เปิดสายสัมพันธ์ลึก"คิงเพาเวอร์"ใช้”ศรีสุข”หัวหอกฮุบสัมปทาน

ASTVผู้จัดการรายวัน - แฉเส้นทาง”คิงเพาเวอร์”ฮุบรวบสัมปทานสนามบินสุวรรณภูมิรายเดียว โยนเศษส่วนแบ่งให้ทอท.เพียงเล็กน้อย จับตาเส้นทางผ่านสายสัมพันธ์คนในตระกูลชินวัตร โดยใช้“ศรีสุข”เป็นผู้บริหารจัดการ จนทำให้คิงเพาเวอร์สร้างความภูมิใจให้กับตัวเองบนความอัปยศ ของสนามบินสุวรรณภูมิที่ถูกบันทึกว่าเป็นสนามบินที่อื้อฉาวและมีการทุจริตมากที่สุด ”โสภณ”ปฏิเสธตั้ง”ศรีสุข”ไม่มีผลประโยชน์แฝง ชึ้ตั้งเป็นคณะทำงานฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินไม่เกี่ยวข้องงานบริหาร

ย้อนรอยโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ยังใช้ชื่อ”หนองงูเห่า” ผ่านรัฐบาลหลายชุด นายกรัฐมนตรีหลายคนที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์กว่าแสนล้านบาทของโครงการนี้ และคนไทยเริ่มรู้จักกับหนองงูเห่ากันในยุคที่เกิด คดีทุจริตถมทราย แต่เมื่อเวลาผ่านไปโครงการได้ก่อสร้างจนเกือบเสร็จ สนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับการกล่าวถึงอีกครั้ง ในคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องเอ็กซเรย์ CTX 9000 และระบบสานพานลำเลียงมูลค่า 4,300 ล้านบาทต่อมาถึง สัมปทานฉาว คิงเพาเวอร์ รถเข็นกระเป๋าล็อกสเปก และสัญญาจ้างยามเอื้อเอกชน หลังการเปิดใช้สนามบินที่ต้องประสบกับปัญหามาตลอดกว่า 1 เดือน ในยุครัฐบาล คมช.

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า กรณีที่เป็นปมปัญหาการทุจริต และถูกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิด ความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) สอบสวนส่วนใหญ่เป็นช่วงที่เร่งก่อสร้างก่อนเปิดสนามบินสุวรรณภูมิให้ทันวันที่ 28 ก.ย. 2549 เป็นช่วงรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล โดยมีนายศรีสุข จันทรางศุ ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงคมนาคมในช่วงนั้น ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. และประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ แห่งใหม่(บทม.) ซึ่งถูกตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิโดยเฉพาะก่อนที่จะถูกยุบรวมกับทอท. เมื่องานก่อสร้างเสร็จ

โดยเฉพาะการได้มาซึ่งสัญญาสัมปทานดิวตี้ฟรีและร้านค้าเชิงพาณิชย์ของ กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ แบบกินรวบ ทั้งพื้นที่ร้านค้าและพื้นที่โฆษณา เป็นที่น่าสังเกตุมาตั้งแต่แรก และถูกตั้งคำถามถึงพื้นที่ส่วนเกินกว่า 5,000 ตารางเมตร จากที่ระบุในทีโออาร์ประมูล และสัญญาที่เซ็นไว้กับทอท. 25,000 ตารางเมตร ว่าได้มาอย่างไร ซึ่งนายศรีสุขชี้แจงในขณะนั้นว่า ยังระบุพื้นที่ส่วนเกินไม่ได้ เพราะอยู่ในระหว่างการตกแต่งร้านค้า หลังจากเสร็จเรียบร้อยจึงจะมีการสำรวจเพื่อประเมินอีกครั้งและเจรจากับบริษัท คิงเพาเวอร์ เพื่อทำแนบท้ายสัญญาเพิ่มเติม

“เท่ากับยอมรับว่า คิงเพาเวอร์ใช้พื้นที่เกินจริง อย่างนี้เรียกว่ารู้เห็นเป็นใจ ได้หรือไม่”

แหล่งข่าวกล่าวว่า นายศรีสุขเป็นคนสำคัญที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไว้ใจให้รับสนองนโยบายจากจัดการงานทุกอย่างในช่วงก่อนเปิดสนามบินสุวรรณภูมิแบบมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ในช่วงนั้น ใครจะเข้าไปทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิ จะต้องไปถามศรีสุข ว่าทำได้หรือไม่ ทั้งงานก่อสร้างและที่สำคัญการจัดสรรสัญญาสัมปทานให้กับกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ จนกระทั่งเปิดสนามบิน ซึ่งนายศรีสุขเคยกล่าวว่า ถือเป็นผลงานที่ภูมิใจมากที่สุด สุดท้าย ก็ถูกรมว.คมนาคม ในยุค คมช.เด้งพ้นทอท.และตั้ง พลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร เป็นประธานบอร์ดทอท.แทน

และบอร์ด ทอท.ชุดนี้ก็เริ่มต้นในการรื้อสัญญาฉาวคิงเพาเวอร์เป็นสัญญาแรก โดยมีมติว่าสัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ เพราะมูลค่าการลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท แต่ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 ตามที่กฤษฎีกามีคำวินิจฉัย ในขณะที่คิงเพาเวอร์ฟ้องต่อศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายทอท. 6.8 หมื่นล้านบาท เป็นคดีในศาล แต่คดียังไม่สิ้นสุด การเปลี่ยนรัฐบาลจากคมช.มาเป็นพรรคพลังประชาชน มีการไกล่เกลี่ยคดีคิงเพาเวอร์จนยุติทุกอย่างกลับไปเหมือนไม่เคยมีเรื่องโมฆะ เกิดขึ้น และสรุปให้มีการประเมินพื้นที่ส่วนเกิน เพื่อเก็บค่าเช่าเพิ่ม ในส่วนของดิวตี้ฟรียังมีพื้นที่ส่วนเกินอีก 4,000 ตร.ม. ร้านค้าเชิงพาณิชย์มีพื้นที่ส่วนเกิน 8,000 ตร.ม.แต่ถึงวันนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าออกมา ถือว่าเอื้อเอกชนหรือไม่

ไม่นับถึงกรณีที่บอร์ด ทอท.ชุด พล.อ.สพรั่ง ตรวจสอบและพบว่าคิง เพาเวอร์ก่อสร้างโครงการซิตี้ การ์เด้นท์ ซึ่งเป็นร้านค้าในอาคารที่พักผู้โดยสาร โดยไม่ได้อยู่สัญญาสัมปทานของคิงเพาเวอร์และไม่ได้จ่ายค่าเช่าพื้นที่ให้กับ ทอท. ซึ่งอาคารซิตี้ การ์เด้นท์ ก่อสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,500 ตร.ม.ของสนามบินสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ใช้สอย 2,500 ตร.ม. นั้น ไม่ได้อยู่ในแผนและแบบการก่อสร้างในสุวรรณภูมิ และผู้ที่อนุญาตก็ไม่มีอำนาจทางกฎหมาย ซึ่งฝั่งคิงเพาเวอร์ยืนยันว่า การก่อสร้างอาคารซิตี้ การ์เด้นท์ นั้นผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการบริหารและพัฒนากิจการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ ร่วมอยู่ในคณะอนุกรรมการดังกล่าวด้วย

**เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีกินรวบสุวรรณภูมิคอนเน็กชั่น”เจ๊แดง”

ว่ากันว่า นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานบริหาร คิงเพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป หรือ เจ้าพ่อดิวตี้ฟรีเมืองไทย มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับพรรคไทยรักไทยผ่านทาง”เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทำให้เส้นทางในการเข้ายึดผลประโยชน์ในสนามบินสุวรรณภูมิแบบเบ็ดเสร็จเพียงรายเดียว เปรียบเสมือนเส้นทางการทำกินที่ปูด้วยกลีบกุหลาบไม่มีคู่แข่งรายใดที่จะเข้าไปแย่งชิงสัมปทานในสุวรรณภูมิได้เลย

และนำไปสู่การจ้างที่ปรึกษาซึ่งประกอบด้วยบริษัทซี แอนด์ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล เวนเจอร์ จำกัด ร่วมกับบริษัทไรม์คอนซัลแตนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัทวู้ดส์เบก็อท (ไทยแลนด์) จำกัด โดยบริษัทซี แอน์ ซี ฯ เป็นที่ปรึกษาหลักมีนายสิงหเทพ เทพกาญจนา เป็นหัวหน้าที่ปรึกษา ศึกษาโครงการแต่ที่ปรึกษาดังกล่าว ทำหน้าที่เกินจากที่ได้รับมอบหมายซึ่งตามสัญญาไม่ได้กำหนดให้มีประเมินมูลค่าการลงทุน แต่ที่ปรึกษาได้ประเมินมูลค่าการลงทุนและเสนอว่าโครงการนี้ไม่ต้องดำเนินการตามพรบ.ร่วมทุนฯ และมีความพยายามคำนวณมูลค่าการลงทุนไว้ที่ 813,838,443 บาท เพื่อไม่ให้ถึงหนึ่งพันล้านบาท ซึ่งต้องเข้าพ.ร.บ.ร่วมทุน อีกทั้งยังพบว่าการจ้างที่ปรึกษารายนี้ใช้วิธีตกลงโดยไม่มีการคัดเลือกแข่งขัน

ซึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฎในผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสัญญาคิงเพาเวอร์ แสดงให้เห็นว่ามีการใช้กลุ่มที่ปรึกษาเป็นเครื่องมือในการเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งคิงเพาเวอร์ทำสัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (duty free airport) ขนาด 5,000 ตร.ม. กับทอท. 10 ปี ให้ผลตบแทน ร้อยละ 15 ถึงร้อยละ 20 ในแต่ละปีของยอดจำหน่ายสินค้าปลอดอากรทั้งหมดในรอบเดือนนั้นๆ โดยผลประโยชน์ตอบแทนที่บริษัทตกลงชำระให้ ทอท.เมื่อรวมกันตลอดอายุสัญญาแล้วจะมีจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรวมเป็นเงิน 16,832,000,000 บาท

ส่วนกิจกรรมเชิงพาณิชย์สัมปทานบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ร้านค้าย่อย (commercial area) ขนาด 20,000 ตร.ม. ให้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 15 ของยอดรายได้หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยมียอดเงินประกันรายได้ขั้นต่ำในปีที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 1,431,000,000 บาท
ต่าจากการประเมินของคิงเพาเวอร์เอง พบว่า จะมีรายได้ขั้นต่ำจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ 3-5 ปีแรก ปีละ 10-20 ล้านคน หักลบค่าลงทุนและจ่ายผลตอบแทนให้ทอท. คิงเพาเวอร์ ยังมีกำไรอีกปีละประมาณ 800-1,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย

**”โสภณ”แจง”ศรีสุข” ไม่เกี่ยวข้องงานบริหาร

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวยืนยันว่า การแต่งตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ อดีตประธานบอร์ดทอท.เป็นประธานคณะทำงานฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินนั้น นายศรีสุข จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของทั้ง ทอท.และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งหน้าที่ของคณะทำงานดังกล่าวจะต้องวางแผนเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบินที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ ว่ามีแนวทางอย่างไรบ้างและเสนอมาที่ตน เพื่อออกเป็นนโยบายต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่า นายศรีสุข เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถด้านการบิน จึงเชื่อว่าจะสามารถใช้ความรู้ช่วยแก้ปัญหาได้ เช่น ปัญหาการขาดทุนของการบินไทย การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่นายศรีสุข ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต จัดซื้อซีทีเอ็กซ์ และโครงการอื่นๆ ในสนามบินสุวรรณภูมินั้น ถือว่าเป็นคนละส่วนและข้อกล่าวหาดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ