xs
xsm
sm
md
lg

กองเกาหลีใต้รีเทิร์น KTAMยืนยันยิลด์สูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการ – กองทุนปรับเกมรับมือแบงก์ชาติลดอัตราดอกเบี้ย เบนเข็มขนเงินกลับไปลงทุนในเกาหลีใต้ต่อแม้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยยังมีน้อย เหตุอัตราผลตอบแทนยังสูงกว่าในประเทศ ล่าสุด "บลจ.กรุงไทย"รับบทหัวหมู่ทะลวงฟัน ขันอาสาเป็นรายแรกในการนำเสนอ ยืนยันแดนกิมจิมีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำกว่า โดยล่าสุดเปิดขายหน่วยลงทุน KTSUP3M5 ลุยพันธบัตรแดนโสมที่เครดิต A / A-1 /Stable Outlook ยิลด์ 3.80% ซึ่งมาพร้อมกับKTFIX6M3 ลุยพันธบัตรไทย ยิลด์2.10% เพื่อเป็นทางเลือก เปิดขายตั้งแต่วันนี้

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 9 – 16 ธันวาคม 2551 นี้ บริษัทเปิดขายกองทุนเพิ่มอีก 2 กองทุนประกอบด้วย 1. กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 (KTFIX6M3) และ 2. กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้3เดือน5 ( KTSUP3M5)

ทั้งนี้กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 6 เดือนคุ้มครองเงินต้น 3 มีอายุโครงการทั้งสิ้น 6 เดือน ด้วยมูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และเงินฝากสถาบันการเงิน ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในสัดส่วน 60% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝาก/บัตรเงินฝากของธนาคารไทยธนาคาร และธนาคารทิสโก้ อีกแห่งละ 20% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนประมาณการที่ 2.10% ต่อปี

สำหรับอัตราผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าวนั้นปรับลดลงค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับกองทุนที่เปิดจำหน่ายก่อนหน้านี้ เนื่องจาก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 2.75% ซึ่งปรับลดลงถึง 1.00% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรปรับลดลง 0.50% - 1.00% โดยพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 2.25-2.60% รุ่นที่มีอายุยาวจะมีอัตราผลตอบแทนต่ำกว่านี้ เนื่องจากตลาดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังมีโอกาสปรับลดได้อีกในการประชุม กนง.ครั้งหน้า

“จากการลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ อัตราผลตอบแทนเริ่มไม่จูงใจผู้ลงทุน บริษัทจึงได้เสาะแสวงหาทางเลือกให้กับลูกค้า จึงเห็นว่าพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำกว่าไทยเมื่อพิจารณาจากอันดับความน่าเชื่อถือ โดยอยู่ที่ A / A-1 /Stable Outlook โดย S&P และพันธบัตรภาครัฐในประเทศ อยู่ที่ BBB+ / A-2 / Negative Outlook โดย S&P” นายสมชัยกล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้3เดือน5 ( KTSUP3M5) มีอายุโครงการ 3 เดือน และมีมูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ในสัดส่วน 75% และลงทุนในเงินฝาก และบัตรเงินฝากของธนาคารทิสโกอีก 25% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้ผู้ลงทุนได้รับอัตราผลตอบแทนประมาณการที่ 3.80% ต่อปี และตราสารที่ลงทุนในต่างประเทศจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

ทั้งนี้ความเสี่ยงของพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ขึ้นอยู่กับฐานะการคลังของรัฐบาล ภาวะเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทเห็นว่าฐานะการคลัง ของเกาหลีใต้มีอัตราการก่อหนี้การคลังสุทธิ 33% ของ GDP ต่ำกว่าประเทศในกลุ่ม OECD ที่ส่วนใหญ่จะก่อหนี้อัตราสูงกว่า 60% ของ GDP และที่ผ่านฐานะการคลังยังคงเกินดุลต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นว่าประเทศมีความยืดหยุ่นเพียงพอที่จะใช้นโยบายการคลังขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก

ทำให้ เศรษฐกิจของเกาหลีใต้ในปัจจุบันยังมีความมั่นคงฐานะการคลังเกินดุลต่อเนื่อง อัตราการก่อหนี้สาธารณะต่ำ ทุนสำรองระหว่างประเทศสูง และเชื่อว่าเพียงพอต่อการชำระหนี้ต่างประเทศระยะสั้น มีสถานะที่ดีกว่าในช่วงวิกฤตการณ์ปี 2540 ค่อนข้างมาก โดยภาวะการณ์ในครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาเศรษฐกิจภายใน แต่เนื่องจากเกาหลีใต้มีระบบเศรษฐกิจแบบเปิดจึงหลีกเลี่ยงผลกระทบจากต่างประเทศไม่พ้น สำหรับความเสี่ยงด้านนโยบายการเงินระหว่างประเทศที่จะเกิดกับนักลงทุนต่างประเทศ เชื่อว่ามีค่อนข้างต่ำ ซึ่งที่ผ่านมาแม้ในช่วงวิกฤตเมื่อปี 2540 ประเทศเกาหลีใต้ไม่เคยประกาศห้ามเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ การลงทุนในพันธบัตรภาครัฐเกาหลีใต้ ของกองทุน KTSUP3M5 จะลงทุนในตราสารรุ่นที่มีอายุใกล้เคียงกับอายุกองทุน และมีการทำสัญญาซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าทั้งจำนวนให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดที่จะได้รับจากเงินลงทุน ดังนั้น จึงไม่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนในอนาคต ส่วนคู่สัญญาจะทำกับสถาบันการเงินที่มีความมั่นคงสูง

ด้าน นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด-กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ไอเอ็นจี (ประเทศไทย)จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนนั้น บริษัทมองว่าการลงทุนในพันธบัตรเกาหลีในขณะนี้มีความน่าสนใจที่จะเข้าไปลงทุน

ทั้งนี้ เมื่อนำผลตอบแทนในกลุ่มของพันธบัตรมาเปรีบยเทียบกัน จะพบว่าผลตอบแทนที่ได้รับในประเทศกับประเทศเกาหลีนั้นค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกันมาก โดยที่พันธบัตรเกาหลีให้ผลตอบแทน 6 เดือนอยู่ที่ 4% ขณะที่ผลตอบแทนตราสารหนี้ในประเทศไทย 6 เดือนให้ผลตอบแทนอยู่ที่เกือบ 3% ซึ่งถือว่าหากมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อไปลงทุนในต่างประเทศจะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในประเทศ ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาประเทศเกาหลีจะประสบกับปัญหาต่างๆมากมาย แต่สำหรับกองทุนของบริษัทที่เข้าไปลงทุนนั้น นักลงทุนต่างได้รับผลตอบแทนครบหมดทุกคน

"การลงทุนในช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีความเสี่ยง อีกทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจโลกหรือปัญหาภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ ดังนั้น หากจะมีการออกกองทุนที่ไปลงทุนในพันธบัตรจต่างประเทศจะต้องรอระยะเวลาเพื่อให้นักลงทุนมีความเชื่อใจในการบริหารและการลงทุนในต่างประเทศมากกว่านี้"นายต่อ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น