยกมือไม่ไว้วางใจสวนมติของพรรคทันที ไม่ว่าจะได้ลงสมัครในนามของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
ทั้งนี้ เพราะตนไม่ได้เห็นแก่ผลประโยชน์ของบุคคลหรือของพรรคเหนือกว่าผลประโยชน์ของชาติเด็ดขาด เพราะโครงการทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่ทำในสมัยรัฐบาลที่ผ่านๆมา และรู้กันอยู่ว่าเป็นอย่างไร เป็นโครงการที่เราไม่เห็นด้วยในรัฐบาลที่ผ่านมาๆ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเราจะสนับสนุนได้อย่างไร ในเมื่อยังเป็นโครงการเก่าที่นักการเมืองหาผลประโยชน์อยู่
คนใต้ตบหน้าไทยรักไทยไม่เลือก
นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคมหาชน ไม่ส่งผู้ลงสมัครส.ส.มีเพียงพรรคไทยรักไทยเท่านั้นที่ส่งผู้สมัครในภาคใต้และเพชรบุรี 15 จังหวัด ปรากฏ ว่ามีเพียงภาคเดียวเท่านั้นที่เลือกพรรคไทยรักไทยไม่ถึง 20% ขณะที่จังหวัดตรังคนตรังไม่เลือก นายทวี สุรบาล ที่ย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่พรรคไทยรักไทย แต่กลับไปเลือกลูกของคนขับรถแทร็กเตอร์ในสวนของนายทวี ที่นายทวีให้ลงสมัครแข่งขันกับตัวเอง และคะแนนพรรคไทยรักไทยก็ไม่ถึง 20% ด้วยที่จังหวัดตรัง
นี่เป็นการสั่งสอนพรรคไทยรักไทยของคนภาคใต้ ที่ระบอบทักษิณเป็นระบอบที่เลวร้ายมาก ซื้อทั้งพรรคการเมือง ซื้อส.ส.และซื้อประชาชน แล้วคนใต้คิดว่า พรรคประชาธิปัตย์ซื้อพรรคการเมือง ซื้อส.ส.และซื้อประชาชนหรือไม่ ซื้อประชาชนแต่น้อยมากหรืออาจไม่ซื้อเลย
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ ยังได้กล่าวถึง นายเนวิน ชิดชอบ ว่า กลุ่มเนวินเป็นกลุ่มที่เลวร้ายพอๆ กับระบอบทักษิณ ซึ่งวันนี้ เนวิน ได้ไปร่วมกับพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งจำไม่ได้ว่าพรรคอะไร ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคนภาคใต้ผิดหวังมากกับตรงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็คงต้องให้เวลารัฐบาลในการทำงานสักระยะหนึ่งก่อน หากทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มบุคคลมากกว่าประโยชน์ของชาติ เราพี่น้องพันธมิตรฯก็ต้องลุกขึ้นไปขับไล่กันอีกครั้งหนึ่ง
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯจะลงมาจัดคอนเสิร์ตการเมือง ที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดแรกของภาคใต้อีกด้วย
