นิตยสาร VOTE ซึ่งเป็นนิตยสารรายปักษ์ เรียกยุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยของระบอบทุนสามานย์ว่ายุทธศาสตร์คีมเหล็ก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางยุทธศาสตร์ที่สื่อมวลชนฝ่ายรัฐบาลได้นำเสนอเป็นระยะๆ
คือนำเสนออย่างต่อเนื่องว่ายุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยนั้นจะประกอบด้วยสอง ยุทธศาสตร์หลัก คือยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ และยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมือง
โดยยุทธศาสตร์ทั้งสองนี้จะประสานกันทั้งภายนอก ภายในราชอาณาจักรไทย จึงประหนึ่งดั่งคีมเหล็กที่บีบหนีบประเทศไทยไว้ตรงกลาง และถ้าหากว่าคีมเหล็กนี้ทรงอานุภาพจริงดังที่มีการกล่าวขวัญ ก็เห็นทีว่าการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินจะเกิดขึ้นในเวลาไม่ช้านานเท่าใดนัก
ที่เรียกว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้น หมายถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในทางสากลหรือในต่างประเทศ เพื่อให้เห็นว่าระบอบการปกครองของไทยในปัจจุบันนี้ล้าหลัง ล้มเหลว และไม่เป็นที่นิยมศรัทธาของมหาชน ประชาชนชาวไทยจึงถวิลเพรียกเรียกหาให้คุณทักษิณกลับมายึดครองแผ่นดิน
ในขณะเดียวกันก็สร้างภาพลักษณ์ให้เห็นว่าคุณทักษิณเป็นผู้มีสติปัญญาเลิศล้ำกว่าใครในภูมิภาคนี้ เป็นผู้ที่มีความปรีชาสามารถที่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินและทำให้เกิดความรุ่งเรือง ร่ำรวยขึ้นในภูมิภาคนี้ได้ จนกระทั่งประเทศไหนๆ ก็ใคร่อยากคบหาสมาคมและร่วมไม้ร่วมมือด้วย
ในเวลาหลายปีมานี้ มีข่าวคราวจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศแล้วส่งเข้ามาในประเทศ โดยมีสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่งขานรับขับเคลื่อน
จนหลายคนเชื่อว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศบรรลุผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง และเป็นพลังอันสำคัญที่จะทำให้คุณทักษิณกลับเข้ามามีอำนาจในราชอาณาจักรนี้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนยุทธศาสตร์ที่เรียกว่าชนบทล้อมเมืองนั้น มุ่งหมายเอาการเคลื่อนไหวในสองลักษณะ คือสร้างความนิยมศรัทธาในหมู่ประชาชนคนยากคนจนในชนบท ให้เชื่อและเข้าใจว่าบรรดาผลประโยชน์และกองทุนสินเชื่อต่างๆ ที่รัฐบาลหว่านปลายลงไปในชนบทนั้นเป็นเงินให้เปล่าที่คุณทักษิณประทานให้ ทำให้ฐานะของคุณทักษิณเป็นประหนึ่งพระศรีอาริย์มาอุบัติขึ้นในโลกแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มุ่งสร้างฐานความนิยมทางการเมือง อันมีผลต่อการเลือกตั้งทุกระดับ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่ถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วจะได้รับการบริหารจัดการให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งไป และส่งผลโดยตรงให้บรรดานักการเมืองทุกระดับต้องค้อมหัวเข้าสวามิภักดิ์ มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องสอบตก
ยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมืองประสบผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง เพราะได้ทำให้พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลสามารถครองอำนาจรัฐได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวิธีการนั้นอาจไม่ใช่วิถีทางที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จนต้องถูกดำเนินการเรื่องยุบพรรคก็ตาม แต่ก็ได้ครองอำนาจรัฐไปแล้ว และได้ใช้อำนาจรัฐนั้นอย่างเต็มรูปแบบ
นักการเมืองคนสำคัญของฝ่ายรัฐบาลได้ประเมินว่าสถานการณ์ในขณะนี้ระบอบทุนสามานย์ประสบชัยชนะเด็ดขาดแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือการกวาดล้างสะสางเสี้ยนหนามหรือเศษขยะที่เกะกะรุงรังอยู่เท่านั้น
นั่นเป็นสภาพและความเชื่อของผู้คนในฝ่ายรัฐบาล ในขณะที่ฝ่ายซึ่งไม่เห็นด้วยก็ขับเคลื่อนการต่อสู้อย่างยืดเยื้อยาวนาน กว้างขวาง ยิ่งกว่าการต่อสู้ครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวไทย
ในท่ามกลางการต่อสู้นั้น คุณทักษิณและภริยาถูกศาลพิพากษาจำคุกและพากันเดินทางออกไปพำนักในต่างประเทศ โดยมีฐานการเคลื่อนไหวที่อังกฤษและจีน ในขณะที่ภายในประเทศ พรรคพลังประชาชนก็สามารถครองอำนาจรัฐได้อย่างต่อเนื่อง และการเคลื่อนไหวมวลชนก็ขยายตัวและยกระดับความเข้มแข็งขึ้นเป็นลำดับ
การชุมนุมพลคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 และคุณทักษิณได้โฟนอินเข้ามาโอภาปราศรัยในที่ชุมนุมนั้น ได้ปรากฏภาพมหกรรมสีแดงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นครั้งแรกและสร้างความสะเทือนไหวไปทั่วประเทศ รวมทั้งเกิดความตะลึงพรึงเพริดไปในหลายประเทศด้วย
แกนนำสำคัญของพรรคพลังประชาชนได้ประชุมปรึกษาแล้วแถลงว่าผลการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองสรุปว่า สถานการณ์กำลังผ่านขั้นยันไปสู่ขั้นรุกที่จะสามารถบดขยี้ชนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ให้ย่อยยับในเร็ววันได้แล้ว
ความเชื่อมั่นดังกล่าวทำให้มีการปล่อยข่าวลองเชิงออกมาว่า คุณทักษิณจะเดินทางกลับประเทศอีกครั้งหนึ่งโดยมีแผนงานทางกฎหมายรองรับ คือหลุดพ้นจากโทษและข้อกล่าวหานานาชนิด เพื่อนำการต่อสู้ด้วยตนเอง
ประกายสีแดงทอทาบไม่ทันสร่าง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น นั่นคืออังกฤษได้ถอนการอนุญาตให้คุณทักษิณและภริยาเดินทางเข้าประเทศ และห้ามสายการบินทั่วโลกนำบุคคลทั้งสองเข้าอังกฤษ มิฉะนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย
พลพรรคฝ่ายรัฐบาลพากันช็อกและไปไม่ถูก ราวกับปลาช่อนถูกไฟฟ้าช็อตฉะนั้น ความฮึกเหิมลำพองทรุดฮวบลงในพริบตา
ตามมาด้วยข่าวคราวคำปฏิเสธของรัฐบาลหลายประเทศที่ถูกสื่อมวลชนในประเทศสร้างข่าวกล่าวอ้างว่านิยมชมชอบคุณทักษิณ ถึงกับเชิญเป็นที่ปรึกษาบ้าง ให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์บ้าง ให้ที่พำนักเพื่อตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นบ้าง หรือแม้ให้เครื่องราชอิสริยาภรณ์บ้าง
สร้างข่าวกันถึงขนาดรัฐบาลบางประเทศสั่งกองทัพให้เตรียมพร้อมเพื่ออารักขาคุณทักษิณในการเดินทางไปประเทศนั้น
แต่พลันที่รัฐบาลต่างๆ ที่ถูกกล่าวอ้างถึงปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่าไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยรู้เห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว จึงทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้เช่นเห็นชาติว่ามีกระบวนการโกหกพกลมขึ้นในวงการสื่อมวลชน ปั้นข่าวเท็จลวงโลก และหลอกคนไทยทั้งประเทศ
แต่น่าสังเกตตรงที่คุณทักษิณก็ได้อ้างคำเชื้อเชิญดังกล่าวนั้นในการโฟนอินว่าหลายประเทศทั่วโลกต้องการให้ไปช่วย แต่ประเทศไทยซึ่งเป็นมาตุภูมิแท้ๆ กลับขับไล่ไสส่ง
มิหนำซ้ำ หลายประเทศในเครือจักรภพและในกลุ่มอาเชียนได้แสดงท่าทีที่ไม่ยินดีต้อนรับให้คุณทักษิณพำนักในประเทศ จนเกิดเป็นกระแสทางสากลว่าประเทศต่างๆ มุ่งดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย
จึงทำให้คุณทักษิณไม่มีที่พำนักอาศัย แม้ว่าเดินทางไปยังบางประเทศในตะวันออกกลางแล้ว แต่ก็ปรากฏข่าวต่อมาว่าเป็นการเดินทางไปชั่วคราว จะต้องเดินทางออกไปอีก แต่จะไปที่ใดไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงเท่ากับขณะนี้คุณทักษิณยังไม่มีพสุธาจะอาศัย ดังคำเตือนของหลวงตามหาบัวแล้ว
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้น แท้จริงเป็นเพียงมายาภาพที่หลอกคนอื่นและอาจหลอกคุณทักษิณด้วยก็เป็นได้ และไม่มีคุณค่าในเนื้อหาหรือดอกผลใดๆ ที่มีผลต่อการเมืองในประเทศไทยเลย มีแต่จะทำให้เกิดความอับอายขายหน้าและน่าสมเพชกับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น
ในวันนี้ยุทธศาสตร์คีมเหล็กจึงเหลืออยู่เพียงขาเดียวคือยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมืองว่าจะมีคุณค่าในทางความเป็นจริงสักแค่ไหน หรือว่าส่วนใหญ่เป็นเพียงมายาภาพ หรือการกุข่าวสร้างภาพลวงโลก หรือว่าเป็นแผนการหาเงินใช้ของนักการเมือง หรือแผนการข่มขวัญคนไทยเหมือนกับยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ซึ่งจะต้องติดตามดูกันต่อไป!
คือนำเสนออย่างต่อเนื่องว่ายุทธศาสตร์ยึดประเทศไทยนั้นจะประกอบด้วยสอง ยุทธศาสตร์หลัก คือยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ และยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมือง
โดยยุทธศาสตร์ทั้งสองนี้จะประสานกันทั้งภายนอก ภายในราชอาณาจักรไทย จึงประหนึ่งดั่งคีมเหล็กที่บีบหนีบประเทศไทยไว้ตรงกลาง และถ้าหากว่าคีมเหล็กนี้ทรงอานุภาพจริงดังที่มีการกล่าวขวัญ ก็เห็นทีว่าการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินจะเกิดขึ้นในเวลาไม่ช้านานเท่าใดนัก
ที่เรียกว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้น หมายถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองในทางสากลหรือในต่างประเทศ เพื่อให้เห็นว่าระบอบการปกครองของไทยในปัจจุบันนี้ล้าหลัง ล้มเหลว และไม่เป็นที่นิยมศรัทธาของมหาชน ประชาชนชาวไทยจึงถวิลเพรียกเรียกหาให้คุณทักษิณกลับมายึดครองแผ่นดิน
ในขณะเดียวกันก็สร้างภาพลักษณ์ให้เห็นว่าคุณทักษิณเป็นผู้มีสติปัญญาเลิศล้ำกว่าใครในภูมิภาคนี้ เป็นผู้ที่มีความปรีชาสามารถที่จะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินและทำให้เกิดความรุ่งเรือง ร่ำรวยขึ้นในภูมิภาคนี้ได้ จนกระทั่งประเทศไหนๆ ก็ใคร่อยากคบหาสมาคมและร่วมไม้ร่วมมือด้วย
ในเวลาหลายปีมานี้ มีข่าวคราวจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากต่างประเทศแล้วส่งเข้ามาในประเทศ โดยมีสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่งขานรับขับเคลื่อน
จนหลายคนเชื่อว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศบรรลุผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง และเป็นพลังอันสำคัญที่จะทำให้คุณทักษิณกลับเข้ามามีอำนาจในราชอาณาจักรนี้อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนยุทธศาสตร์ที่เรียกว่าชนบทล้อมเมืองนั้น มุ่งหมายเอาการเคลื่อนไหวในสองลักษณะ คือสร้างความนิยมศรัทธาในหมู่ประชาชนคนยากคนจนในชนบท ให้เชื่อและเข้าใจว่าบรรดาผลประโยชน์และกองทุนสินเชื่อต่างๆ ที่รัฐบาลหว่านปลายลงไปในชนบทนั้นเป็นเงินให้เปล่าที่คุณทักษิณประทานให้ ทำให้ฐานะของคุณทักษิณเป็นประหนึ่งพระศรีอาริย์มาอุบัติขึ้นในโลกแล้ว
ในขณะเดียวกันก็มุ่งสร้างฐานความนิยมทางการเมือง อันมีผลต่อการเลือกตั้งทุกระดับ ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ว่าใครหน้าไหนก็ตามที่ถูกส่งลงสมัครรับเลือกตั้งแล้วจะได้รับการบริหารจัดการให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งไป และส่งผลโดยตรงให้บรรดานักการเมืองทุกระดับต้องค้อมหัวเข้าสวามิภักดิ์ มิฉะนั้นแล้วก็จะต้องสอบตก
ยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมืองประสบผลสำเร็จอย่างใหญ่หลวง เพราะได้ทำให้พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลสามารถครองอำนาจรัฐได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าวิธีการนั้นอาจไม่ใช่วิถีทางที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ จนต้องถูกดำเนินการเรื่องยุบพรรคก็ตาม แต่ก็ได้ครองอำนาจรัฐไปแล้ว และได้ใช้อำนาจรัฐนั้นอย่างเต็มรูปแบบ
นักการเมืองคนสำคัญของฝ่ายรัฐบาลได้ประเมินว่าสถานการณ์ในขณะนี้ระบอบทุนสามานย์ประสบชัยชนะเด็ดขาดแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือการกวาดล้างสะสางเสี้ยนหนามหรือเศษขยะที่เกะกะรุงรังอยู่เท่านั้น
นั่นเป็นสภาพและความเชื่อของผู้คนในฝ่ายรัฐบาล ในขณะที่ฝ่ายซึ่งไม่เห็นด้วยก็ขับเคลื่อนการต่อสู้อย่างยืดเยื้อยาวนาน กว้างขวาง ยิ่งกว่าการต่อสู้ครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวไทย
ในท่ามกลางการต่อสู้นั้น คุณทักษิณและภริยาถูกศาลพิพากษาจำคุกและพากันเดินทางออกไปพำนักในต่างประเทศ โดยมีฐานการเคลื่อนไหวที่อังกฤษและจีน ในขณะที่ภายในประเทศ พรรคพลังประชาชนก็สามารถครองอำนาจรัฐได้อย่างต่อเนื่อง และการเคลื่อนไหวมวลชนก็ขยายตัวและยกระดับความเข้มแข็งขึ้นเป็นลำดับ
การชุมนุมพลคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 และคุณทักษิณได้โฟนอินเข้ามาโอภาปราศรัยในที่ชุมนุมนั้น ได้ปรากฏภาพมหกรรมสีแดงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นครั้งแรกและสร้างความสะเทือนไหวไปทั่วประเทศ รวมทั้งเกิดความตะลึงพรึงเพริดไปในหลายประเทศด้วย
แกนนำสำคัญของพรรคพลังประชาชนได้ประชุมปรึกษาแล้วแถลงว่าผลการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองสรุปว่า สถานการณ์กำลังผ่านขั้นยันไปสู่ขั้นรุกที่จะสามารถบดขยี้ชนชั้นสูงผู้มีอภิสิทธิ์ให้ย่อยยับในเร็ววันได้แล้ว
ความเชื่อมั่นดังกล่าวทำให้มีการปล่อยข่าวลองเชิงออกมาว่า คุณทักษิณจะเดินทางกลับประเทศอีกครั้งหนึ่งโดยมีแผนงานทางกฎหมายรองรับ คือหลุดพ้นจากโทษและข้อกล่าวหานานาชนิด เพื่อนำการต่อสู้ด้วยตนเอง
ประกายสีแดงทอทาบไม่ทันสร่าง เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันก็เกิดขึ้น นั่นคืออังกฤษได้ถอนการอนุญาตให้คุณทักษิณและภริยาเดินทางเข้าประเทศ และห้ามสายการบินทั่วโลกนำบุคคลทั้งสองเข้าอังกฤษ มิฉะนั้นจะมีโทษตามกฎหมาย
พลพรรคฝ่ายรัฐบาลพากันช็อกและไปไม่ถูก ราวกับปลาช่อนถูกไฟฟ้าช็อตฉะนั้น ความฮึกเหิมลำพองทรุดฮวบลงในพริบตา
ตามมาด้วยข่าวคราวคำปฏิเสธของรัฐบาลหลายประเทศที่ถูกสื่อมวลชนในประเทศสร้างข่าวกล่าวอ้างว่านิยมชมชอบคุณทักษิณ ถึงกับเชิญเป็นที่ปรึกษาบ้าง ให้เป็นพลเมืองกิตติมศักดิ์บ้าง ให้ที่พำนักเพื่อตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นบ้าง หรือแม้ให้เครื่องราชอิสริยาภรณ์บ้าง
สร้างข่าวกันถึงขนาดรัฐบาลบางประเทศสั่งกองทัพให้เตรียมพร้อมเพื่ออารักขาคุณทักษิณในการเดินทางไปประเทศนั้น
แต่พลันที่รัฐบาลต่างๆ ที่ถูกกล่าวอ้างถึงปฏิเสธอย่างเป็นทางการว่าไม่เคยรู้เรื่อง ไม่เคยรู้เห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว จึงทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้เช่นเห็นชาติว่ามีกระบวนการโกหกพกลมขึ้นในวงการสื่อมวลชน ปั้นข่าวเท็จลวงโลก และหลอกคนไทยทั้งประเทศ
แต่น่าสังเกตตรงที่คุณทักษิณก็ได้อ้างคำเชื้อเชิญดังกล่าวนั้นในการโฟนอินว่าหลายประเทศทั่วโลกต้องการให้ไปช่วย แต่ประเทศไทยซึ่งเป็นมาตุภูมิแท้ๆ กลับขับไล่ไสส่ง
มิหนำซ้ำ หลายประเทศในเครือจักรภพและในกลุ่มอาเชียนได้แสดงท่าทีที่ไม่ยินดีต้อนรับให้คุณทักษิณพำนักในประเทศ จนเกิดเป็นกระแสทางสากลว่าประเทศต่างๆ มุ่งดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทย
จึงทำให้คุณทักษิณไม่มีที่พำนักอาศัย แม้ว่าเดินทางไปยังบางประเทศในตะวันออกกลางแล้ว แต่ก็ปรากฏข่าวต่อมาว่าเป็นการเดินทางไปชั่วคราว จะต้องเดินทางออกไปอีก แต่จะไปที่ใดไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงเท่ากับขณะนี้คุณทักษิณยังไม่มีพสุธาจะอาศัย ดังคำเตือนของหลวงตามหาบัวแล้ว
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่ายุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศนั้น แท้จริงเป็นเพียงมายาภาพที่หลอกคนอื่นและอาจหลอกคุณทักษิณด้วยก็เป็นได้ และไม่มีคุณค่าในเนื้อหาหรือดอกผลใดๆ ที่มีผลต่อการเมืองในประเทศไทยเลย มีแต่จะทำให้เกิดความอับอายขายหน้าและน่าสมเพชกับผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น
ในวันนี้ยุทธศาสตร์คีมเหล็กจึงเหลืออยู่เพียงขาเดียวคือยุทธศาสตร์ชนบทล้อมเมืองว่าจะมีคุณค่าในทางความเป็นจริงสักแค่ไหน หรือว่าส่วนใหญ่เป็นเพียงมายาภาพ หรือการกุข่าวสร้างภาพลวงโลก หรือว่าเป็นแผนการหาเงินใช้ของนักการเมือง หรือแผนการข่มขวัญคนไทยเหมือนกับยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ซึ่งจะต้องติดตามดูกันต่อไป!