ผู้จัดการรายวัน- ป.ป.ช.ฟันกราวรูดเหยื่อดับเพลิงฉาว ชี้มูลความผิดอาญา "โภคิน-ประชา-วัฒนา-สมัคร-อภิรักษ์" ด้วยมติ 9:0 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดผลเสียหายแก่รัฐ ชี้ช่องโยนศาลรัฐธรรมนูญตีความ มาตรา 55 ว่า ต้องพักการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ ด้านปชป.หารือเครียด เผย 2 ทางเลือก ยอมไขก๊อกเปิดทางเลือกตั้งใหม่ หรือพักงานรอศาลตัดสิน เตรียมเปิดแถลงความชัดเจนวันนี้ เผย "กรณ์ จาติกวณิช" ตัวเต็งผู้สมัครใหม่หากอภิรักษ์ ลาออก
วานนี้ (11พ.ค.) นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงมติที่ประชุมว่า ที่ประชุมมีมติ 9 : 0 ในคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,800 ล้านบาท โดยให้นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่กระทำผิดในขณะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงมีมูลความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 13 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ขณะที่ บริษัท STEYR-DAILER-PUCH Spezialfahrzeug AG & CO KG เนื่องจากไม่มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่กระทำการเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการเจ้าหน้าที่พนักงานกระทำผิด จึงมีความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุน นายโภคิน กับพวกจึงมีความผิดตาม มาตรา 157 สำหรับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. มีมูลความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทางราชการและกทม. และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดทั้ง 7 ราย ทางป.ป.ช. จะจัดส่งรายงาน และเอกสารพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมูลความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
ขณะที่ ให้คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดฯกทม. มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให่เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. พ.ศ.2528 ทั้งนี้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ก็ทราบเรื่องดี แต่ไม่แก้ไขปัญหาจึงเห็นว่ามีมูลความผิดทางวินัย แต่ไม่มีมูลความผิดทางอาญา
ส่วน พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคแรก ขณะที่ นายราเชนท์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคแรก ทั้งนี้จะส่งรายงานและเอกสารไปยังผู้บังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย และกทม. พิจารณาดำเนินการตาม มาตรา 99
ขณะที่มีมติ 9 : 0 นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการ รมช.มหาดไทย (ประชา มาลีนนท์ ) โดยเห็นว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีมูลความผิด ส่วน ผู้แทนบริษัท STEYR-DAILER ก็ไม่มีมูลความผิดเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชี้มูลนายอภิรักษ์ จะส่งผลให้ยุติการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้วินิจฉัย แต่เป็นไปตาม มาตรา 55 หากนายอภิรักษ์ มีข้อโต้แย้ง ก็สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 17.30 น. ได้เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร โดยมีเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ไฟฟ้าภายในสำนักงาน ป.ป.ช.ดับเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องมีการแถลงข่าวในเวลา 18.30 น.
**ปชป.เครียดเตรียมแถลงวันนี้
รายงานข่าวรายงานบรรยากาศการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้ เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยส.ส.ต่างรอลุ้นผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่กำลังพิจารณาตัดสินคดี นายอภิรักษ์
ขณะที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกจากพรรคก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น โดยมีรายงานว่าได้เดินทางไปหารือกับนายอภิรักษ์ ถึงทางออกของปัญหา โดยนายอภิรักษ์ จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (12 พ.ย.)
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวเปิดเผยว่า แกนนำพรรค ได้วิเคราะห์ถึงทางออกว่า ขณะที่พรรคมีทางออกอยู่ 2 แนวทางคือ นายอภิรักษ์ ควรจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ระหว่างรอการพิจารณาของศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือว่า ควรจะแสดงสปิริตด้วยการลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯใหม่ ซึ่งพรรคก็ต้องหาบุคคลมาลงสมัครต่อไป แต่มีความเป็นไปได้ว่านายอภิรักษ์ จะเลือกขอลาออกจากตำแหน่ง
ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวหลังทราบมติ ป.ป.ช.ว่า คงต้องรอให้ทางป.ป.ช.ชี้แจงอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเข้าหารือกับ นายอภิสิทธิ์ ก่อน หลังจากนั้นจึงจะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร โดยจะแถลงท่าทีอย่างชัดเจน ในวันนี้(12 พ.ย.) แต่ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะเป็นที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หรือพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง กระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้ลาออก พร้อมกับวางตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคฯไว้รอแล้ว นายอภิรักษ์ ปฏิเสธว่าไม่ทราบเหมือนกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทันทีที่รับทราบข่าวว่า ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9:0 ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ นั้น คณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองกทม. เช่น นายวัลลภ สุวรรณดี นายสุกิจ ก้องธรนินทร์ นายประกอบ จีรกิตติ และ พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. และนายจิตติชัย แสงทอง เลขานุการผู้ว่าฯกทม. ได้เข้าหารือกันที่ห้องนายอภิรักษ์ ทันที ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่ดเครียด ต่างแสดงความเห็นถึงมติของ ป.ป.ช. ที่เป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แม้แต่พรรคฯ เองก็ยังคิดไม่ถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการฉีกหน้ามติของคณะอนุกรรมการไต่สวน คตส. ชุดที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน
**"กรณ์"ตัวเต็งผู้สมัครผู้ว่าฯคนใหม่
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามกดดันให้นายอภิรักษ์ ลาออกจากตำแหน่ง และเตรียมวางตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามของพรรคคนใหม่ไว้รอแล้วนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้มีการวางตัวบุคคลที่เหมาะสมไว้ 3 คน ด้วยกัน ประกอบด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน กทม. นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ ประธานภาคกทม. และนายประกอบ จีรกิตติ รองผู้ว่าฯกทม. และอดีตส.ส.สัดส่วน ของพรรคฯ อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ปฏิเสธที่จะไม่ขอลงชิงตำแหน่งดังกล่าว ส่วนนายประกอบ มีบุคลิกที่ค่อนข้างเงียบขรึม ดังนั้นแนวโน้มจึงน่าจะอยู่ที่ นายกรณ์ มากที่สุด เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นที่รู้จัก และมีบุคลิกเหมาะกับงาน ส่วนนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ที่เคยแสดงความต้องการจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.นั้น ไม่ได้รับการพิจารณาจากพรรคแต่อย่างใด
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในวันนี้ (12 พ.ย.) นายอภิรักษ์ จะประกาศลาออก โดยจะแถลงอย่างเป็นทางการที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง อีกทั้งเพื่อรักษาคะแนนเสียงให้กับพรรคฯ สำหรับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไป ขณะที่ตนเองก็เตรียมที่จะโดดไปเล่นการเมืองระดับใหญ่ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น โดยระหว่างที่รอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษานั้น จะเว้นวรรคทางการเมืองไปก่อน
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชน ที่มีการเตรียมวางตัว นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อีกครั้ง หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ใหม่ เพื่อทำหน้าที่ต่อจากนายอภิรักษ์ นั้น ปรากฏว่านายประภัสร์ ปฏิเสธที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว เพราะเตรียมที่จะกลับไปลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) อีกทั้งที่ผ่านมานายประภัสร์ เห็นว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งล่าสุดนี้ พรรคเคยรับปากจะช่วยสนับสนุน แต่พรรค พปช.ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้ ส.ส. และส.ก.พรรค พปช. เตรียมจะหารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธานภาคกทม.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ และวันนี้(12 พ.ย.) ตนจะนำพวงหรีดมาทวงถามความรับผิดชอบจากนายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งนายอภิรักษ์ สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
**กกต.แนะ"อภิรักษ์"ไม่ควรลาออก
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวว่า หากนายอภิรักษ์ เลือกที่จะแสดงสปิริต ลาออกจากตำแหน่ง กกต. ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ กกต.เพิ่งจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไปได้ไม่นาน และหามีการจัดการเลือกตั้งบ่อยๆ ก็เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ดังนั้น ส่วนตัวมองว่า นายอภิรักษ์ ไม่จำเป็นต้องลาออก แค่หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาออกมา โดยระหว่างที่หยุดไป ก็สามารถให้รองผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นมาทำหน้าที่แทนไปก่อนได้ และกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่า คงยังไม่ถึงขั้นที่ กกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้
วานนี้ (11พ.ค.) นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) แถลงมติที่ประชุมว่า ที่ประชุมมีมติ 9 : 0 ในคดีทุจริตรถและเรือดับเพลิง กทม. มูลค่า 6,800 ล้านบาท โดยให้นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย นายประชา มาลีนนท์ อดีตรมช.มหาดไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมว.พาณิชย์ นายสมัคร สุนทรเวช อดีตผู้ว่าฯกทม. ที่กระทำผิดในขณะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงมีมูลความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 13 ประกอบมาตรา 13 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ขณะที่ บริษัท STEYR-DAILER-PUCH Spezialfahrzeug AG & CO KG เนื่องจากไม่มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน แต่กระทำการเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการเจ้าหน้าที่พนักงานกระทำผิด จึงมีความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุน นายโภคิน กับพวกจึงมีความผิดตาม มาตรา 157 สำหรับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. มีมูลความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทางราชการและกทม. และฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดทั้ง 7 ราย ทางป.ป.ช. จะจัดส่งรายงาน และเอกสารพร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีมูลความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542
ขณะที่ ให้คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน อดีตปลัดฯกทม. มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ อันเป็นเหตุให่เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกทม. พ.ศ.2528 ทั้งนี้ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการในเรื่องนี้ แต่ก็ทราบเรื่องดี แต่ไม่แก้ไขปัญหาจึงเห็นว่ามีมูลความผิดทางวินัย แต่ไม่มีมูลความผิดทางอาญา
ส่วน พล.ต.ต.อธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยร้ายแรง ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคแรก ขณะที่ นายราเชนท์ พจนสุนทร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 84 วรรคแรก ทั้งนี้จะส่งรายงานและเอกสารไปยังผู้บังคับบัญชากระทรวงมหาดไทย และกทม. พิจารณาดำเนินการตาม มาตรา 99
ขณะที่มีมติ 9 : 0 นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีตเลขานุการ รมช.มหาดไทย (ประชา มาลีนนท์ ) โดยเห็นว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีมูลความผิด ส่วน ผู้แทนบริษัท STEYR-DAILER ก็ไม่มีมูลความผิดเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การชี้มูลนายอภิรักษ์ จะส่งผลให้ยุติการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ นายกล้านรงค์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้วินิจฉัย แต่เป็นไปตาม มาตรา 55 หากนายอภิรักษ์ มีข้อโต้แย้ง ก็สามารถส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 17.30 น. ได้เกิดเหตุไฟฟ้าลัดวงจร โดยมีเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้ไฟฟ้าภายในสำนักงาน ป.ป.ช.ดับเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องมีการแถลงข่าวในเวลา 18.30 น.
**ปชป.เครียดเตรียมแถลงวันนี้
รายงานข่าวรายงานบรรยากาศการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้ เป็นไปอย่างเงียบเหงา โดยส.ส.ต่างรอลุ้นผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่กำลังพิจารณาตัดสินคดี นายอภิรักษ์
ขณะที่นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกจากพรรคก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้น โดยมีรายงานว่าได้เดินทางไปหารือกับนายอภิรักษ์ ถึงทางออกของปัญหา โดยนายอภิรักษ์ จะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (12 พ.ย.)
อย่างไรก็ตามแหล่งข่าวเปิดเผยว่า แกนนำพรรค ได้วิเคราะห์ถึงทางออกว่า ขณะที่พรรคมีทางออกอยู่ 2 แนวทางคือ นายอภิรักษ์ ควรจะอยู่ในตำแหน่งต่อไป เพียงแต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ระหว่างรอการพิจารณาของศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือว่า ควรจะแสดงสปิริตด้วยการลาออก เพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯใหม่ ซึ่งพรรคก็ต้องหาบุคคลมาลงสมัครต่อไป แต่มีความเป็นไปได้ว่านายอภิรักษ์ จะเลือกขอลาออกจากตำแหน่ง
ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวหลังทราบมติ ป.ป.ช.ว่า คงต้องรอให้ทางป.ป.ช.ชี้แจงอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเข้าหารือกับ นายอภิสิทธิ์ ก่อน หลังจากนั้นจึงจะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร โดยจะแถลงท่าทีอย่างชัดเจน ในวันนี้(12 พ.ย.) แต่ยังไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าจะเป็นที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หรือพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึง กระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ กดดันให้ลาออก พร้อมกับวางตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคฯไว้รอแล้ว นายอภิรักษ์ ปฏิเสธว่าไม่ทราบเหมือนกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทันทีที่รับทราบข่าวว่า ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 9:0 ชี้มูลความผิดนายอภิรักษ์ นั้น คณะผู้บริหารฝ่ายการเมืองกทม. เช่น นายวัลลภ สุวรรณดี นายสุกิจ ก้องธรนินทร์ นายประกอบ จีรกิตติ และ พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม. นายนิพนธ์ บุญญภัทโร ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. และนายจิตติชัย แสงทอง เลขานุการผู้ว่าฯกทม. ได้เข้าหารือกันที่ห้องนายอภิรักษ์ ทันที ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเคร่ดเครียด ต่างแสดงความเห็นถึงมติของ ป.ป.ช. ที่เป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แม้แต่พรรคฯ เองก็ยังคิดไม่ถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งเท่ากับเป็นการฉีกหน้ามติของคณะอนุกรรมการไต่สวน คตส. ชุดที่มีนายนาม ยิ้มแย้ม เป็นประธาน
**"กรณ์"ตัวเต็งผู้สมัครผู้ว่าฯคนใหม่
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ พยายามกดดันให้นายอภิรักษ์ ลาออกจากตำแหน่ง และเตรียมวางตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามของพรรคคนใหม่ไว้รอแล้วนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้มีการวางตัวบุคคลที่เหมาะสมไว้ 3 คน ด้วยกัน ประกอบด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ส.ส.สัดส่วน กทม. นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ ประธานภาคกทม. และนายประกอบ จีรกิตติ รองผู้ว่าฯกทม. และอดีตส.ส.สัดส่วน ของพรรคฯ อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ปฏิเสธที่จะไม่ขอลงชิงตำแหน่งดังกล่าว ส่วนนายประกอบ มีบุคลิกที่ค่อนข้างเงียบขรึม ดังนั้นแนวโน้มจึงน่าจะอยู่ที่ นายกรณ์ มากที่สุด เนื่องจากเป็นคนรุ่นใหม่ที่เป็นที่รู้จัก และมีบุคลิกเหมาะกับงาน ส่วนนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตรองผู้ว่าฯกทม. ที่เคยแสดงความต้องการจะลงสมัครผู้ว่าฯกทม.นั้น ไม่ได้รับการพิจารณาจากพรรคแต่อย่างใด
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า มีความเป็นไปได้ว่า ในวันนี้ (12 พ.ย.) นายอภิรักษ์ จะประกาศลาออก โดยจะแถลงอย่างเป็นทางการที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง อีกทั้งเพื่อรักษาคะแนนเสียงให้กับพรรคฯ สำหรับผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. คนต่อไป ขณะที่ตนเองก็เตรียมที่จะโดดไปเล่นการเมืองระดับใหญ่ หากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเกิดขึ้น โดยระหว่างที่รอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษานั้น จะเว้นวรรคทางการเมืองไปก่อน
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชาชน ที่มีการเตรียมวางตัว นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. อีกครั้ง หากมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ใหม่ เพื่อทำหน้าที่ต่อจากนายอภิรักษ์ นั้น ปรากฏว่านายประภัสร์ ปฏิเสธที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งดังกล่าว เพราะเตรียมที่จะกลับไปลงสมัครตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) อีกทั้งที่ผ่านมานายประภัสร์ เห็นว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งล่าสุดนี้ พรรคเคยรับปากจะช่วยสนับสนุน แต่พรรค พปช.ก็ไม่ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทำให้ ส.ส. และส.ก.พรรค พปช. เตรียมจะหารือกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ประธานภาคกทม.
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ และวันนี้(12 พ.ย.) ตนจะนำพวงหรีดมาทวงถามความรับผิดชอบจากนายอภิรักษ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งนายอภิรักษ์ สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.
**กกต.แนะ"อภิรักษ์"ไม่ควรลาออก
นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. กล่าวว่า หากนายอภิรักษ์ เลือกที่จะแสดงสปิริต ลาออกจากตำแหน่ง กกต. ก็ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 90 วัน
ทั้งนี้ กกต.เพิ่งจะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ไปได้ไม่นาน และหามีการจัดการเลือกตั้งบ่อยๆ ก็เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ดังนั้น ส่วนตัวมองว่า นายอภิรักษ์ ไม่จำเป็นต้องลาออก แค่หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำพิพากษาออกมา โดยระหว่างที่หยุดไป ก็สามารถให้รองผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นมาทำหน้าที่แทนไปก่อนได้ และกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนาน เชื่อว่า คงยังไม่ถึงขั้นที่ กกต.ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ในเร็ววันนี้
