ททท. เปิดตลาดนัดออนไลน์ผุดโครงการ ซุปเปอร์ดีล – ไฟน์ ไทยแลนด์ เบส ดีล แพกเกจ เปิดทางผู้ซื้อพบผู้ขาย ผ่านเว็บไซน์ ส่วนสำนักงานสตอกโฮล์ม ผนึก 3 นิตยสารท่องเที่ยว ตีพิมพ์ ฉบับพิเศษ“Thailand” โปรโมทประเทศไทย ชูแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เจาะฐานลูกค้าใหม่ และ กลุ่มมาซ้ำ
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ททท. ได้จัดโครงการ ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ดีล – ไฟน์ ไทยแลนด์ เบส ดีล แพกเกจ โดยเปิดตลาดนัดออนไลน์จากวันนี้ถึง 31 มี.ค.52 โดย เป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์รายการนำเที่ยว ห้องพัก และ สินค้าบริการทางการท่องเที่ยวอื่นๆ เข้ามาใช้บริการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเวทีนี้ จะเป็นสื่อกลางผู้ซื้อพบผู้ขายโดยตรง และเมื่อเห็นสินค้ายกขบวนมาลดราคา จะกระตุ้นให้ นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อ และเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หากเสียงตอบรับดีจะต่ออายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ออนไลน์ ไครซิส เมเนจเม้นท์ หรือการบริหารจัดการผ่านช่องทางออนไลน์ในสถานการณ์วิกฤติ โดยในภาวะที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ จะใช้เป็นช่องทาง การตลาด โดยผู้ประกอบการที่สนใจ ส่งรายละเอียดโปรโมชั่นพิเศษมาได้ที่ tourism@tat.or.th หรือโทรสาร 026528206 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถแก้ไขรายละเอียดโปรโมชั่นที่เปลี่ยนแปลงได้
ทางด้านนายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสตอกโฮล์ม ดูแลนักท่องเที่ยวในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนิตยสารท่องเที่ยว ชั้นนำ 3 ฉบับ ได้แก่ นิตยสาร Vagabond นิตยสาร Resa Aftonbladet ประเทศสวีเดน และนิตยสาร Vegabond Rejs ประเทศเดนมาร์ก ร่วมกันจัดทำ นิตยสารฉบับพิเศษ “Thailand”เพื่อเผยแพร่ให้แก่นักท่องเที่ยวในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประจำเดือน ธันวาคม 2551 และ มกราคม 2552 โดยมีจุดประสงค์ เพื่อตอกย้ำความนิยมประเทศไทยของชาวสแกนดิเนเวีย ให้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ นิตยสารทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว มียอดพิมพ์รวมกันทั้งสิ้น 235,000 เล่ม มีจำนวนผู้อ่านประมาณ 1 ล้านคน โดยเนื้อหาในนิตยสารฉบับพิเศษครั้งนี้ได้นำเสนอเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ในหลายแง่มุม เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต พร้อม กิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลาก หลาย เหมาะกับชาวสแกนดิเนเวีย ทั้งที่เคยเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว และ ที่ยังไม่เคยมา โดยแต่ละปี ชาวสแกนฯที่มาซ้ำคิดเป็นสัดส่วน 60% ของนักท่องเที่ยวชาวแสกนฯทั้งหมดที่มาไทย
“ โครงการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระจายนักท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคต่างๆ อย่างทั่วถึง และ ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ก่อให้เกิดการใช้จ่าย เงินหมุนเวียน และ เพิ่มวันพักเฉลี่ยได้นานขึ้น “
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสแกนดิเนเวีย เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เดินทางกันเป็นครอบครัว มีวันพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15 วัน และจากสถิติปี 2550 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย (สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์) และฟินแลนด์ จำนวน 757,734 คน จากจำนวนประชากรรวม 24 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้ปีละ 43,000 ล้านบาท สำหรับปี 2551 จาก ผลกระทบจากวิกฤตการเมืองในประเทศไทย ทำให้ช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค. ตลาดสแกนดิเนเวีย ลดลงประมาณ 20% น้อยกว่าตลาดอื่นๆ และ ยังฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว และ เริ่มมียอดบุ๊คกิ้งใหม่ๆ เข้ามาทดแทน ซึ่งส่วนใหญ่ โดยสารมากับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่ง ททท.พยายามรักษาตลาดนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศนี้ไว้ต่อไปในปี 2552
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า ททท. ได้จัดโครงการ ไทยแลนด์ ซุปเปอร์ดีล – ไฟน์ ไทยแลนด์ เบส ดีล แพกเกจ โดยเปิดตลาดนัดออนไลน์จากวันนี้ถึง 31 มี.ค.52 โดย เป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์รายการนำเที่ยว ห้องพัก และ สินค้าบริการทางการท่องเที่ยวอื่นๆ เข้ามาใช้บริการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเวทีนี้ จะเป็นสื่อกลางผู้ซื้อพบผู้ขายโดยตรง และเมื่อเห็นสินค้ายกขบวนมาลดราคา จะกระตุ้นให้ นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อ และเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย หากเสียงตอบรับดีจะต่ออายุโครงการ
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ออนไลน์ ไครซิส เมเนจเม้นท์ หรือการบริหารจัดการผ่านช่องทางออนไลน์ในสถานการณ์วิกฤติ โดยในภาวะที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ จะใช้เป็นช่องทาง การตลาด โดยผู้ประกอบการที่สนใจ ส่งรายละเอียดโปรโมชั่นพิเศษมาได้ที่ tourism@tat.or.th หรือโทรสาร 026528206 ซึ่งผู้ประกอบการสามารถแก้ไขรายละเอียดโปรโมชั่นที่เปลี่ยนแปลงได้
ทางด้านนายมานิตย์ บุญฉิม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสตอกโฮล์ม ดูแลนักท่องเที่ยวในกลุ่มสแกนดิเนเวีย เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนิตยสารท่องเที่ยว ชั้นนำ 3 ฉบับ ได้แก่ นิตยสาร Vagabond นิตยสาร Resa Aftonbladet ประเทศสวีเดน และนิตยสาร Vegabond Rejs ประเทศเดนมาร์ก ร่วมกันจัดทำ นิตยสารฉบับพิเศษ “Thailand”เพื่อเผยแพร่ให้แก่นักท่องเที่ยวในกลุ่มสแกนดิเนเวีย ประจำเดือน ธันวาคม 2551 และ มกราคม 2552 โดยมีจุดประสงค์ เพื่อตอกย้ำความนิยมประเทศไทยของชาวสแกนดิเนเวีย ให้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ นิตยสารทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว มียอดพิมพ์รวมกันทั้งสิ้น 235,000 เล่ม มีจำนวนผู้อ่านประมาณ 1 ล้านคน โดยเนื้อหาในนิตยสารฉบับพิเศษครั้งนี้ได้นำเสนอเรื่องราวของสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ในหลายแง่มุม เช่น ศิลปะ วัฒนธรรม วิถีชีวิต พร้อม กิจกรรมการท่องเที่ยวที่หลาก หลาย เหมาะกับชาวสแกนดิเนเวีย ทั้งที่เคยเดินทางเข้ามาประเทศไทยแล้ว และ ที่ยังไม่เคยมา โดยแต่ละปี ชาวสแกนฯที่มาซ้ำคิดเป็นสัดส่วน 60% ของนักท่องเที่ยวชาวแสกนฯทั้งหมดที่มาไทย
“ โครงการนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระจายนักท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคต่างๆ อย่างทั่วถึง และ ขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ก่อให้เกิดการใช้จ่าย เงินหมุนเวียน และ เพิ่มวันพักเฉลี่ยได้นานขึ้น “
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสแกนดิเนเวีย เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เดินทางกันเป็นครอบครัว มีวันพักเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15 วัน และจากสถิติปี 2550 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย (สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์) และฟินแลนด์ จำนวน 757,734 คน จากจำนวนประชากรรวม 24 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้ปีละ 43,000 ล้านบาท สำหรับปี 2551 จาก ผลกระทบจากวิกฤตการเมืองในประเทศไทย ทำให้ช่วงเดือนธ.ค.-ม.ค. ตลาดสแกนดิเนเวีย ลดลงประมาณ 20% น้อยกว่าตลาดอื่นๆ และ ยังฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว และ เริ่มมียอดบุ๊คกิ้งใหม่ๆ เข้ามาทดแทน ซึ่งส่วนใหญ่ โดยสารมากับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่ง ททท.พยายามรักษาตลาดนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศนี้ไว้ต่อไปในปี 2552