xs
xsm
sm
md
lg

สุเทพให้ผลงานลบภาพยี้รมต.“เสธ.”ย้ำ3ด.แย่ให้ออก-ปณิธานแบะท่าโฆษก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีแล้ว วานนี้ (23 ธ.ค.) ได้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นนัดแรก ขณะเดียวกันก็เป็นวันแรกที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดให้ข้าราชการและ ครม.ได้เข้ามาทำงานตามปกติ ภายหลังที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เข้ายึดเป็นที่ชุมนุมเป็นระยะเวลากว่า 180 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีคนแรกที่เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลคือ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ในเวลา 07.15 น. ต่อมา นายอภิสิทธ์ ได้เดินทางมาถึงทำเนียบ เวลา 07.45น. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงเวลา 08.12น.
โดยนายอภิสิทธิ์ นำครม.ชุดใหม่ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในทำเนียบฯ ตามจุดต่างๆ 3 จุด คือ เวลา 08.19 น. เริ่มต้นจากที่ห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี จากนั้นได้เดินขึ้นไปสักการะบูชาพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า และศาลพระภูมิตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางออกด้านทิศตะวันออก บริเวณด้านข้างตึกสันติไมตรี โดยถือฤกษ์เวลา 08.39น. สักการะพระพรหมณ์ ก่อนที่จะเป็นประธานการประชุมครม. เป็นนัดแรก ในเวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้นำทีมรมต.ที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เดินจากตึกสันติไมตรีจนถึงห้องประชุมครม. โดยระหว่างทางได้ทักทายกับสื่อมวลชนและพูดคุยถึงบรรยากาศการเข้าทำเนียบ
ทั้งนี้ก่อนเข้าห้องประชุมครม.มีตัวแทนจากประธานสภาเด็กและเยาวชน มามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ ขอให้นายกฯมีความเข้มแข็ง บริหารราชการแผ่นดินด้วยความราบรื่น ซึ่งนายอภิสิทธิ์ กล่าวกับตัวแทนว่ารัฐบาลได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับพี่น้องประชาชน ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่ลืมงานที่เยาวชนฝากไว้ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา บทบาทการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนเป็นเรื่องสำคัญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ จะมีการนำ ร่างนโยบายบริหารราชการแผ่นดินรัฐบาลมาขอให้ ครม.มีมติเห็นชอบรวมถึงตั้งข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ก่อนนำส่งให้รัฐสภาต่อไป ก่อนจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้สำหรับนโยบายของรัฐบาลนั้นจะมีประมาณ20 หัวข้อ อาทิ กรสร้างความปรองดอง การปฎิรูปการเมืองเพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีการสานต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 6 เดือนอีกด้วย

สุเทพไม่ตื่นเต้น8ปีเพิ่งเข้าทำเนียบฯ
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมาร่วมประชุมครม.ครั้งแรก โดยมีตัวแทนจากสมาคมเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทยนำดอกไม้มามอบให้เพื่อแสดงความยินดีในการเข้าทำงานวันแรก นายสุเทพกล่าวพร้อมหัวเราะกับสื่อมวลชน กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นรัฐบาลมาแล้ว 8 ปีว่า ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร รู้สึกเฉยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะลบภาพนายทุนและพันธมิตรฯที่เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ที่ตั้งมาก็ว่าด้วยการพิจารณาคุณสมบัติ ความเหมาะสมในการทำงาน ส่วนที่จะมีคนเข้าใจเป็นอย่างอื่น อีกหน่อย เมื่อเขาเห็นเราทำงานก็จะเข้าใจไปเอง
สำหรับกรอบเวลาในการให้รัฐมนตรีพิจารณาตัวเองนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องไปถามนายกฯ แต่รัฐมนตรีทุกคนก็ตระหนักดีว่าเข้ามาทำงานในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติ เพราะฉะนั้นต้องทำงานด้วยความรวดเร็ว ว่องไว
ส่วนที่ พล.ต. สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ บอกว่า หาก 3 เดือนรัฐมนตรี คนใดไม่มีผลงานก็ควรพิจารณาให้ออก นายสุเทพ กล่าวว่าก็ดีที่พูดอย่างนั้น จะได้ช่วยกระตุ้นให้พวกเราทำงานด้วยความรวดเร็วมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่ารัฐบาลนี้จะบริหารงานได้นานหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องค่อย ๆ ดูกันไปเรื่อย ๆ เราก็ตั้งใจทำงาน อย่างที่ประชาชนคาดหวังไว้ เมื่อถามว่ารัฐบาลได้ตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่ากี่เดือนถึงจะมีผลงานออกมาให้เป็นรูปธรรม นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯต้องเป็นผู้กำหนดในเรื่องของระยะเวลาที่จะออกมาเป็นระยะ ๆ เมื่อถามว่านอกเหนือจากนโยบายเร่งด่วนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแล้ว ในฐานะที่ดูแลความมั่นคง ได้รับมอบหมายนโยบายส่วนนี้จากนายกฯมาหรือยัง นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับมอบหมาย ต้องรอให้มีการมอบหมายก่อน

ไฟเขียวอภิปรายนโยบายถึง31ธ.ค.
ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกสนแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29ธ.ค.ว่า ถ้าฝ่ายค้านจะอภิปราย รัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจงและรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ และหากฝ่ายค้านต้องการอภิปราย ถึงวันที่ 31 ธ.ค.ทางรัฐบาล ก็ไม่ขัดข้อง แต่เท่าที่ที่คุยกับส.ส.ฝ่ายค้านหลายคนทราบว่า ไม่ต้องการให้มีการ อภิปรายนโยบายถึงวันดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำหรับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดก่อนนั้น หากสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน รัฐบาลก็พร้อมที่สานต่อ อาทิ นโยบายกองทุนเอ็สเอ็มแอล รัฐบาลจะเป็นเปลี่ยนใหม่เป็น กองทุนเศรษฐกิจพอเพียง
ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.สาธารณสุข ระบุ พร้อมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายค้านนั้น นายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านต้องเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า จะให้ใครเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เพราะเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และต้องทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบรัฐบาล

สนั่นให้มองครม.ที่ใจไม่ใช่ที่หน้า
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแบ่งงานรัฐมนตรี และรองนายกฯว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งงาน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนนายกฯใหม่ก็เปลี่ยนงานใหม่ ส่วนการแบ่งงานรัฐมนตรีตามโควตากระทรวงนั้น ใครดูกระทรวงไหนก็ดูทำกระทรวงนั้น ในพรรคก็เหลือตนเพียงคนเดียว รัฐบาลจะมอบอะไรยังไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้คนค่อนข้างผิดหวังกับหน้าตาของ ครม.ที่ออกมา พล.ต.สนั่น กล่าวว่า อย่าไปดูที่หน้าตา ต้องดูที่ใจ ใจอาจจะดีก็ได้ เมื่อถามย้ำว่า อะไรที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้แตกต่างจากรัฐบาลชุดอื่นๆ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ขอเวลาให้เขาทำงานสักนิด 3 เดือนหากใครทำงานไม่ดีก็ต้องพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าจะทำได้หรือไม่ เนื่องจากมีคนทำนายว่ารัฐบาลอยู่ไม่เกิน 3 เดือน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ใครพนันกับตนบ้าง คิดว่าเกินไปหนึ่งวัน(หัวเราะ) ส่วนที่คิดว่าเกิน 3เดือนมองว่า ยังทำงานไม่ถึง 3เดือนขอให้ใจเย็นๆ เมื่อถามว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้รัฐบาลอยู่ได้นานที่สุด พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตัวคนนี่แหละ แกนนำแต่ละพรรคจะผูกจิตใจสมาชิกพรรคได้อย่างไร เรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ตนไม่ค่อยห่วง กระทรวงไหนที่ทำงานไม่ดี นายกฯต้องเร่งขันเกลียว ช่วยกันทำก็ไปได้ แต่ถ้าขัดใจเมื่อไรก็ลำบาก

รับปรับครม.จะมีผลต่อเสถียรภาพ
ต่อข้อถามว่าเมื่อเป็นรัฐบาลผสมการปรับเปลี่ยนครม.จะกระทบต่อเสถียรภาพ ของรัฐบาล พล.ต.สนั่น กล่าวยอมรับว่ากระทบ ตนถึงบอกว่าการบริหารบุคคล ต้องทำให้ดี รัฐบาลจะอยู่เร็วหรือช้าอยู่ที่การบริหารรัฐบาล เมื่อถามว่า พรรคร่วมตระหนักแค่ไหนกับปัญหานี้ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตระหนักทั้งนั้นไม่พอใจมันก็หนัก เมื่อถามว่าทางพรรคร่วมจะกดดันพรรคแกนนำรัฐบาลเนื่องจากมีน้ำหนักมากกว่า พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เป็นไปได้ ต้องทำความเข้าใจให้ดี
ส่วนหากนายกฯขันเกลียวแล้วมีการเขย่ารัฐบาล พล.ต.สนั่น กล่าวว่า จะไปเขย่าได้อย่างไรทำงานล่าช้านอนตื่นสาย เที่ยงถึง ก็ไม่ได้ เมื่อถามว่า สถานการณ์รัฐบาลขณะนี้หนักหนาแค่ไหนต่อการบริหารประเทศ พล.ต.สนั่น กล่าวว่าไม่หนัก มั่นใจในตัวผู้นำ จะประคองรัฐนาวาไม่ใช่ผู้นำคนเดียว ต้องประกอบด้วยกระบวนการคน ในเรือ ทั้งกัปตันและไต้ก๋งต้องระมัดระวังลูกเรือ เมื่อถามว่า คนในเรือเข้าขากันดีหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ยังไม่รู้ต้องดูว่าเข้าขากันดีหรือไม่ ตนคิดว่าอย่าล่มเรือลำนี้ก็แล้วกันเท่านั้นก็ไปได้

ปณิธานแบะท่าอยากนั่งโฆษกรัฐ
นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวถูกทาบทามให้รับตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวพร้อมทำงานให้กับรัฐบาลไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งอะไร เพราะต้องการช่วยงานในการบริหารประเทศชาติ ขณะนี้กำลังรอดูท่าทีความชัดเจนจากรัฐบาลในการให้เข้าไปช่วยงานรัฐบาล ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนได้ให้หลักการและคำตอบว่าถ้ารัฐบาลสั่งให้ทำอะไรตนก็พร้อมช่วยงาน แต่ก็ต้องดูด้วยว่างานที่จะมาช่วยนั้นต้องไม่กระทบกับการสอนของตน เพราะยังมีลูกศิษย์อีกมาก และยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะพิจารณาให้ตนรับตำแหน่งใด แต่ถ้ามีคำสั่งมาก็พร้อมทำงาน

ประวิตรเตรียมนำทีมอวยพรป๋าเปรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมคนใหม่ ได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ โดยนำกระเช้าผลไม้ไปอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2552 ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ได้กล่าวกับ พล.อ.ประวิตร ว่าขอเป็นกำลังใจในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รมว.กลาโหมในรัฐบาลชุดนี้ และขอให้ตั้งใจทำงานโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก รวมถึงการดูแลกำลังพลในกองทัพให้เกิดความศรัทธาจากประชาชน และเป็นที่พึ่งของประชาชน พร้อมกับให้ยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (24 ธ.ค.) พล.อ.ประวิตร จะเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหมเป็นครั้งแรก โดยถือกฤษ์ในเวลา 09.09 น. พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยนายทหารติดตามจะไปสักการะศาลหลักเมืองที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองคู่เมืองด้วย
รายงานด้วยว่า พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้สำนักงาน รมว.กลาโหม ทำหนังสือขอเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อนำ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทหารสุงสุด ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร. เข้าอวยพรเนื่องใน โอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2552 ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ในวันจันทร์ที่ 29 ธ.ค.นี้ เวลา 08.00 น.อีกด้วย

ชี้เข้ายินดีประวิตรเป็นธรรมเนียม
พล.อ.อ. อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ.กล่าวถึงกรณีที่ทหารตบเท้าเข้ายินดีกับ พล.อ.อ.ประวิตร ว่าเป็นธรรมเนียบของทหารว่าหากอดีตผู้บังคับบัญชาได้รับตำแหน่ง หรือโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งสำคัญเราก็จะไปแสดงความยินดี ไม่มีผลต่างตอบแทนเพราะทหารเราปฏิบัติตามกรอบภารกิจ ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน
ส่าวนพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อ ครม.นั้น พล.อ.อ.อิทธพร กล่าวว่า พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้ช่วยกันทำให้บ้านเมืองสงบสุข ดังนั้น ทุกคนต้องน้อมรับไปปฏิบัติให้ได้ ที่ผ่านมาเรามีข้อขัดแย้งค่อนข้างมาก ประเทศชาติเราอาจจะต้องเผชิญปัญหามากมายในอนาคตเช่นเศรษฐกิจและเรื่องที่เกิดในอดีตคงไม่มีใครอยากให้เกิดอีก ช่วยกันรักษาไม่ให้เกิดอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น