รองนายกฯ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองเสี่ยงต่อความรุนแรง แฉ 3 ยุทธศาสตร์ 2 ยุทธวิธี หวังคืนสู่อำนาจและล้มล้างคำพิพากษา ประเมินการชุมนุมกลางเดือน มี.ค.เข้าข่ายก่อจลาจล
วันนี้ (2 มี.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมส.ส.พรรคว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบัน โดยบอกให้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเฝ้าระวัง เพราะยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงในเดือน มี.ค. โดยมีการวิเคราะห์ว่าจะมีการพุ่งเป้าใน 3 ยุทธศาสตร์ 2 ยุทธวิธี โดยยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ จะให้มีการคืนทรัพสินย์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยดำเนินการล้มคำพิพากษา ไม่ให้มีการบังคับคดีตามคำวินิจฉัยของศาล โดยจะเคลื่อนไหวให้เกิดความวุ่นวายและความรุนแรง สร้างภาพให้หน่วยงานที่มีหน้าที่บังคับคดีเสี่ยงต่อความรุนแรง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ ไม่ให้ความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะคดีอาญา และจะมีการเคลื่อนไหวเพื่อคุกคามกระบวนการยุติธรรม ทั้งชั้นก่อนศาล และชั้นศาล พร้อมกับขับเคลื่อนให้มีการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 เพื่อให้ที่มาของคตส.และคดีอื่นๆ เป็นโมฆะ และยุทธศาสตร์ที่ 3 คือ การคืนสู่อำนาจ โดยจะเคลื่อนไหวเพื่อล้มรัฐบาล กดดันให้มีการยุบสภา โดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จะสร้างความวุ่นวาย พุ่งเป้า โยนความรับผิดชอบให้รัฐบาลด้วยการสร้างข่าวเท็จ สำหรับการเคลื่อนไหวใน 2 ยุทธวิธีคือ การสร้างความรุนแรงและทำลายความเชื่อมั่น พุ่งเป้าไปยังกระบวนการยุติธรรม สถาบันองคมนตรี สถาบันทหาร
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้วิเคราะห์ว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วที่ทำอะไรโดยไม่ประมาท และศึกษาบทเรียนที่ผ่านมาอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ได้มี ส.ส.ของพรรคในหลายพื้นที่สะท้อนว่า มีการเตรียมการชุมนุมในวันที่ 12-14 มี.ค. จึงวิเคราะห์กันว่า หากมีความรุนแรงเกิดขึ้นจะมีการโยนความผิดให้รัฐบาล นอกจากนี้ ยังได้มีการพูดคุยถึงกรณีเคทองที่ระบุว่าจะเตรียมการก่อความรุนแรงเพิ่ม และพุ่งเป้าหมายไปที่ตัวบุคคล โดยพรรควิเคราะห์ว่า เป็นการเข้าข่ายเตรียมก่อจลาจล อาฆาตมาดร้ายล่วงหน้า ซึ่งต้องดำเนินการ และรัฐบาลได้บอกว่าเฝ้าระวังบุคคลนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว และเตรียมที่จะดำเนินการกับบุคคลนี้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ต้องดูว่าบุคคลนี้เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ มีการพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อไหร่ เพราะท่าทีของเคทองสอดคล้องกับคำพูดของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย