ที่พรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (23 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯกทม.) และแกนนำพรรค ไดเปิดตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็นผู้สมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.อย่างเป็นทางการ
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวเปิดใจหลังได้รับเลือกจากพรรคประชาธิปัตย์ว่ารู้สึก เป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจ และได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของพรรค ซึ่งงาน กทม. เป็นเรื่องที่อยู่ในใจตนมานานแล้ว เพราะช่วงหนึ่งเคยเป็นทีมงานของนายพิจิตต รัตนกุล อดีตผู้ว่า กทม. รวมทั้งเป็น ส.ส.หลายสมัยจึงมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ กทม. ยังเป็นเมืองที่บรรพบุรุษของตนมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งและพัฒนา ดังนั้นตนจึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เพื่อพัฒนา กทม ให้ดีขึ้นต่อไป
ผมพร้อมทำงานหนักด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพร้อมเสียสละ เพราะวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีเป็นวาระที่แน่นอน ซึ่งจะต้องทำงานให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องนโยบาย นั้น พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ ได้ร่วมกันวางแผนมาอย่างดีแล้ว ดังนั้นผมจึง พร้อมสานต่อ แต่ทั้งนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุด คืออยากนำรอยยิ้มกลับมาสู่เมืองหลวง ของสยามเมืองยิ้มให้ได้ เพราะทุกวันนี้พวกเราเครียด ทุกข์ และแตกแยกกันมานานแล้ว
สำหรับ นโยบายที่จะทำให้ประชาชนยิ้มได้คือสร้างการบริการที่ดี สร้างบรรยากาศคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และเสริมสร้างสถาบันครอบครัวเพราะถือเป็นต้นตอของปัญหาสังคม ทั้งนี้หากตนได้รับความไว้วางใจ เมืองหลวงจะต้องกลายเป็นเมืองที่มีความสุข ซึ่งนี่คือสัญญาที่จะให้ไว้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการลงสมัครครั้งนี้มีความหนักใจหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็หนักใจทุกครั้ง แต่ทั้งนี้ตนขอให้คำมั่นว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่า กทม. ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เพื่อชี้แจงในทุกเรื่องที่มีข้อกังขา อย่างไรก็ตามเรื่องที่ตนหนักใจมากที่สุดคือว่าจะทำหน้าได้ดีเท่าผู้ว่าฯกทม.คนเก่าที่ทำไว้ดีมากได้หรือไม่
ส่วนเรื่องคู่แข่งนั้นตนไม่เคยสนใจ แต่ทั้งนี้ก็อยากให้คู่แข่งมีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากได้รับเลือก ตนก็ไม่รู้สึกกดดันหากต้องทำงานกับรัฐบาล เพราะทุกวันนี้ตนก็ทำงานร่วม และประสานงานกับรัฐบาลมาตลอด คือการให้คำแนะนำกับกระทรวงต่างประเทศ แต่ก็ทำงานด้วยความรอบคอบ และตรงไปตรงมา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคกล่าว ถึงคดีการทุจริตรถดับเพลิงที่อาจจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัครฯของพรรปคระชิปัตย์ ว่า เรื่องนี้พรรคพร้อมยอมรับตามกระบวนการประชาธิปไตย และพร้อมยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ที่สามารถมีความคิดหลากหลายได้ ส่วนเรื่องคดีนั้นพรรค และนายอภิรักษ์ก็ต้องต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ
กรปัดถูกกดดันจากแกนนำปชป.
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยันยืนว่า สาเหตุที่ถอนตัวจากแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ถูกแรงกดดันจากแกนนำพรรคแต่อย่างใด เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยพิจารณาในหลายๆ องค์ประกอบ เพราะถ้าตนได้รับเลือกให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ปัญหาที่จะตามมาคือการเลือกตั้งส.ส.เขตใหม่ แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ก็ต้องให้ความสำคัญ รวมทั้ง เรื่องทีมเศรษฐกิจของพรรคด้วย นอกจากนี้ ตนยังคิดว่าทั้ง 3 บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อลงชิงผู้ว่าฯกทม. ก็มีความเหมาะสม และเมื่อกรรมการบริหารพรรค มีมติส่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน ตนก็เห็นด้วย ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ไม่ได้มีแรงกดดันอะไรทั้งนั้น ผมตัดสินใจถอนตัวเอง เพราะถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่อยากเป็นภาระของใคร และพอแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบเรื่อง ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยที่ผมจะถอนตัว และบางคนก็ห้ามไม่ให้ถอน แต่เมื่อชี้แจงเหตุผล ทุกคนก็เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุของการถอนตัวจากผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะรอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตหรือไม่นายกรณ์กล่าวว่า ส่วนตัวพร้อมอยู่ตำแหน่งไหน ก็ได้ ไม่ได้ยึดติด และตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ก็เป็นตำแหน่งใหญ่ ถ้าเทียบกับตำแหน่งรัฐมนตรีถือว่าใหญ่กว่าด้วยซ้ำ เพราะสามารถดูแลงบและบริหารงานข้าราชการ ได้โดยตรง แต่ก็ไม่ใช่เหตุผล เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ใครๆ ก็อย่างเป็นทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุผลที่จะรอตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะตนก็ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลเมื่อไร
ส่วนที่มีการเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่างนายกรณ์และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นายกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ เพราะคนเรามีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในคุณสมบัติของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และเชื่อว่าจะบริหาร กทม.ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้เอาชื่อของตนเพื่อเป็น เป้าหลอก เพราะประชาชนคงไม่ได้อะไรถ้าจะเล่นเกมอย่างนั้น
แก้วสรรเตรียมลงสมัครอิสระ
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตศ.) เปิดเผยว่า แม้จะไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้หารือกับทีมงานแล้ว พร้อมจะลงสมัครในนามอิสระเอง โดยจะแถลงข่าวเปิดตัววันพุธที่ 26 พฤศจิกายน ขณะนี้กำลังเตรียมการเรื่องต่างๆ ให้วันเปิดตัว ทั้งทีมงาน และนโยบายบางส่วน
ประภัสร์ลังเลรอถกสมชายก่อน
ด้านนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคพลังประชาชน ยังลังเล ไม่ตัดสินใจ เผยเพียงขอรอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐเปรู ก่อน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวระหว่างการเข้าร่วมประชุมเอเปก ที่สาธารณรัฐเปรู ถึงการส่งผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า กำลังเจรจาให้นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรคฯ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการสู้แบบตัวต่อตัวกับทางพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเชื่อว่า ชื่อเสียงระหว่าง นายประภัสร์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะทำให้การเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ สูสีกันอย่างมาก โดยส่วนตัวเห็นว่า การส่ง ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯกทม. พรรค จะเสนอรายชื่อของทีมรองผู้ว่าฯไปพร้อมกันๆ ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า การส่งผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ ก็มีความหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาวกรุงเทพมหานคร เพราะ นายประภัสร์ เป็นที่รู้จักของชาว กทม.แล้วระดับหนึ่ง
ชูวิทย์ยังไม่ตัดสินใจลง-ไม่ลงสมัคร
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองน่าติดตาม และน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามีผู้สมัครที่ดีจริงๆ และเป็นคนที่คนกรุงเทพฯ บอกว่าใช่ ตนเองก็จะไม่ลง และจะสนับสนุนด้วย แต่ในตอนนี้ยังไม่มีจึงขอรอดูก่อน รอให้มีการเปิดตัวผู้สมัครมากกว่านี้ เพราะได้ข่าวมาว่า มีบุคคลในสังคมหลายคนที่อาจจะลงสมัคร อาทิ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล พิธีกร รายการข่าว , พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนคนที่ประกาศตัวมาแล้ว คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นั้น หากตนเองได้ไปแข่งกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ดีใจ เพราะบ้านอยู่ใกล้กับ เคยเห็น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มาวิ่งออกกำลังกายในสวนชูวิทย์ สุขุมวิท ซอย 10 บ่อยๆ
แปลกนะพรรคประชาธิปัตย์ มักจะส่งคนที่บ้านใกล้ๆ กับผม มาลงสมัคร ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยจะถือเคล็ดอย่างที่ว่า คุณอภิรักษ์ นั้น อยู่คอนโดตึกเดียวกัน ที่ เพรสิเดนท์พาร์ค ซอย 24 ชั้น 8 ซึ่งผมอยู่ชั้น 38 เที่ยวนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บ้านอยู่ติดกับสวนชูวิทย์ สุขุมวิท ซอย 10 ก็ ใกล้ชิดกันอีกแล้ว ผมคงไม่มีอะไรวิพากษ์วิจารณ์
นายชูวิทย์ กล่าวว่า หากตนเองจะลงสมัคร อีกต้องคิดหนักเพราะมีต้นทุน ที่ผ่านมาใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท และหากลงอีกคงจะใช้งบไม่ต่างกัน แต่ประชาชนควรจะไปถามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเลือกตั้งใหม่ ว่า ในการส่งผู้สมัครมาลงอีกครั้งนั้น ประชาชนคิดอย่างไร ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งไปไม่นาน
ส่วนข่าวที่ว่าจะมีการร่วมมือกับอดีตผู้สมัครคนอื่นๆ เอาคะแนนมารวมกัน นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองร่วมกับใครไม่ได้ เพราะทำงานสไตล์ฉายเดี่ยว ร่วมได้ ก็เพียงระดับหนึ่ง ตนเองมีจุดยืนของตนเอง และการเมืองไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ ที่จะนำมาบวกกันได้
ดร.แดนเงินหมดขอบริจาคเงินสู้
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศักดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า ตนเองสนใจ ลงสมัคร เพราะมีความมุ่งมั่นตั้งแต่ลงสมัครครั้งที่แล้วว่า ต้องการเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติ อีกทั้งมีกำลังใจจากประชาชนจำนวนมากส่งไปรษณียบัตรมาขอให้ลงสมัคร ผู้ว่า กทม.ฯ อีกครั้ง จึงทำให้มีความตั้งใจ และมั่นใจในคะแนนนิยม ที่ยังมีประชาชนชื่นชอบ ในนโยบายการทำงานของตนเอง แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะในการลงสมัครครั้งล่าสุด ใช้งบประมาณ 39 ล้านบาทแล้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า เป็นการทำบุญ แต่หากจะลงสมัครอีกครั้ง จะต้องใช้เงินอีก ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนไม่รู้ตัวมาก่อนล่วงหน้าว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน จะลาออก จึงไม่มีเวลาเตรียมตัวระดมทุน ขายโต๊ะจีน หากมาทำตอนนี้ ก็คงจะผิดกฏหมายเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ดร.เกรียงศักดิ์ ยืนยันว่าหากจะลงสมัครเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ก็จะลง ในนามอิสระ ไม่ลงในนามพรรคการเมืองแน่นอน หากมีผู้ให้ความช่วยเหลือเรื่องทุน ก็จะลงสมัครอีกครั้ง
ธรณี-ลีน่าจังลงสมัครผู้ว่าฯแน่
นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียม ตัวลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหาเสียง โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เน้นการทำงานอาสา เข้าถึงชุมชนแออัด และเปิดเว็บไซต์ และจะลงพื้นที่พบกับผู้ที่ลงคะแนนให้ครั้งที่แล้วจนได้คะแนนเป็นอันดับที่ 5 เช่น ทุ่งครุ บางกะปิ
ทั้งนี้นางธรณี ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วยรูปลักษณ์ ที่โดดเด่น เรื่องการแต่งตัว และเครื่องเพชร แต่สำหรับการลงสมัครครั้งใหม่ นางธรณี กล่าวว่าจะ ไม่มีการใส่เครื่องเพชร เพราะไม่เหมาะสมกับการลงพื้นที่ แต่จะใส่หมวกที่สั่งตรงมาจาก อังกฤษ ร่มจากฝรั่งเศส และชุดกระโปรงยาว เสื้อขาวลายลูกไม้ แทน
ขณะที่นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ กล่าวว่า จะลงสมัครอีกครั้ง และใช้งบประมาณน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา ไม่ทำป้ายหาเสียง และไม่มีทีมงานหาเสียง เพราะเงินหมดแล้ว จะใช้งบทั้งหมด 120,000 บาท เปลี่ยนสโลแกน เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากผู้ชาย จากเดิมหญิงมีต่อมความชั่วน้อยกว่าชาย มีคุณธรรมมากกว่าชาย เป็นพูดจริง ทำจริง ไม่โกงกิน
ทางด้านนายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ กล่าวว่า กำลังตัดสินใจว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้งหรือไม่ และหากลงก็จะลงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 6 แล้วสำหรับตัวเอง
ส่วน น.ส.วชิราภรณ์ อายุยืน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคสาธารณชน กล่าวว่า ไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แล้ว เพราะทางพรรคจะเตรียมตัวเพื่อลงสนามใหญ่ และลุยพื้นที่ในต่างจังหวัดแทน
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวเปิดใจหลังได้รับเลือกจากพรรคประชาธิปัตย์ว่ารู้สึก เป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจ และได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของพรรค ซึ่งงาน กทม. เป็นเรื่องที่อยู่ในใจตนมานานแล้ว เพราะช่วงหนึ่งเคยเป็นทีมงานของนายพิจิตต รัตนกุล อดีตผู้ว่า กทม. รวมทั้งเป็น ส.ส.หลายสมัยจึงมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี นอกจากนี้ กทม. ยังเป็นเมืองที่บรรพบุรุษของตนมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งและพัฒนา ดังนั้นตนจึงอยากเข้ามาทำหน้าที่เพื่อพัฒนา กทม ให้ดีขึ้นต่อไป
ผมพร้อมทำงานหนักด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และพร้อมเสียสละ เพราะวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีเป็นวาระที่แน่นอน ซึ่งจะต้องทำงานให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องนโยบาย นั้น พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ ได้ร่วมกันวางแผนมาอย่างดีแล้ว ดังนั้นผมจึง พร้อมสานต่อ แต่ทั้งนี้สิ่งที่อยากทำมากที่สุด คืออยากนำรอยยิ้มกลับมาสู่เมืองหลวง ของสยามเมืองยิ้มให้ได้ เพราะทุกวันนี้พวกเราเครียด ทุกข์ และแตกแยกกันมานานแล้ว
สำหรับ นโยบายที่จะทำให้ประชาชนยิ้มได้คือสร้างการบริการที่ดี สร้างบรรยากาศคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น และเสริมสร้างสถาบันครอบครัวเพราะถือเป็นต้นตอของปัญหาสังคม ทั้งนี้หากตนได้รับความไว้วางใจ เมืองหลวงจะต้องกลายเป็นเมืองที่มีความสุข ซึ่งนี่คือสัญญาที่จะให้ไว้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในการลงสมัครครั้งนี้มีความหนักใจหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็หนักใจทุกครั้ง แต่ทั้งนี้ตนขอให้คำมั่นว่า หากได้รับเลือกเป็นผู้ว่า กทม. ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เพื่อชี้แจงในทุกเรื่องที่มีข้อกังขา อย่างไรก็ตามเรื่องที่ตนหนักใจมากที่สุดคือว่าจะทำหน้าได้ดีเท่าผู้ว่าฯกทม.คนเก่าที่ทำไว้ดีมากได้หรือไม่
ส่วนเรื่องคู่แข่งนั้นตนไม่เคยสนใจ แต่ทั้งนี้ก็อยากให้คู่แข่งมีคุณภาพ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากได้รับเลือก ตนก็ไม่รู้สึกกดดันหากต้องทำงานกับรัฐบาล เพราะทุกวันนี้ตนก็ทำงานร่วม และประสานงานกับรัฐบาลมาตลอด คือการให้คำแนะนำกับกระทรวงต่างประเทศ แต่ก็ทำงานด้วยความรอบคอบ และตรงไปตรงมา
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคกล่าว ถึงคดีการทุจริตรถดับเพลิงที่อาจจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจเลือกผู้สมัครฯของพรรปคระชิปัตย์ ว่า เรื่องนี้พรรคพร้อมยอมรับตามกระบวนการประชาธิปไตย และพร้อมยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ที่สามารถมีความคิดหลากหลายได้ ส่วนเรื่องคดีนั้นพรรค และนายอภิรักษ์ก็ต้องต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏ
กรปัดถูกกดดันจากแกนนำปชป.
นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยันยืนว่า สาเหตุที่ถอนตัวจากแคนดิเดตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ถูกแรงกดดันจากแกนนำพรรคแต่อย่างใด เป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยพิจารณาในหลายๆ องค์ประกอบ เพราะถ้าตนได้รับเลือกให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ปัญหาที่จะตามมาคือการเลือกตั้งส.ส.เขตใหม่ แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ก็ต้องให้ความสำคัญ รวมทั้ง เรื่องทีมเศรษฐกิจของพรรคด้วย นอกจากนี้ ตนยังคิดว่าทั้ง 3 บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อลงชิงผู้ว่าฯกทม. ก็มีความเหมาะสม และเมื่อกรรมการบริหารพรรค มีมติส่งม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน ตนก็เห็นด้วย ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ไม่ได้มีแรงกดดันอะไรทั้งนั้น ผมตัดสินใจถอนตัวเอง เพราะถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่อยากเป็นภาระของใคร และพอแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบเรื่อง ส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยที่ผมจะถอนตัว และบางคนก็ห้ามไม่ให้ถอน แต่เมื่อชี้แจงเหตุผล ทุกคนก็เข้าใจ ไม่ได้มีปัญหาตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุของการถอนตัวจากผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะรอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคตหรือไม่นายกรณ์กล่าวว่า ส่วนตัวพร้อมอยู่ตำแหน่งไหน ก็ได้ ไม่ได้ยึดติด และตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.ก็เป็นตำแหน่งใหญ่ ถ้าเทียบกับตำแหน่งรัฐมนตรีถือว่าใหญ่กว่าด้วยซ้ำ เพราะสามารถดูแลงบและบริหารงานข้าราชการ ได้โดยตรง แต่ก็ไม่ใช่เหตุผล เพราะตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ใครๆ ก็อย่างเป็นทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุผลที่จะรอตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะตนก็ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลเมื่อไร
ส่วนที่มีการเปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่างนายกรณ์และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ นายกรณ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ เพราะคนเรามีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในคุณสมบัติของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์และเชื่อว่าจะบริหาร กทม.ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยืนยันว่าพรรคไม่ได้เอาชื่อของตนเพื่อเป็น เป้าหลอก เพราะประชาชนคงไม่ได้อะไรถ้าจะเล่นเกมอย่างนั้น
แก้วสรรเตรียมลงสมัครอิสระ
นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความ เสียหายแก่รัฐ (คตศ.) เปิดเผยว่า แม้จะไม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ได้หารือกับทีมงานแล้ว พร้อมจะลงสมัครในนามอิสระเอง โดยจะแถลงข่าวเปิดตัววันพุธที่ 26 พฤศจิกายน ขณะนี้กำลังเตรียมการเรื่องต่างๆ ให้วันเปิดตัว ทั้งทีมงาน และนโยบายบางส่วน
ประภัสร์ลังเลรอถกสมชายก่อน
ด้านนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคพลังประชาชน ยังลังเล ไม่ตัดสินใจ เผยเพียงขอรอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐเปรู ก่อน
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวระหว่างการเข้าร่วมประชุมเอเปก ที่สาธารณรัฐเปรู ถึงการส่งผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า กำลังเจรจาให้นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ของพรรคฯ ลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง ซึ่งจะเป็นการสู้แบบตัวต่อตัวกับทางพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเชื่อว่า ชื่อเสียงระหว่าง นายประภัสร์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะทำให้การเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ สูสีกันอย่างมาก โดยส่วนตัวเห็นว่า การส่ง ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯกทม. พรรค จะเสนอรายชื่อของทีมรองผู้ว่าฯไปพร้อมกันๆ ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชน
นายสมชาย กล่าวอีกว่า การส่งผู้สมัคร ผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ ก็มีความหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากชาวกรุงเทพมหานคร เพราะ นายประภัสร์ เป็นที่รู้จักของชาว กทม.แล้วระดับหนึ่ง
ชูวิทย์ยังไม่ตัดสินใจลง-ไม่ลงสมัคร
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ในนามอิสระ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองน่าติดตาม และน่าเป็นห่วง แต่ถ้ามีผู้สมัครที่ดีจริงๆ และเป็นคนที่คนกรุงเทพฯ บอกว่าใช่ ตนเองก็จะไม่ลง และจะสนับสนุนด้วย แต่ในตอนนี้ยังไม่มีจึงขอรอดูก่อน รอให้มีการเปิดตัวผู้สมัครมากกว่านี้ เพราะได้ข่าวมาว่า มีบุคคลในสังคมหลายคนที่อาจจะลงสมัคร อาทิ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล พิธีกร รายการข่าว , พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ส่วนคนที่ประกาศตัวมาแล้ว คือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ นั้น หากตนเองได้ไปแข่งกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ดีใจ เพราะบ้านอยู่ใกล้กับ เคยเห็น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มาวิ่งออกกำลังกายในสวนชูวิทย์ สุขุมวิท ซอย 10 บ่อยๆ
แปลกนะพรรคประชาธิปัตย์ มักจะส่งคนที่บ้านใกล้ๆ กับผม มาลงสมัคร ไม่รู้เป็นอะไร สงสัยจะถือเคล็ดอย่างที่ว่า คุณอภิรักษ์ นั้น อยู่คอนโดตึกเดียวกัน ที่ เพรสิเดนท์พาร์ค ซอย 24 ชั้น 8 ซึ่งผมอยู่ชั้น 38 เที่ยวนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บ้านอยู่ติดกับสวนชูวิทย์ สุขุมวิท ซอย 10 ก็ ใกล้ชิดกันอีกแล้ว ผมคงไม่มีอะไรวิพากษ์วิจารณ์
นายชูวิทย์ กล่าวว่า หากตนเองจะลงสมัคร อีกต้องคิดหนักเพราะมีต้นทุน ที่ผ่านมาใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท และหากลงอีกคงจะใช้งบไม่ต่างกัน แต่ประชาชนควรจะไปถามพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเลือกตั้งใหม่ ว่า ในการส่งผู้สมัครมาลงอีกครั้งนั้น ประชาชนคิดอย่างไร ทั้งๆ ที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งไปไม่นาน
ส่วนข่าวที่ว่าจะมีการร่วมมือกับอดีตผู้สมัครคนอื่นๆ เอาคะแนนมารวมกัน นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนเองร่วมกับใครไม่ได้ เพราะทำงานสไตล์ฉายเดี่ยว ร่วมได้ ก็เพียงระดับหนึ่ง ตนเองมีจุดยืนของตนเอง และการเมืองไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ ที่จะนำมาบวกกันได้
ดร.แดนเงินหมดขอบริจาคเงินสู้
ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศักดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยว่า ตนเองสนใจ ลงสมัคร เพราะมีความมุ่งมั่นตั้งแต่ลงสมัครครั้งที่แล้วว่า ต้องการเข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติ อีกทั้งมีกำลังใจจากประชาชนจำนวนมากส่งไปรษณียบัตรมาขอให้ลงสมัคร ผู้ว่า กทม.ฯ อีกครั้ง จึงทำให้มีความตั้งใจ และมั่นใจในคะแนนนิยม ที่ยังมีประชาชนชื่นชอบ ในนโยบายการทำงานของตนเอง แต่ติดปัญหาเรื่องงบประมาณ เพราะในการลงสมัครครั้งล่าสุด ใช้งบประมาณ 39 ล้านบาทแล้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร คิดว่า เป็นการทำบุญ แต่หากจะลงสมัครอีกครั้ง จะต้องใช้เงินอีก ซึ่งเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ตนไม่รู้ตัวมาก่อนล่วงหน้าว่านายอภิรักษ์ โกษะโยธิน จะลาออก จึงไม่มีเวลาเตรียมตัวระดมทุน ขายโต๊ะจีน หากมาทำตอนนี้ ก็คงจะผิดกฏหมายเลือกตั้ง
อย่างไรก็ดี ดร.เกรียงศักดิ์ ยืนยันว่าหากจะลงสมัครเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. ก็จะลง ในนามอิสระ ไม่ลงในนามพรรคการเมืองแน่นอน หากมีผู้ให้ความช่วยเหลือเรื่องทุน ก็จะลงสมัครอีกครั้ง
ธรณี-ลีน่าจังลงสมัครผู้ว่าฯแน่
นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเตรียม ตัวลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหาเสียง โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เน้นการทำงานอาสา เข้าถึงชุมชนแออัด และเปิดเว็บไซต์ และจะลงพื้นที่พบกับผู้ที่ลงคะแนนให้ครั้งที่แล้วจนได้คะแนนเป็นอันดับที่ 5 เช่น ทุ่งครุ บางกะปิ
ทั้งนี้นางธรณี ลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ด้วยรูปลักษณ์ ที่โดดเด่น เรื่องการแต่งตัว และเครื่องเพชร แต่สำหรับการลงสมัครครั้งใหม่ นางธรณี กล่าวว่าจะ ไม่มีการใส่เครื่องเพชร เพราะไม่เหมาะสมกับการลงพื้นที่ แต่จะใส่หมวกที่สั่งตรงมาจาก อังกฤษ ร่มจากฝรั่งเศส และชุดกระโปรงยาว เสื้อขาวลายลูกไม้ แทน
ขณะที่นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ กล่าวว่า จะลงสมัครอีกครั้ง และใช้งบประมาณน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา ไม่ทำป้ายหาเสียง และไม่มีทีมงานหาเสียง เพราะเงินหมดแล้ว จะใช้งบทั้งหมด 120,000 บาท เปลี่ยนสโลแกน เพื่อเรียกคะแนนเสียงจากผู้ชาย จากเดิมหญิงมีต่อมความชั่วน้อยกว่าชาย มีคุณธรรมมากกว่าชาย เป็นพูดจริง ทำจริง ไม่โกงกิน
ทางด้านนายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. อิสระ กล่าวว่า กำลังตัดสินใจว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้งหรือไม่ และหากลงก็จะลงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 6 แล้วสำหรับตัวเอง
ส่วน น.ส.วชิราภรณ์ อายุยืน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคสาธารณชน กล่าวว่า ไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. แล้ว เพราะทางพรรคจะเตรียมตัวเพื่อลงสนามใหญ่ และลุยพื้นที่ในต่างจังหวัดแทน
