ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - 3 ผู้นำองค์กรธุรกิจเอกชนเมืองพ่อขุนฯรับวันนี้ยังมองไม่เห็นทางออกวิกฤตการเมืองไทย เชื่อ 2 ฝ่ายยังไม่ยอมรามือ ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศยังมีต่อเนื่อง เผยเฉพาะท่องเที่ยวยอดจองทัวร์-ห้องพักหายไปกว่า 50% หวังไฮซีซันจะดีขึ้นบ้างเท่านั้น
นายเจริญชัย แย้มแขไข ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรีที่พ้นตำแหน่งออกไปว่า วิกฤติการเมืองรอบนี้หนักหนามาก และมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างหนัก แม้จะได้ตัวนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นที่ถูกใจคนทั้งหมดก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นคืนได้ในเร็ววัน
ส่วนข้อเสนอแนะของภาคเอกชนนั้นได้กระทำกันมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล ในการหาทางออกเกี่ยวกับคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ก็คงเสนอแนะลำบาก เพราะอำนาจอยู่ในมือของคนฝ่ายหนึ่งอยู่แล้วคงไปบอกอะไรมากไม่ได้อีกแล้ว จึงต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ด้าน นายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานคณะกรรมการเพื่อโครงการสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจหอการค้า 10 จังหวัดภาคเหนือ (คศส.) และประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า วิกฤติการเมืองที่ผ่านมาได้ส่งกระทบอย่างมหาศาลโดยเฉพาะต่อธุรกิจการท่องเที่ยวที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของภาคเศรษฐกิจในภูมิภาค เพราะต้องการนักท่องเที่ยวให้ไปเยือนตั้งแต่ต้นฤดูการท่องเที่ยวหรือปลายฤดูหนาวนี้เป็นต้นไปแต่ปรากฎว่ากลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด เพราะเศรษฐกิจและการเมืองของไทยกำลังตกหลุมดำที่ยากจะฝ่าออกมาได้ง่ายๆ
“หากเป็นวิกฤตเศรษฐกิจเราอาจใช้บทเรียนจากประเทศลาตินอเมริกามาช่วยแก้ไขได้ แต่สำหรับวิกฤติทางการเมืองเป็นเรื่องยากเพราะทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน”
ด้านการแก้ไขปัญหา คงต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะปัญหาในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่อยู่ที่ฝ่ายการเมืองทั้งสองฝ่ายเป็นสำคัญ โดยในระยะเวลาอันใกล้นี้คงไม่มีการเจรจาหรือประณีประณอมกันแน่นอน ต้องใช้เวลาอันยาวนานกว่านี้มาก ซึ่งกว่าจะถึงจุดนั้นเราคงจะประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจไปเรื่อยๆ จนบ้านเมืองบอบช้ำหนักเข้าจึงจะทำให้ทุกฝ่ายรู้สำนึกตัวว่าได้กระทำสิ่งที่ทำให้บ้านเมืองเสียหายไปแล้ว จากนั้นจึงค่อยมีการรื้อฟื้นการเจรจาเพื่อการประณีประณอมกันต่อไป
แต่สำหรับในระยะสั้นนี้ตนเห็นว่าไม่มีทางออกแน่นอน เพราะกลุ่มการเมืองทั้งสองฝ่ายจะไม่มีฝ่ายใดชนะโดยเบ็ตเสร็จเด็ดขาด แต่จะรุกรับกันไปเรื่อยๆ ขณะที่ภาคเศรษฐกิจพังพินาศอย่างไม่หยุดยั้ง
ขณะที่ นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมสมาพันธ์การท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด และนายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเชียงราย และภูมิภาค โดยเฉพาะภาคเหนือก็ได้รับผลกระทบหนักแม้จะไม่ใช่พื้นที่เป้าหมายหลักในการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ แต่เนื่องจากภาพข่าวจากประเทศไทยถูกเผยแพร่ไปตามสื่อทั่วโลก จึงทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางไปเยือนภาคเหนือและประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เชื่อว่ายอดการยกเลิกจากการจองทัวร์และห้องพักลดฮวบลงมากกว่า 50% แล้ว
ดังนั้น ภาคเอกชนจึงพยายามประคับประคองธุรกิจให้สามารถอยู่ได้ด้วยการลดราคาจากช่วงไฮซีซันลงประมาณ 20-40% และหวังว่า เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเยือนภาคเหนือเป็นจำนวนมาก สถานการณ์จะกระเตื้องขึ้น-วิกฤตการเมืองจะทุเลาลง
“ปัจจุบัน ททท.เล็งเห็นความสำคัญ และเห็นถึงสภาพปัญหาที่ผู้ประกอบการได้รับ จึงมีนโยบายเพิ่มการท่องเที่ยวด้วยการส่งเสริมให้ทุกจังหวัด ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา ซึ่งที่ จ.เชียงราย มีพร้อมอยู่แล้ว คือ โครงการไหว้พระธาตุเก้าจอม ซึ่งสมาคมจะเร่งผลักดัน เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ต่อไป”