“ทักษิณ” โยนเศษเงิน 50 ล้าน ให้ “4ลูกสมุน” ตั้งสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม DTV แข่งกับ ASTV หวังใช้เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อให้ระบอบทักษิณ คาดเปิดตัวได้ภายในม.ค.นี้ “อภิสิทธิ์” จ้อ NBT 18 ม.ค. พร้อมเปิดทางผู้นำฝ่ายค้านใช้สื่อรัฐได้
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายจักรภพ เพ็ญแข และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ร่วมกันดำเนินการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่ มาประมาณ 1-2 เดือนแล้ว โดยใช้ชื่อว่า DTV ซึ่งจะจัดตั้งเป็นรูปแบบทีวีดาวเทียม 2 ระบบ คือ ระบบจานใหญ่กับระบบจานเล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้รับชมที่มีจานดาวเทียมทุกประเภทสามารถดูได้ทันที
แหล่งข่าวกล่าวว่า รูปแบบของรายการทีวีช่องดังกล่าวจะเป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมง โดยจะเน้นข่าวการเมืองเป็นหลัก ซึ่งจะคล้ายกับรูปแบบของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา
สำหรับทีมงานนั้นจะเป็นทีมงานมืออาชีพซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากสถานีโทรทัศน์ ไอทีวีเดิม ทั้งในส่วนของทีมโปรดิวเซอร์ กองบรรณธิการ รวมทั้งผู้ประกาศข่าวบางคน ที่จะเข้ามาร่วมกันฟอร์มทีม โดยจะทำให้แตกต่างจากครั้งเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม PTV ที่ใช้ทีมงานหน้าใหม่เป็นส่วนใหญ่
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การดำเนินการครั้งนี้มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายอดิศร เพียงเกษ และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ช่วยเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวด้วย
สำหรับเงินลงทุนในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ ครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า ได้รับเงินการสนับสนุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงเกือบ 50 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการวางระบบเครือข่ายดาวเทียมรวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ของสถานีด้วย
นายจตุพร พรหมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบสัญญาณ และการดำเนินการทางเทคนิค โดยได้มอบหมายให้ผู้ชำนาญการเป็นผู้รับผิดชอบ ในเรื่องนี้ ขณะที่ตน นายณัฐวุฒิ และนายจักรภพ จะคอยช่วยดูแล ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้นนั้นจะเป็นทีวีดาวเทียมที่รับชมได้ทั่วโลก เพียงแค่มีจานดาวเทียม และคาดว่า จะสามารถเปิดตัวได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยทีมงานซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้น ขณะนี้กำลังทดสอบด้านเทคนิค เช่น การออนไลน์สัญญาณต่างๆ ซึ่งจะสามารถออกอากาศได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ แต่จะเปิดตัวได้ภายใน เดือนม.ค.นี้ ดังนั้นขณะนี้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้มาก แต่ยืนยันว่าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะเป็นของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย มีเนื้อหาและข่าวสารด้านการเมืองเป็นหลัก โดยมีจุดยืนคือ ส่งเสริมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถเปิดเผยชื่อสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องดังกล่าว ได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้สัญญากับทีมงานไว้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะแจ้งให้ทราบตอนที่เปิดตัวภายในเดือนม.ค.นี้อย่างแน่นอน
ส่วนทีมงานที่มาร่วมงานนั้นเป็นพนักงานของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม PTV เดิมหรือเป็นทีมงานใหม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มาร่วมงานกัน ส่วนกรณีทีมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้เงินทุนก้อนหนึ่งเพื่อจัดตั้งสถานีนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่ถ้าหากมาจาก ASTV เมื่อสถานีช่องดังกล่าวออกอากาศแล้วก็จะให้ประชาชนวัดว่าจะเลือกสนับสนุนช่องไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ DTV นั้น เป็นของบริษัท ดีทีวีเซอร์วิส หรือชื่อเดิมคือ บริษัท ชิน บรอดแบนด์ อินเตอร์เนต(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยมีบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ด้วย
"อภิสิทธิ์"จ้อ NBT 18 มกราคม
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรูปแบบ การจัดรายการของนายกรัฐมนตรี ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เพื่อรายงานการทำงานกับประชาชนว่า ได้หารือกับทีมงานเป็นระยะ เบื้องต้นตกลงว่าจะจัดในวันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. รูปแบบไม่กำหนดตายตัวว่าจะคุยคนเดียว หลายคน หรือมีพิธีกร แต่จะยึดเนื้อหาเป็นหลัก เช่น บางสัปดาห์เป็นการรายงานการทำงานต่อประชาชนก็อาจจะพูดคนเดียว บางสัปดาห์จะเป็นการไปพบประชาชนนอกสถานที่ และจะเปิดโอกาสให้ ประชาชนตั้งคำถามหรือพูดคุยสองทางด้วย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เนื้อหาจะเน้นสาระการทำงานของรัฐบาล และประชาชน ได้รับอะไรเป็นหลัก จะไม่ใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้าม คิดว่า รายการน่าจะเริ่มได้ในวันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. ซึ่งจริงๆ อยากเริ่มสัปดาห์นี้ แต่ติดงานวันเด็กในวันที่ 10 ม.ค. และวันที่ 11 ม.ค. จะมีการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งไม่อยาก จะให้มีปัญหากัน ส่วนชื่อรายการจะประกาศอีกครั้ง ทั้งนี้ได้ประสานไปยังกรมประชาสัมพันธ์และผู้เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนการแบ่งเวลาสำหรับรายการของฝ่ายค้านนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่า จะต้องเปิดพื้นที่สื่อให้สมดุล มีการเสนอข่าวทุกด้าน และได้ให้นโยบายกับผู้เกี่ยวข้องแล้วว่าหากผู้นำฝ่ายค้านทำหนังสือขอจัดรายการพบกับประชาชน ก็ขอให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาอนุมัติให้ ฉะนั้นต้องรอว่าหลังจากโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านแล้ว ฝ่ายนั้นจะมีหนังสือมาหรือไม่ ถ้ามีก็ยินดีจัดให้
ต่อข้อถามว่าผู้จัดรายการต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้นใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลักการที่ถูกต้องต้องเป็นเช่นนั้น เพราะว่าสมัยที่ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน และขอจัดรายการ ก็ขอมาในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เพราะว่ารัฐบาลผู้ที่จัดไม่ใช่ พรรคการเมือง และไม่ใช่รัฐมนตรี แต่เป็นนายกฯ พบกับประชาชน ฉะนั้นอีกฝ่ายก็ควร เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการและตำแหน่งโปรดเกล้าฯ
ส่วนจะให้เวลาต่อจากนายกฯ หรือว่าเป็นคนละวันกันนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า แล้วแต่เขาจะขอมา ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดในหนังสือ แต่มีพื้นที่ให้แน่นอน ส่วนจะจัดอะไรอย่างไรคิดว่าให้เขาทำหนังสือมาก่อน ให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการกำหนดกรอบเนื้อหารายการหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ ควรที่จะรู้ว่า สิ่งใดควรหรือไม่ควรพูด และเป็นความรับผิดชอบของคนที่จะพูด
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะจัดรายการ นายกฯพบประชาชน ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นคนตรงไปตรงมา ดังนั้นการพูดผ่านรายการดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยไม่ใช้สื่อบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของตนเองและทำลายคนอื่น แต่ก่อนหน้านี้ ช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์เคยพูดว่าควรเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลจัดรายการอย่างนี้บ้าง ดังนั้นจึงควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายอื่นดำเนินการอย่างที่พูดไว้ด้วย มั่นใจว่านายกฯจะมีความใจกว้างพอ ซึ่งตนเห็นว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองจะทำได้ด้วยการพูดความจริง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก การให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงใช้สื่อข้างเดียว
ดังนั้นจึงคิดว่าการที่นายกฯจะออกมาพูดในรายการจะถือว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งจะต้องให้มีการใช้สื่อทั้งสองด้าน อย่างน้อยกลุ่มคนเสื้อแดงทีได้รู้ความจริงว่าคืออะไร ส่วนหนึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งความโกรธแค้นเกลียดชังจำให้เกิดความเข้าใจดีขึ้น
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายจักรภพ เพ็ญแข และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ได้ร่วมกันดำเนินการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมช่องใหม่ มาประมาณ 1-2 เดือนแล้ว โดยใช้ชื่อว่า DTV ซึ่งจะจัดตั้งเป็นรูปแบบทีวีดาวเทียม 2 ระบบ คือ ระบบจานใหญ่กับระบบจานเล็ก ซึ่งจะทำให้ผู้รับชมที่มีจานดาวเทียมทุกประเภทสามารถดูได้ทันที
แหล่งข่าวกล่าวว่า รูปแบบของรายการทีวีช่องดังกล่าวจะเป็นสถานีข่าว 24 ชั่วโมง โดยจะเน้นข่าวการเมืองเป็นหลัก ซึ่งจะคล้ายกับรูปแบบของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา
สำหรับทีมงานนั้นจะเป็นทีมงานมืออาชีพซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากสถานีโทรทัศน์ ไอทีวีเดิม ทั้งในส่วนของทีมโปรดิวเซอร์ กองบรรณธิการ รวมทั้งผู้ประกาศข่าวบางคน ที่จะเข้ามาร่วมกันฟอร์มทีม โดยจะทำให้แตกต่างจากครั้งเป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม PTV ที่ใช้ทีมงานหน้าใหม่เป็นส่วนใหญ่
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า การดำเนินการครั้งนี้มีสมาชิกบ้านเลขที่ 111 อาทิ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายอดิศร เพียงเกษ และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ช่วยเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินการก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวด้วย
สำหรับเงินลงทุนในการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ ครั้งนี้ มีกระแสข่าวว่า ได้รับเงินการสนับสนุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงเกือบ 50 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการวางระบบเครือข่ายดาวเทียมรวมถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ของสถานีด้วย
นายจตุพร พรหมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดสอบสัญญาณ และการดำเนินการทางเทคนิค โดยได้มอบหมายให้ผู้ชำนาญการเป็นผู้รับผิดชอบ ในเรื่องนี้ ขณะที่ตน นายณัฐวุฒิ และนายจักรภพ จะคอยช่วยดูแล ทั้งนี้ หลักการเบื้องต้นนั้นจะเป็นทีวีดาวเทียมที่รับชมได้ทั่วโลก เพียงแค่มีจานดาวเทียม และคาดว่า จะสามารถเปิดตัวได้ภายใน 1-2 เดือนนี้
ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยทีมงานซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางนั้น ขณะนี้กำลังทดสอบด้านเทคนิค เช่น การออนไลน์สัญญาณต่างๆ ซึ่งจะสามารถออกอากาศได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ แต่จะเปิดตัวได้ภายใน เดือนม.ค.นี้ ดังนั้นขณะนี้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอะไรได้มาก แต่ยืนยันว่าสถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะเป็นของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย มีเนื้อหาและข่าวสารด้านการเมืองเป็นหลัก โดยมีจุดยืนคือ ส่งเสริมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถเปิดเผยชื่อสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่องดังกล่าว ได้หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้สัญญากับทีมงานไว้จึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะแจ้งให้ทราบตอนที่เปิดตัวภายในเดือนม.ค.นี้อย่างแน่นอน
ส่วนทีมงานที่มาร่วมงานนั้นเป็นพนักงานของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม PTV เดิมหรือเป็นทีมงานใหม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มาร่วมงานกัน ส่วนกรณีทีมีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้เงินทุนก้อนหนึ่งเพื่อจัดตั้งสถานีนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวนี้มาจากไหน แต่ถ้าหากมาจาก ASTV เมื่อสถานีช่องดังกล่าวออกอากาศแล้วก็จะให้ประชาชนวัดว่าจะเลือกสนับสนุนช่องไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ DTV นั้น เป็นของบริษัท ดีทีวีเซอร์วิส หรือชื่อเดิมคือ บริษัท ชิน บรอดแบนด์ อินเตอร์เนต(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัทไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยมีบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ด้วย
"อภิสิทธิ์"จ้อ NBT 18 มกราคม
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงรูปแบบ การจัดรายการของนายกรัฐมนตรี ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เพื่อรายงานการทำงานกับประชาชนว่า ได้หารือกับทีมงานเป็นระยะ เบื้องต้นตกลงว่าจะจัดในวันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. รูปแบบไม่กำหนดตายตัวว่าจะคุยคนเดียว หลายคน หรือมีพิธีกร แต่จะยึดเนื้อหาเป็นหลัก เช่น บางสัปดาห์เป็นการรายงานการทำงานต่อประชาชนก็อาจจะพูดคนเดียว บางสัปดาห์จะเป็นการไปพบประชาชนนอกสถานที่ และจะเปิดโอกาสให้ ประชาชนตั้งคำถามหรือพูดคุยสองทางด้วย
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เนื้อหาจะเน้นสาระการทำงานของรัฐบาล และประชาชน ได้รับอะไรเป็นหลัก จะไม่ใช้เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้าม คิดว่า รายการน่าจะเริ่มได้ในวันอาทิตย์ที่ 18 ม.ค. ซึ่งจริงๆ อยากเริ่มสัปดาห์นี้ แต่ติดงานวันเด็กในวันที่ 10 ม.ค. และวันที่ 11 ม.ค. จะมีการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งไม่อยาก จะให้มีปัญหากัน ส่วนชื่อรายการจะประกาศอีกครั้ง ทั้งนี้ได้ประสานไปยังกรมประชาสัมพันธ์และผู้เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนการแบ่งเวลาสำหรับรายการของฝ่ายค้านนั้น นายสาทิตย์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่า จะต้องเปิดพื้นที่สื่อให้สมดุล มีการเสนอข่าวทุกด้าน และได้ให้นโยบายกับผู้เกี่ยวข้องแล้วว่าหากผู้นำฝ่ายค้านทำหนังสือขอจัดรายการพบกับประชาชน ก็ขอให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาอนุมัติให้ ฉะนั้นต้องรอว่าหลังจากโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านแล้ว ฝ่ายนั้นจะมีหนังสือมาหรือไม่ ถ้ามีก็ยินดีจัดให้
ต่อข้อถามว่าผู้จัดรายการต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้นใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลักการที่ถูกต้องต้องเป็นเช่นนั้น เพราะว่าสมัยที่ประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้าน และขอจัดรายการ ก็ขอมาในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน เพราะว่ารัฐบาลผู้ที่จัดไม่ใช่ พรรคการเมือง และไม่ใช่รัฐมนตรี แต่เป็นนายกฯ พบกับประชาชน ฉะนั้นอีกฝ่ายก็ควร เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการและตำแหน่งโปรดเกล้าฯ
ส่วนจะให้เวลาต่อจากนายกฯ หรือว่าเป็นคนละวันกันนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า แล้วแต่เขาจะขอมา ซึ่งคงต้องดูรายละเอียดในหนังสือ แต่มีพื้นที่ให้แน่นอน ส่วนจะจัดอะไรอย่างไรคิดว่าให้เขาทำหนังสือมาก่อน ให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการกำหนดกรอบเนื้อหารายการหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คนเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งโปรดเกล้าฯ ควรที่จะรู้ว่า สิ่งใดควรหรือไม่ควรพูด และเป็นความรับผิดชอบของคนที่จะพูด
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะจัดรายการ นายกฯพบประชาชน ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นคนตรงไปตรงมา ดังนั้นการพูดผ่านรายการดังกล่าวน่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชน โดยไม่ใช้สื่อบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของตนเองและทำลายคนอื่น แต่ก่อนหน้านี้ ช่วงที่เป็นฝ่ายค้าน นายอภิสิทธิ์เคยพูดว่าควรเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลจัดรายการอย่างนี้บ้าง ดังนั้นจึงควรเปิดโอกาสให้ฝ่ายอื่นดำเนินการอย่างที่พูดไว้ด้วย มั่นใจว่านายกฯจะมีความใจกว้างพอ ซึ่งตนเห็นว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองจะทำได้ด้วยการพูดความจริง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก การให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริงใช้สื่อข้างเดียว
ดังนั้นจึงคิดว่าการที่นายกฯจะออกมาพูดในรายการจะถือว่าเป็นประโยชน์ ซึ่งจะต้องให้มีการใช้สื่อทั้งสองด้าน อย่างน้อยกลุ่มคนเสื้อแดงทีได้รู้ความจริงว่าคืออะไร ส่วนหนึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งความโกรธแค้นเกลียดชังจำให้เกิดความเข้าใจดีขึ้น
