ผมตั้งใจจะส่งความเห็นนี้ไปถึงคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโดยเฉพาะ
ในฐานะคนหนุ่มรุ่นเดียวกัน แม้จะเทียบกับคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้ในทุกๆด้าน แต่ผมก็แอบหวังว่า คุณอภิสิทธิ์จะเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของสังคม เมื่อถึงยุคของคุณอภิสิทธิ์การเมืองบ้านเราจะกลายเป็นการเมืองอารยะไม่ใช่ยุคของนักเลือกตั้งอีกต่อไป
แต่บรรยากาศ 2-3 วันมานี้ ผมกลับเห็นคุณอภิสิทธิ์เป็นเพียงนักเลือกตั้งธรรมดาคนหนึ่ง
ตอนที่ทักษิณขึ้นมามีอำนาจใหม่เมื่อปี 2544 แล้วคุยโวจะเป็นรัฐบาล 4-5 สมัย ตอนนั้นผมเคยเขียนให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ต่อให้ทักษิณจะเป็นนายกฯสัก 20 ปี ก็ไม่สายเกินไปที่จะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต
เพราะหากนับจากสมัยแรกของทักษิณในปี 2544 ไปอีก 20 ปี ตอนนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็อายุราวๆ 59-60 ปี ประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่านวัยวันจะเคี่ยวกรำ ทำให้เขากลายเป็นสดมภ์หลักของสังคมไทยไม่ยาก
แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและการเมืองภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาฟาดฟันกับนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดิน แบบแลกด้วยชีวิต แบบตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง ทำให้โอกาสของคุณอภิสิทธิ์ไม่ต้องรออีก 20 ปีข้างหน้า และไม่ต้องรอแม้แต่อีก 3 ปีในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ด้วยเส้นทางของอำนาจวาสนาที่ไม่ต้องรอคอยไปอีกหลายปี และเกือบจะเอื้อมถึงในวันนี้นั้น ดูเหมือนว่า จะทำให้คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้ฉุกคิดว่า ตัวเองควรจะก้าวไปด้วยความสง่างาม หรือเดินตามเกมการเมืองที่นักการเมืองรุ่นพี่เขี้ยวลากดินอย่างคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ บันดาลให้เดิน
ไม่ผิดหรอกครับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศเป็นพันธสัญญาว่า ถ้านักการเมืองในระบอบทักษิณ และรัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดของระบอบทักษิณกลับมาอีก พันธมิตรฯก็จะฟื้นคืนชีพลุกขึ้นมาฟาดฟันกับระบอบทักษิณอีกรอบ และสังคมไม่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปสู่จุดนั้นอีก
ไม่ผิดหรอกครับ หากพรรคขั้วรัฐบาลเดิมไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำอันดับ 2 และอาจกลายเป็นพรรคเสียงข้างมากเพราะการแตกกระสานซ่านเซ็นของพรรคพลังประชาชน ก็จำเป็นอยู่ดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
แต่คำถามก็คือว่า พรรคประชาธิปัตย์จะรีบร้อนโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องว่า เรื่องคุณสมบัติของ ส.ส.สัดส่วน และแง่มุมทางกฎหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบเลยหรือ
คงต้องถามคุณอภิสิทธิ์ว่า ถ้าวันนี้กลุ่มเพื่อนเนวินไม่เปลี่ยนขั้วมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์คิดว่า ส.ส.สัดส่วน ซึ่งรวมถึงตัวนายชัย ชิดชอบ นั้นมีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาอยู่หรือไม่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคอื่นๆที่ถูกยุบแต่หันมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่
ผมจำได้ว่า ตอนที่ยุบพรรคใหม่ๆ และเกรงว่า พรรคพลังประชาชนเดิมจะถือโอกาสรวบรัดเปิดสภาเพื่อเลือกนายกฯใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีคำถามนี้ออกมาต่อสังคม แต่วันนี้คำถามและมาตรฐานนี้ของพรรคประชาธิปัตย์หายไปไหน
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคนักกฎหมาย หรือพรรคทนายจะไม่ตั้งคำถามหรือหาคำตอบเลยหรือว่า รัฐบาลที่ชอบธรรมนั้นจะต้องก้าวเดินเข้ามาด้วยครรลองที่ชอบธรรมด้วยหรือไม่
แล้วคิดหรือว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสร้างการเมืองใหม่จะยอมให้การเมืองน้ำเน่าเช่นนี้ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป
อย่าคิดเพียงว่า ปล่อยให้บ้านเมืองเกิดสูญญากาศไม่ได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง หรือคิดง่ายๆว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรก็ไม่ผิด แต่ถ้าพรรคการเมืองอื่นทำก็จะเจอโวหารของพรรคประชาธิปัตย์ที่เต็มไปด้วยทนายความและนักโต้วาทีออกมาฟาดฟัน
ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์หยุดคิด และอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เดินไปตามครรลองที่ถูกต้อง มากกว่าเห็นภาพคุณอภิสิทธิ์ถือช่อกุหลาบแดงที่ซื้อมาจากต่างประเทศไปเว้าวอนขอเสียงสนับสนุนจากคุณบรรหาร และนายเนวิน
วันนี้การเปลี่ยนขั้วเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ดูจะกลายเป็นยอดปรารถนาของคนในสังคมส่วนหนึ่ง และนักธุรกิจใหญ่ๆในบ้านเมืองก็จริงอยู่ แต่ก้าวเดินสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีของคุณอภิสิทธิ์ต้องสง่างามกว่านี้และตอบคำถามของสังคมได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่มีตัวเลข ส.ส.ในมือ และละทิ้งคำถามที่ตัวเองและสังคมเคยถามเอาไว้เสียสิ้น
ก้าวเดินสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่บิดเบี้ยวและเสี่ยงต่อความผิดทางกฎหมายจะทำให้ชีวิตทางการเมืองของคุณอภิสิทธิ์สง่างามได้อย่างไร
ไม่เพียงแต่เรื่องความถูกต้องและความสง่างามที่จะดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในบ้านเมืองเราแล้ว การรับกลุ่มเนวินเข้ามายังมีคำถามอีกหลายอย่างที่คุณอภิสิทธิ์จะต้องตอบ โดยเฉพาะนโยบายเรื่อง NBT
พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์ก็รู้ว่า การเข้าไปยึดสัมปทาน NBT ของบริษัทที่มีเนวินอยู่เบื้องหลังนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบมาพากล คุณอภิสิทธิ์ต้องลองตอบคำถามนี้ก่อนว่า จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร หรือเพื่อแลกกับการหันมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์จะลืมปัญหานี้ไปเสียหมดสิ้น
แล้วกรณี NBT ก็เปลี่ยนจากผิดเป็นถูกทันทีในทัศนะของพรรคประชาธิปัตย์ หรือคิดเพียงว่า หลังจากนี้ NBT ซึ่งบริหารโดยกลุ่มเนวินจะกลายเป็นอาวุธมาสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นความถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องพูดถึงอีกต่อไป
พรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรกับโครงการต่างๆที่ส.ส.และรัฐมนตรีในกลุ่มนายเนวินทำไว้ และพรรคประชาธิปัตย์เคยเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องมาก่อน ยิ่งมีข่าวว่านายชัย พ่อบังเกิดเกล้าของเนวินจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์จะตอบคำถามอย่างไรเรื่องที่โกงที่ดินรถไฟที่พรรคเคยขุดคุ้ยขึ้นมาอภิปรายในสภาและโจมตีกลุ่มเนวินมาก่อน
หรือพรรคประชาธิปัตย์คิดว่า อำนาจวาสนา และผลประโยชน์ของแผ่นดินเป็นเรื่องของสมบัติผลัดกันชม วันนี้เมื่อกลุ่มเนวินหันมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ความผิดเหล่านั้นมลายหายไปหมดสิ้นแล้ว
หรือว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วอดอยากปากแห้ง
หรือว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของอาหลั่ยชำรุดทางการเมืองไทยที่สังคมและประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องการเมืองใหม่
ผมคิดว่า คุณอภิสิทธิ์ก็เป็นคนหนุ่มคนหนึ่งที่คิดอะไรดีๆ และแสวงหาเส้นทางการเมืองเพื่อสร้างประวัติชีวิตของตัวเองที่งดงาม ผมไม่รู้ว่า การกระโจนลงในบ่อโคลนเพื่อหวังเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น เพราะถูกพวกเขี้ยวลากดินในพรรคลากจูงไป หรือเพราะหลงในอำนาจวาสนาแบบด่วนได้
แต่ยังมีเวลาที่คุณอภิสิทธิ์จะใช้สติยั้งคิด
ผมจำได้ว่านายชัย ชิดชอบ เคยชมลูกชายตัวเองว่า มีคุณสมบัติและมาตรฐานไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณอภิสิทธิ์ ตอนนั้นใครๆก็ขำกับคำพูดของนายชัย
ไม่อยากเชื่อว่าวันนี้คุณอภิสิทธิ์กำลังทำให้คำพูดของนายชัยเป็นความจริง
surawhisky@gmail.com
ในฐานะคนหนุ่มรุ่นเดียวกัน แม้จะเทียบกับคุณอภิสิทธิ์ไม่ได้ในทุกๆด้าน แต่ผมก็แอบหวังว่า คุณอภิสิทธิ์จะเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของสังคม เมื่อถึงยุคของคุณอภิสิทธิ์การเมืองบ้านเราจะกลายเป็นการเมืองอารยะไม่ใช่ยุคของนักเลือกตั้งอีกต่อไป
แต่บรรยากาศ 2-3 วันมานี้ ผมกลับเห็นคุณอภิสิทธิ์เป็นเพียงนักเลือกตั้งธรรมดาคนหนึ่ง
ตอนที่ทักษิณขึ้นมามีอำนาจใหม่เมื่อปี 2544 แล้วคุยโวจะเป็นรัฐบาล 4-5 สมัย ตอนนั้นผมเคยเขียนให้กำลังใจคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่า ต่อให้ทักษิณจะเป็นนายกฯสัก 20 ปี ก็ไม่สายเกินไปที่จะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต
เพราะหากนับจากสมัยแรกของทักษิณในปี 2544 ไปอีก 20 ปี ตอนนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็อายุราวๆ 59-60 ปี ประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่านวัยวันจะเคี่ยวกรำ ทำให้เขากลายเป็นสดมภ์หลักของสังคมไทยไม่ยาก
แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและการเมืองภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาฟาดฟันกับนักการเมืองโกงชาติโกงแผ่นดิน แบบแลกด้วยชีวิต แบบตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง ทำให้โอกาสของคุณอภิสิทธิ์ไม่ต้องรออีก 20 ปีข้างหน้า และไม่ต้องรอแม้แต่อีก 3 ปีในการเลือกตั้งครั้งหน้า
ด้วยเส้นทางของอำนาจวาสนาที่ไม่ต้องรอคอยไปอีกหลายปี และเกือบจะเอื้อมถึงในวันนี้นั้น ดูเหมือนว่า จะทำให้คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้ฉุกคิดว่า ตัวเองควรจะก้าวไปด้วยความสง่างาม หรือเดินตามเกมการเมืองที่นักการเมืองรุ่นพี่เขี้ยวลากดินอย่างคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ บันดาลให้เดิน
ไม่ผิดหรอกครับที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศเป็นพันธสัญญาว่า ถ้านักการเมืองในระบอบทักษิณ และรัฐบาลนอมินีหุ่นเชิดของระบอบทักษิณกลับมาอีก พันธมิตรฯก็จะฟื้นคืนชีพลุกขึ้นมาฟาดฟันกับระบอบทักษิณอีกรอบ และสังคมไม่ต้องการให้บ้านเมืองเดินไปสู่จุดนั้นอีก
ไม่ผิดหรอกครับ หากพรรคขั้วรัฐบาลเดิมไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำอันดับ 2 และอาจกลายเป็นพรรคเสียงข้างมากเพราะการแตกกระสานซ่านเซ็นของพรรคพลังประชาชน ก็จำเป็นอยู่ดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล
แต่คำถามก็คือว่า พรรคประชาธิปัตย์จะรีบร้อนโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องว่า เรื่องคุณสมบัติของ ส.ส.สัดส่วน และแง่มุมทางกฎหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบเลยหรือ
คงต้องถามคุณอภิสิทธิ์ว่า ถ้าวันนี้กลุ่มเพื่อนเนวินไม่เปลี่ยนขั้วมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ คุณอภิสิทธิ์คิดว่า ส.ส.สัดส่วน ซึ่งรวมถึงตัวนายชัย ชิดชอบ นั้นมีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาอยู่หรือไม่ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน และพรรคอื่นๆที่ถูกยุบแต่หันมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์มีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่
ผมจำได้ว่า ตอนที่ยุบพรรคใหม่ๆ และเกรงว่า พรรคพลังประชาชนเดิมจะถือโอกาสรวบรัดเปิดสภาเพื่อเลือกนายกฯใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ก็มีคำถามนี้ออกมาต่อสังคม แต่วันนี้คำถามและมาตรฐานนี้ของพรรคประชาธิปัตย์หายไปไหน
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคนักกฎหมาย หรือพรรคทนายจะไม่ตั้งคำถามหรือหาคำตอบเลยหรือว่า รัฐบาลที่ชอบธรรมนั้นจะต้องก้าวเดินเข้ามาด้วยครรลองที่ชอบธรรมด้วยหรือไม่
แล้วคิดหรือว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสร้างการเมืองใหม่จะยอมให้การเมืองน้ำเน่าเช่นนี้ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป
อย่าคิดเพียงว่า ปล่อยให้บ้านเมืองเกิดสูญญากาศไม่ได้ โดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง หรือคิดง่ายๆว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรก็ไม่ผิด แต่ถ้าพรรคการเมืองอื่นทำก็จะเจอโวหารของพรรคประชาธิปัตย์ที่เต็มไปด้วยทนายความและนักโต้วาทีออกมาฟาดฟัน
ผมอยากให้คุณอภิสิทธิ์หยุดคิด และอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เดินไปตามครรลองที่ถูกต้อง มากกว่าเห็นภาพคุณอภิสิทธิ์ถือช่อกุหลาบแดงที่ซื้อมาจากต่างประเทศไปเว้าวอนขอเสียงสนับสนุนจากคุณบรรหาร และนายเนวิน
วันนี้การเปลี่ยนขั้วเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ดูจะกลายเป็นยอดปรารถนาของคนในสังคมส่วนหนึ่ง และนักธุรกิจใหญ่ๆในบ้านเมืองก็จริงอยู่ แต่ก้าวเดินสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีของคุณอภิสิทธิ์ต้องสง่างามกว่านี้และตอบคำถามของสังคมได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแค่มีตัวเลข ส.ส.ในมือ และละทิ้งคำถามที่ตัวเองและสังคมเคยถามเอาไว้เสียสิ้น
ก้าวเดินสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีที่บิดเบี้ยวและเสี่ยงต่อความผิดทางกฎหมายจะทำให้ชีวิตทางการเมืองของคุณอภิสิทธิ์สง่างามได้อย่างไร
ไม่เพียงแต่เรื่องความถูกต้องและความสง่างามที่จะดำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในบ้านเมืองเราแล้ว การรับกลุ่มเนวินเข้ามายังมีคำถามอีกหลายอย่างที่คุณอภิสิทธิ์จะต้องตอบ โดยเฉพาะนโยบายเรื่อง NBT
พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์ก็รู้ว่า การเข้าไปยึดสัมปทาน NBT ของบริษัทที่มีเนวินอยู่เบื้องหลังนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ชอบมาพากล คุณอภิสิทธิ์ต้องลองตอบคำถามนี้ก่อนว่า จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร หรือเพื่อแลกกับการหันมาสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์จะลืมปัญหานี้ไปเสียหมดสิ้น
แล้วกรณี NBT ก็เปลี่ยนจากผิดเป็นถูกทันทีในทัศนะของพรรคประชาธิปัตย์ หรือคิดเพียงว่า หลังจากนี้ NBT ซึ่งบริหารโดยกลุ่มเนวินจะกลายเป็นอาวุธมาสนับสนุนรัฐบาล ดังนั้นความถูกต้องหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องพูดถึงอีกต่อไป
พรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรกับโครงการต่างๆที่ส.ส.และรัฐมนตรีในกลุ่มนายเนวินทำไว้ และพรรคประชาธิปัตย์เคยเห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องมาก่อน ยิ่งมีข่าวว่านายชัย พ่อบังเกิดเกล้าของเนวินจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย พรรคประชาธิปัตย์และคุณอภิสิทธิ์จะตอบคำถามอย่างไรเรื่องที่โกงที่ดินรถไฟที่พรรคเคยขุดคุ้ยขึ้นมาอภิปรายในสภาและโจมตีกลุ่มเนวินมาก่อน
หรือพรรคประชาธิปัตย์คิดว่า อำนาจวาสนา และผลประโยชน์ของแผ่นดินเป็นเรื่องของสมบัติผลัดกันชม วันนี้เมื่อกลุ่มเนวินหันมาสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ความผิดเหล่านั้นมลายหายไปหมดสิ้นแล้ว
หรือว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วอดอยากปากแห้ง
หรือว่า พรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของอาหลั่ยชำรุดทางการเมืองไทยที่สังคมและประชาชนต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องการเมืองใหม่
ผมคิดว่า คุณอภิสิทธิ์ก็เป็นคนหนุ่มคนหนึ่งที่คิดอะไรดีๆ และแสวงหาเส้นทางการเมืองเพื่อสร้างประวัติชีวิตของตัวเองที่งดงาม ผมไม่รู้ว่า การกระโจนลงในบ่อโคลนเพื่อหวังเก้าอี้นายกรัฐมนตรีนั้น เพราะถูกพวกเขี้ยวลากดินในพรรคลากจูงไป หรือเพราะหลงในอำนาจวาสนาแบบด่วนได้
แต่ยังมีเวลาที่คุณอภิสิทธิ์จะใช้สติยั้งคิด
ผมจำได้ว่านายชัย ชิดชอบ เคยชมลูกชายตัวเองว่า มีคุณสมบัติและมาตรฐานไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณอภิสิทธิ์ ตอนนั้นใครๆก็ขำกับคำพูดของนายชัย
ไม่อยากเชื่อว่าวันนี้คุณอภิสิทธิ์กำลังทำให้คำพูดของนายชัยเป็นความจริง
surawhisky@gmail.com