ASTVผู้จัดการรายวัน - “โสภณ ซารัมย์” เมินทบทวนเช่าเอ็นจีวี 4,000 คัน-เมกะโปรเจกต์ สั่งเดินหน้าอ้างฟังสียงค้านปรับปรุงทีโออาร์ สั่งการบินไทยหั่นสิทธิพิเศษบอร์ด พร้อมตั้งคณะทำงาน 3 ชุด แก้ปัญหาโลจิสติกส์ ทางบก ทางอากาศ ดึง "ศรีสุข" อดีตบิ๊ก บทม.หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีทุจริตซีทีเอ็กซ์ นั่งประธานคุมแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมวานนี้ (5 ม.ค.) ว่า ได้เร่งรัดให้ดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์ตามขั้นตอนและตารางเวลาที่มี โดยจะไม่มีการทบทวนโครงการแต่อย่างใด รวมถึงโครงการการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 4,000 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มูลค่า 62,598 ล้านบาท ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะหลักการโครงการเป็นไปตามแผนฟื้นฟู ขสมก. ซึ่งปัญหาขณะนี้คือสังคม ยังสงสัยประเด็นราคาแพงไปหรือไม่ และความโปร่งใส ดังนั้น ถ้าสามารถตอบคำถามได้ว่าโครงการคุ้มค่าและโปร่งใสก็ไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะทุกอย่างที่เป็นประโยชน์และนำมาปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินโครงการยังไม่จบ และสามารถขยายเวลาการรับฟังความเห็นเพื่อจัดทำร่างทีโออาร์ได้
"อย่าติอย่างเดียว ต้องเสนอแนะข้อมูลมาด้วยว่าเป็นอย่างไร หากดี มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ผมพร้อมจะแก้ไข แต่ตอนนี้จะไม่หยุด หรือทบทวนโครงการใด ๆเพราะทุกโครงการมีกระบวนการและขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งเป้าหมายในการดำเนินโครงการต่างๆ ในปี 2552 "
นายโสภณกล่าวว่า ในการบริหารงานกระทรวงคมนาคมนั้น ตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1. คณะทำงานด้านโลจิสติกส์ มีนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการขนส่งทางรางเพื่อเพิ่มสัดส่วนในการขนส่งให้เกิดเป็นรูปธรรมจากปัจจุบัน 10% เป็น 30% ภายใน 6 เดือน เพื่อลดต้นทุนการขนส่งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม 2. คณะทำงานด้านการขนส่งทางอากาศ มี นายศรีสุข จันทรางศู เป็นประธานเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน ในช่วงที่มีปัญหา 3. คณะทำงานด้านการขนส่งทางบก ซึ่งมีตนเป็นประธาน โดยจะมีการประชุมทุกเดือนเพื่อติดตามและเร่งรัดการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
นายโสภณกล่าวว่า ในส่วนนโยบายของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบปัญหาจากอุตสาหกรรมการบินนั้น ให้ปรับปรุงแผนการดำเนินงาน ปรับลดค่าใช้จ่ายลง เช่น สิทธิพิเศษของทั้งคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) และพนักงานลง และการหารายได้เพิ่มจากธุรกิจอื่นๆ รวมถึงกระบวนการบริหารที่เป็นปัญหา เช่น ระบบการขายตั๋วผ่านเอเย่นต์ หากไม่มีประสิทธิภาพก็ควรยกเลิกให้เป็นระบบขายตรงแทน
ทั้งนี้ จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (work shop) เพื่อแก้ปัญหาของการบินไทยวันที่ 16 ม.ค. 2552 และ ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อแก้ปัญหาของบริษัท ท่าอากากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในวันที่ 12 ม.ค. 2552
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจต่างๆนั้น รมว.คมนาคมกล่าวว่า หลักในการทำงานของบอร์ดทุกคน คือต้องเสียสละ ทุ่มเทการทำงาน ไม่ใช่มาเป็นเพราะตำแหน่ง แต่ไม่มีเวลาพอ ดังนั้นก็ต้องหาคนที่มีเวลาและมีความรู้ความสามารถที่เหมาถสม ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า บอร์ดจะต้องลาออก เพียงแต่ต้องดูว่า สามารถทำงานตามนโยบายที่มีได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาและประเมินตัวเอง เพราะหากการทำงานไม่เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ขาดผู้บริหารสูงสุด เร่งรัดกระบวนการสรรหา เช่น ทอท. การบินไทย
สำหรับการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 2 ท่านนั้น นายโสภณกล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ กำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ส่วนนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร กำกับดูแล กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ส่วนหน่วยงานที่เหลือรมว.คมนาคมดูแลเองเช่น การบินไทย , ทอท. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กรมทางหลวง เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดี ทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 สนามบินสุวรรณภูมิ ในสมัยที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
นายวุฒิชัย สิงหมณี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) ฝ่ายความปลอดภัย กล่าวว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ขอ.ปรับปรุงการบริการทางการบินกับสายการบินต่างประเทศ ทั้งสายการบินที่มีเที่ยวบินปรกติ และเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือชาเตอร์ ไฟล์ โดยให้มีการลดขั้นตอนการอนุญาตการทำการบินมายังประเทศไทยลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการบิน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการปรับปรุงคุณภาพของอุตสาหกรรมการบิน ของกระทรวงคมนาคม.
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคมวานนี้ (5 ม.ค.) ว่า ได้เร่งรัดให้ดำเนินโครงการเมกะโปรเจกต์ตามขั้นตอนและตารางเวลาที่มี โดยจะไม่มีการทบทวนโครงการแต่อย่างใด รวมถึงโครงการการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 4,000 คันขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) มูลค่า 62,598 ล้านบาท ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะหลักการโครงการเป็นไปตามแผนฟื้นฟู ขสมก. ซึ่งปัญหาขณะนี้คือสังคม ยังสงสัยประเด็นราคาแพงไปหรือไม่ และความโปร่งใส ดังนั้น ถ้าสามารถตอบคำถามได้ว่าโครงการคุ้มค่าและโปร่งใสก็ไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะทุกอย่างที่เป็นประโยชน์และนำมาปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการดำเนินโครงการยังไม่จบ และสามารถขยายเวลาการรับฟังความเห็นเพื่อจัดทำร่างทีโออาร์ได้
"อย่าติอย่างเดียว ต้องเสนอแนะข้อมูลมาด้วยว่าเป็นอย่างไร หากดี มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ผมพร้อมจะแก้ไข แต่ตอนนี้จะไม่หยุด หรือทบทวนโครงการใด ๆเพราะทุกโครงการมีกระบวนการและขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งเป้าหมายในการดำเนินโครงการต่างๆ ในปี 2552 "
นายโสภณกล่าวว่า ในการบริหารงานกระทรวงคมนาคมนั้น ตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย 1. คณะทำงานด้านโลจิสติกส์ มีนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการขนส่งทางรางเพื่อเพิ่มสัดส่วนในการขนส่งให้เกิดเป็นรูปธรรมจากปัจจุบัน 10% เป็น 30% ภายใน 6 เดือน เพื่อลดต้นทุนการขนส่งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม 2. คณะทำงานด้านการขนส่งทางอากาศ มี นายศรีสุข จันทรางศู เป็นประธานเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการบิน ในช่วงที่มีปัญหา 3. คณะทำงานด้านการขนส่งทางบก ซึ่งมีตนเป็นประธาน โดยจะมีการประชุมทุกเดือนเพื่อติดตามและเร่งรัดการแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด
นายโสภณกล่าวว่า ในส่วนนโยบายของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบปัญหาจากอุตสาหกรรมการบินนั้น ให้ปรับปรุงแผนการดำเนินงาน ปรับลดค่าใช้จ่ายลง เช่น สิทธิพิเศษของทั้งคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) และพนักงานลง และการหารายได้เพิ่มจากธุรกิจอื่นๆ รวมถึงกระบวนการบริหารที่เป็นปัญหา เช่น ระบบการขายตั๋วผ่านเอเย่นต์ หากไม่มีประสิทธิภาพก็ควรยกเลิกให้เป็นระบบขายตรงแทน
ทั้งนี้ จะมีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (work shop) เพื่อแก้ปัญหาของการบินไทยวันที่ 16 ม.ค. 2552 และ ประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อแก้ปัญหาของบริษัท ท่าอากากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ในวันที่ 12 ม.ค. 2552
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการ (บอร์ด) รัฐวิสาหกิจต่างๆนั้น รมว.คมนาคมกล่าวว่า หลักในการทำงานของบอร์ดทุกคน คือต้องเสียสละ ทุ่มเทการทำงาน ไม่ใช่มาเป็นเพราะตำแหน่ง แต่ไม่มีเวลาพอ ดังนั้นก็ต้องหาคนที่มีเวลาและมีความรู้ความสามารถที่เหมาถสม ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า บอร์ดจะต้องลาออก เพียงแต่ต้องดูว่า สามารถทำงานตามนโยบายที่มีได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาและประเมินตัวเอง เพราะหากการทำงานไม่เป็นไปตามนโยบายที่วางไว้ รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ขาดผู้บริหารสูงสุด เร่งรัดกระบวนการสรรหา เช่น ทอท. การบินไทย
สำหรับการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม 2 ท่านนั้น นายโสภณกล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ กำกับดูแลองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ส่วนนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร กำกับดูแล กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ส่วนหน่วยงานที่เหลือรมว.คมนาคมดูแลเองเช่น การบินไทย , ทอท. การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กรมทางหลวง เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า นายศรีสุข จันทรางศุ เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดี ทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ 9000 สนามบินสุวรรณภูมิ ในสมัยที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
นายวุฒิชัย สิงหมณี รองอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) ฝ่ายความปลอดภัย กล่าวว่า นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ขอ.ปรับปรุงการบริการทางการบินกับสายการบินต่างประเทศ ทั้งสายการบินที่มีเที่ยวบินปรกติ และเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ หรือชาเตอร์ ไฟล์ โดยให้มีการลดขั้นตอนการอนุญาตการทำการบินมายังประเทศไทยลง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการบิน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการปรับปรุงคุณภาพของอุตสาหกรรมการบิน ของกระทรวงคมนาคม.