นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การชุมนุมปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวดอนเมือง มาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่รัฐบาลละเลยทั้งที่อยู่ในความรับผิดชอบ ผู้ชุมนุมจึงเกิดความคับแค้นใจจนนำมาสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน ส่วนที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อควบคุม สถานการณ์นั้น ถือว่าเป็นสิทธิที่รัฐบาลจะทำได้ แต่ต้องดูด้วยว่ามาตรการที่ออกมา รัฐบาลใช้แก้ปัญหาอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราได้บทเรียนจากเรื่องนี้มาแล้ว ดังนั้น จุดที่ต้องพยายามหลีกเลี่ยงคือ ความรุนแรง
ต้องยอมรับว่า การเกิดสภาพเช่นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความโกรธแค้น อันเนื่องมาจากมีเหตุระเบิดและมีผู้เสียชีวิตติดต่อกัน 2-3 คืน ซึ่งในช่วงนั้นเห็นได้ชัดว่า มีความเครียดแค้นกันมาก เพราะดูเหมือนว่า รัฐบาลรู้เห็นเป็นใจ ละเลย ทั้งๆ ที่มีผู้ประกาศแล้วว่าจะเกิดเหตุขึ้น แต่ไม่มีใครไปแสดงความห่วงใยและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
นายชวน กล่าวว่ารัฐบาลจะชอบหรือไม่ชอบกลุ่มไหน ก็ต้องดูแลทุกกลุ่ม เลือกปฏิบัติไม่ได้ แต่เมื่อมีการละเลยในเรื่องนี้ เราจึงเสนอความเห็นว่า อย่าไปเรียกร้องทหาร เพราะการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเป็นเรื่องของตำรวจ ดังนั้น เป็นโอกาสดีที่ตำรวจจะได้แสดงศักยภาพ ความสามารถในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้การปล่อยให้ทหารเข้ามาดูแลปัญหาถือว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องความมั่นคง แต่เป็นเรื่องโจรผู้ร้ายและความไม่สงบเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เข้ามาดูแลสถานการณ์ ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทหารเข้ามาดูแล นายชวน กล่าวว่า ความจริงแล้วตำรวจเป็นผู้มีหน้าที่หลักในการดูแล แต่ที่ผ่านมาองค์กรทั้ง 2 องค์กรอาจจะละเลยไปหลายช่วง จึงเป็นเรื่องที่ดี ที่ตำรวจจะแสดงศักยภาพ เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงที่จะให้ทหารเข้ามา เพราะจะเกิดความสูญเสียมาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ถือเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ผู้ปฏิบัติต้องมีความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ว่าจะสามารถจัดการบริหารให้เป็นไปตามเป้าหมายได้หรือไม่ และอย่าทำให้เกิดความเสียหายกับสนามบิน และที่สำคัญคือ อย่าแก้ปัญหาตรงนี้แล้ว ไปเกิดปัญหาตรงจุดอื่น ซึ่งตนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่
สิ่งที่อยากย้ำคือ สถานการณ์ในวันนี้คงไม่ใช่มีเป้าหมายเพียงแค่ว่า ทำอย่างไรจะเปิดสนามบิน แต่รัฐบาลต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมือง กลับเข้าสู่ภาวะที่สงบสุขเรียบร้อยได้ ซึ่งการเจรจายังเป็นช่องทางเดียวที่จะนำความสงบสุขมาสู่บ้านเมืองได้ ผมมองไม่เห็นว่าจะมีวิธีการอื่น และสิ่งที่รัฐบาลจะต้องไม่ทำโดยอันขาดก็คือ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ยั่วยุให้เหตุการณ์ ลุกลามบานปลาย รุนแรง และสูญเสียประชาธิปไตย ขณะนี้ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่ารักษาประชาธิปไตยนั้น กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะยังมีการระดมมวลชนเข้ามาจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่ความวุ่นวายมากขึ้น
ส่วนที่ที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนเคลื่อนไหวให้ปลดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.บก.นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดว่าเรื่องสำคัญอยู่ที่ใครจะถูกปลด หรือไม่ แม้แต่ ผบ.เหล่าทัพ หากเป็นการปลดย้ายตามกฎหมาย ก็ต้องยอมรับ เพราะปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะปล่อยให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะที่คนไทยฆ่ากันเองไปเรื่อย ๆ หรือไม่ การที่นายกฯแถลงเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ย้ำว่าต้องบังคับใช้กฎหมาย ก็จะต้องดำเนินการให้ทั่วถึงเสมอภาคทุกเหตุการณ์
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่แสดงความรับผิดชอบแล้วแปลว่าไม่รักษาประชาธิปไตย ผมอยากให้นายกฯดูญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตย ที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง และมีนายกฯกี่คนแล้วที่ลาออก หรือยุบสภา แต่คนเหล่านั้นไม่ได้ไม่รักษาประชาธิปไตย และในทางตรงกันข้ามคนเหล่านั้นคือ คนที่ทำให้ประชาธิปไตยในญี่ปุ่นมีความต่อเนื่อง เพราะเมื่อใดที่บ้านเมืองไม่สงบ รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดังนั้นอย่าเอาข้ออ้างเรื่องรักษาประชาธิปไตยมาอ้างผิด ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนารมณ์ของรัฐบาลจงใจให้มีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีความวิตกมากที่ ส.ส.รัฐบาลบางคนสนับสนุน ให้มีการระดมคนเข้ามาและมีอาวุธด้วย แต่นายกฯไม่ดำเนินการอะไร อย่างน้อย ควรต้องดำเนินการในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อไม่ให้มีการใช้อาวุธหรือพูดถึง การสนับสนุนความรุนแรง
ผมเชื่อว่าคนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการปฏิวัติรัฐประหารในขณะนี้คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เกิด เหตุการณ์นี้ หากเกิด แสดงว่ารัฐบาลจงใจเพื่อที่จะช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปตย์ กล่าวว่าการที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เป็นผบ.สถานการณ์ แสดงให้เห็นว่า นายกฯ ไม่ไว้วางใจฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเหล่าทัพต่าง ๆ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าการใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินครั้งนี้อาจทำให้เกิดความรุนแรงได้ เพราะผู้รับผิดชอบที่นายกฯมอบหมาย คือ พล.ต.อ.โกวิท ซึ่งเป็นผู้นิยมความรุนแรง และเป็นตำรวจสายเหยี่ยว ที่ใช้กำลังจากตำรวจ เพื่อสลายการชุมนุมเป็นหลัก รวมทั้งให้ทหารเรือ และทหารอากาศ มาเป็นผู้ช่วย
อยากถามว่า แล้วทหารบกที่เป็นกำลังหลักของประเทศไทยหายไปไหน แสดงว่าการนำเสนอมติ คตร. โดย ผบ.ทบ.ที่ให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อแก้วิกฤต เป็นมติที่ไม่สามารถทำให้นายกฯ นำไปปฏิบัติได้ ทั้งนี้ หากรัฐบาลเห็นว่า ตัวผบ.ทบ. ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ก้าวล่วงทางการเมือง ต่อนายกฯ ก็จะต้องดำเนินการ ทางวินัยราชการ รวมไปถึงข้าราชการ ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี อธิการบดี และดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อประธานหอการค้า และนักธุรกิจ ประมาณ 200 คน ที่ร่วมประชุมในวันนั้น ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ทบทวนบทบาท และแสดงออกถึงการต่อต้านอำนาจของรัฐบาล โดยการบอตคอตไม่สังฆกรรมกับรัฐบาลในทุกกรณี เพื่อเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองให้รัฐบาลเกิดความสำนึก
นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่แถลงข่าวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ในฐานะเป็นคนนครศรีธรรมราช ต้องการเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ลาออก เพราะขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีความตึงเครียดมาก
ในฐานะเป็นคนบ้านเดียวกัน เมื่อเกิดวิกฤติขนาดนี้ อยากขอร้องให้นายกฯ พิจารณาตัวเองด้วยการลาออก เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนนครฯ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง เสียหาย เพราะขนาด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่มีคะแนนนิยมจากประชาชนสูงมาก ยังเคยตัดสินใจยุบสภาฯ มาแล้ว อยากจะให้ตัดสินใจโดยเร็ว เพราะเวลานี้ยังมองไม่เห็นเลยว่าปัญหาจะยุติอย่างไร
นายสัมพันธ์ กล่าวว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีมีทางเลือก 2 ทาง คือยุบสภาฯ เพื่อให้เลือกตั้งใหม่ หรือลาออกเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขณะที่นายสมชาย ยังเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าหากนายสมชาย ลาออก ปัญหาจะยุติ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม และพันธมิตรฯ ควรเคารพกับสิ่งที่ตัวเองประกาศไว้
ต้องยอมรับว่า การเกิดสภาพเช่นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความโกรธแค้น อันเนื่องมาจากมีเหตุระเบิดและมีผู้เสียชีวิตติดต่อกัน 2-3 คืน ซึ่งในช่วงนั้นเห็นได้ชัดว่า มีความเครียดแค้นกันมาก เพราะดูเหมือนว่า รัฐบาลรู้เห็นเป็นใจ ละเลย ทั้งๆ ที่มีผู้ประกาศแล้วว่าจะเกิดเหตุขึ้น แต่ไม่มีใครไปแสดงความห่วงใยและระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย
นายชวน กล่าวว่ารัฐบาลจะชอบหรือไม่ชอบกลุ่มไหน ก็ต้องดูแลทุกกลุ่ม เลือกปฏิบัติไม่ได้ แต่เมื่อมีการละเลยในเรื่องนี้ เราจึงเสนอความเห็นว่า อย่าไปเรียกร้องทหาร เพราะการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในเป็นเรื่องของตำรวจ ดังนั้น เป็นโอกาสดีที่ตำรวจจะได้แสดงศักยภาพ ความสามารถในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้การปล่อยให้ทหารเข้ามาดูแลปัญหาถือว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่ใช่เรื่องความมั่นคง แต่เป็นเรื่องโจรผู้ร้ายและความไม่สงบเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เข้ามาดูแลสถานการณ์ ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ทหารเข้ามาดูแล นายชวน กล่าวว่า ความจริงแล้วตำรวจเป็นผู้มีหน้าที่หลักในการดูแล แต่ที่ผ่านมาองค์กรทั้ง 2 องค์กรอาจจะละเลยไปหลายช่วง จึงเป็นเรื่องที่ดี ที่ตำรวจจะแสดงศักยภาพ เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงที่จะให้ทหารเข้ามา เพราะจะเกิดความสูญเสียมาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ถือเป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย แต่ผู้ปฏิบัติต้องมีความระมัดระวังอย่างเต็มที่ ว่าจะสามารถจัดการบริหารให้เป็นไปตามเป้าหมายได้หรือไม่ และอย่าทำให้เกิดความเสียหายกับสนามบิน และที่สำคัญคือ อย่าแก้ปัญหาตรงนี้แล้ว ไปเกิดปัญหาตรงจุดอื่น ซึ่งตนก็เห็นใจเจ้าหน้าที่
สิ่งที่อยากย้ำคือ สถานการณ์ในวันนี้คงไม่ใช่มีเป้าหมายเพียงแค่ว่า ทำอย่างไรจะเปิดสนามบิน แต่รัฐบาลต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมือง กลับเข้าสู่ภาวะที่สงบสุขเรียบร้อยได้ ซึ่งการเจรจายังเป็นช่องทางเดียวที่จะนำความสงบสุขมาสู่บ้านเมืองได้ ผมมองไม่เห็นว่าจะมีวิธีการอื่น และสิ่งที่รัฐบาลจะต้องไม่ทำโดยอันขาดก็คือ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่ยั่วยุให้เหตุการณ์ ลุกลามบานปลาย รุนแรง และสูญเสียประชาธิปไตย ขณะนี้ สิ่งที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่ารักษาประชาธิปไตยนั้น กลับเป็นไปในทางตรงกันข้าม เพราะยังมีการระดมมวลชนเข้ามาจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่ความวุ่นวายมากขึ้น
ส่วนที่ที่ส.ส.พรรคพลังประชาชนเคลื่อนไหวให้ปลดพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.บก.นั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดว่าเรื่องสำคัญอยู่ที่ใครจะถูกปลด หรือไม่ แม้แต่ ผบ.เหล่าทัพ หากเป็นการปลดย้ายตามกฎหมาย ก็ต้องยอมรับ เพราะปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะปล่อยให้บ้านเมืองเข้าสู่ภาวะที่คนไทยฆ่ากันเองไปเรื่อย ๆ หรือไม่ การที่นายกฯแถลงเมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ย้ำว่าต้องบังคับใช้กฎหมาย ก็จะต้องดำเนินการให้ทั่วถึงเสมอภาคทุกเหตุการณ์
รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่แสดงความรับผิดชอบแล้วแปลว่าไม่รักษาประชาธิปไตย ผมอยากให้นายกฯดูญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง เพราะเป็นประเทศประชาธิปไตย ที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง และมีนายกฯกี่คนแล้วที่ลาออก หรือยุบสภา แต่คนเหล่านั้นไม่ได้ไม่รักษาประชาธิปไตย และในทางตรงกันข้ามคนเหล่านั้นคือ คนที่ทำให้ประชาธิปไตยในญี่ปุ่นมีความต่อเนื่อง เพราะเมื่อใดที่บ้านเมืองไม่สงบ รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ต้องเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดังนั้นอย่าเอาข้ออ้างเรื่องรักษาประชาธิปไตยมาอ้างผิด ๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเจตนารมณ์ของรัฐบาลจงใจให้มีการปฏิวัติรัฐประหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีความวิตกมากที่ ส.ส.รัฐบาลบางคนสนับสนุน ให้มีการระดมคนเข้ามาและมีอาวุธด้วย แต่นายกฯไม่ดำเนินการอะไร อย่างน้อย ควรต้องดำเนินการในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อไม่ให้มีการใช้อาวุธหรือพูดถึง การสนับสนุนความรุนแรง
ผมเชื่อว่าคนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากการปฏิวัติรัฐประหารในขณะนี้คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังนั้นรัฐบาลไม่ควรปล่อยให้เกิด เหตุการณ์นี้ หากเกิด แสดงว่ารัฐบาลจงใจเพื่อที่จะช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปตย์ กล่าวว่าการที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย เป็นผบ.สถานการณ์ แสดงให้เห็นว่า นายกฯ ไม่ไว้วางใจฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะเหล่าทัพต่าง ๆ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าการใช้ พ.ร.บ.ฉุกเฉินครั้งนี้อาจทำให้เกิดความรุนแรงได้ เพราะผู้รับผิดชอบที่นายกฯมอบหมาย คือ พล.ต.อ.โกวิท ซึ่งเป็นผู้นิยมความรุนแรง และเป็นตำรวจสายเหยี่ยว ที่ใช้กำลังจากตำรวจ เพื่อสลายการชุมนุมเป็นหลัก รวมทั้งให้ทหารเรือ และทหารอากาศ มาเป็นผู้ช่วย
อยากถามว่า แล้วทหารบกที่เป็นกำลังหลักของประเทศไทยหายไปไหน แสดงว่าการนำเสนอมติ คตร. โดย ผบ.ทบ.ที่ให้รัฐบาลยุบสภา เพื่อแก้วิกฤต เป็นมติที่ไม่สามารถทำให้นายกฯ นำไปปฏิบัติได้ ทั้งนี้ หากรัฐบาลเห็นว่า ตัวผบ.ทบ. ที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ก้าวล่วงทางการเมือง ต่อนายกฯ ก็จะต้องดำเนินการ ทางวินัยราชการ รวมไปถึงข้าราชการ ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี อธิการบดี และดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อประธานหอการค้า และนักธุรกิจ ประมาณ 200 คน ที่ร่วมประชุมในวันนั้น ดังนั้น อยากเรียกร้องให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้ทบทวนบทบาท และแสดงออกถึงการต่อต้านอำนาจของรัฐบาล โดยการบอตคอตไม่สังฆกรรมกับรัฐบาลในทุกกรณี เพื่อเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองให้รัฐบาลเกิดความสำนึก
นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่แถลงข่าวครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ในฐานะเป็นคนนครศรีธรรมราช ต้องการเรียกร้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ลาออก เพราะขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีความตึงเครียดมาก
ในฐานะเป็นคนบ้านเดียวกัน เมื่อเกิดวิกฤติขนาดนี้ อยากขอร้องให้นายกฯ พิจารณาตัวเองด้วยการลาออก เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีของคนนครฯ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง เสียหาย เพราะขนาด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่มีคะแนนนิยมจากประชาชนสูงมาก ยังเคยตัดสินใจยุบสภาฯ มาแล้ว อยากจะให้ตัดสินใจโดยเร็ว เพราะเวลานี้ยังมองไม่เห็นเลยว่าปัญหาจะยุติอย่างไร
นายสัมพันธ์ กล่าวว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรีมีทางเลือก 2 ทาง คือยุบสภาฯ เพื่อให้เลือกตั้งใหม่ หรือลาออกเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขณะที่นายสมชาย ยังเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งเชื่อว่าหากนายสมชาย ลาออก ปัญหาจะยุติ เพราะเป็นข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม และพันธมิตรฯ ควรเคารพกับสิ่งที่ตัวเองประกาศไว้
