เก็บฉากกันไปแล้วสำหรับพลพรรค “เสื้อแดง” ของ “เสี่ยแม้ว” ที่ไม่รู้ว่าไปหลงคารม “3 เกลอ” ที่หลอกหาเงินเที่ยวปีใหม่ หรือว่าเจ้าตัวคิดเอาเองแบบคนที่ยู่ข้างนอกแล้วได้รับข้อมูลคลาดเคลื่อนหรือเปล่า
แต่เอาเป็นว่างานนี้มีแต่รายการขาดทุนเข้าเนื้อเห็นๆ
ถ้าพูดกันแบบรวดรัดตัดความกันอีกทีถือว่าหลังจากขัดขวางรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่ได้แล้ว ทุกอย่างก็จบเห่ และขณะเดียวกันนับจากนี้ไปก็เตรียมหาสถานที่กบดานให้ดีก็แล้วกัน
หลายคนวิเคราะห์ตรงกันว่า หลังจากเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” สูญสิ้นอำนาจรัฐที่เคยเกื้อหนุน และเมื่อสถานการณ์พลิกกลับก็ทำให้ทุกอย่างต้องถอยร่นไม่เป็นขบวน
นาทีนี้ไม่น่าจะต้องพูดกันอีกต่อไปแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะสู้อย่างไร ในทางตรงกันข้ามสมควรติดตามว่าเขาจะถอยอย่างไรมากกว่า
เพราะหลังจากที่ไม่สามารถให้ “ลิ่วล้อเสื้อแดง” ขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาลไม่ได้ ก็ถือว่าอำนาจรัฐได้เปลี่ยนมืออย่างสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่จะเห็นได้ชัดนับจากนี้ไปก็คืออำนาจในวงการตำรวจก็จะเปลี่ยนแปลง คดีความต่างๆที่เคยถูกเก็บเข้าลิ้นชักก็จะถูกปัดฝุ่น สื่อของรัฐ เช่นเอ็นบีทีก็จะเปลี่ยนโฉมใหม่ แม้ในความเป็นจริงอาจมีข้อจำกัดในเรื่องความเกรงใจ “เพื่อนเนวิน” ที่เข้าไปยึดครองอยู่ก่อน แต่รับรองจะไม่มีรายการเปิดทางให้ “สามเกลอ” มาปลุกระดมเหมือนแต่ก่อนแน่
นอกจากนี้ที่สำคัญก็คือเมื่อต้านทาน “กษิต ภิรมย์” คุมกระทรวงการต่างประเทศไม่ไหว ความหายนะก็ส่อเค้ามาเยือนทันที เพราะถ้าโฟกัสกันถึงแบ็กกราวด์ย่อมรู้กันดีคนอย่าง “แม้ว” ต้องหนาวแน่ และนี่คือสาเหตุที่ว่าทำไมก่อนหน้านี้จึงออกแรงขัดขวางทุกวิถีทาง
ที่ผ่านมาหลังจากถูกริบพาสปอร์ตสีแดงมันก็ยุ่งพออยู่แล้ว และต่อไปนี้ถ้าถูกริบพาสปอร์ตธรรมดาเหมือนที่คนไทยทั่วไปถืออยู่ไปอีก จะยุ่งแค่ไหนลองหลับตานึกภาพดูเอาก็แล้วกัน
นี่ว่ากันเฉพาะเรื่องสถานะความเป็นอยู่เฉพาะหน้าที่กำลังเผชิญในช่วงปีใหม่ก่อน ขณะเดียวกันปัญหาระยะยาวก็จะยุ่งไม่แพ้กัน
หากจับสัญญาณของ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็จะใช้วิธีทางด้าน “การตลาด” ย้อนศรเหมือนกัน ไม่เชื่อลองกลับไปดูเรื่อง “อภินิหารแหวนทองเหลืองของยายเนียม" ก็แล้วกัน เพราะงานนี้ถือว่าเป็นการส่งถึงรากหญ้าในพื้นที่ภาคอีสานและภาคเหนือโดยตรง ซึ่งเป็นพื้นที่จุดบอดของพรรคประชาธิปัตย์มาช้านาน
ประกอบกับเร่งต่อยอดโครงการประชานิยมกันเต็มที่ อย่างน้อยแม้ในอนาคตยังไม่รู้ว่าจะสามารถซื้อใจได้เต็มร้อย แต่รับรองว่ามีคนพูดถึงมากกว่าเก่าแน่ ทำแต้มเป็นบวกได้เป็นกอบเป็นกำ
ดังนั้นถ้าพิจารณาจากข้อมูลเท่าที่มีอยู่ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องอยู่ในฐานะถอยกรูด ส่วนความคิดที่บอกว่าจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งเหมือนกับที่คุยโม้กับสื่ออาหรับล่าสุด น่าจะเลิกคิดไปได้เลย
เอาเป็นว่าปีหน้าจะเอาตัวรอดให้พ้นคุกได้หรือเปล่า ไม่รู้ !!
