“พิภพ” จี้ “ป๊อก” ยืดอกสามศอกป้อง ปชช. อย่ารอจนเลือดนองแผ่นดิน

“พิภพ” จี้ “อนุพงษ์” แสดงจุดยืนแก้ปัญหาม็อบอัปรีย์ที่อุดรฯ ในฐานะผอ.กอ.รมน. หรือจะรอให้ชีวิตและเลือดเนื้อประชาชนนองแผ่นดิน ปกป้องอกสามศอกของผู้นำทัพบกเสียก่อน เย้ย หากคิดไม่ตกก็ไปเสียให้พ้นทัพบกจะได้ไร้อำนาจอย่างแท้จริง ชี้ “หุ่นเชิด” เริ่มจนตรอก กดดัน “หมัก” จำต้องปล่อยสันดานเก่านิยมความรุนแรงออกมาแก้ปัญหาเพื่อรักษาสถานภาพของตัวเอง

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย 

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.เวลา 21.25 น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า อาการจนตรอกของรัฐบาลเริ่มมองเห็นแล้ว มนุษย์ถ้าไม่ยอมใช้เหตุผลพูดคุยและรับฟังกัน แต่ใช้ความรุนแรงเข้ามาแสดงว่าขาดเหตุผลแล้ว ประวัติศาสตร์ของนายกฯ (นายสมัคร สุนทรเวช) คนนี้ ถ้าใครรู้ว่าตั้งแต่เหตุ 6 ตุลา พฤษภาทมิฬ นายกฯคนนี้เป็นคนสนับสนุนความรุนแรงมาตลอด วันนี้เราจึงไม่ได้ยินเสียงห้ามปรามหรือแสดงความเสียใจจากเขา ที่มีประชาชนถูกทำร้ายจนเกือบตายและอาจตายได้แล้วที่อุดรธานี สักคำจากปากนายกฯ

“ถ้าปล่อยให้นายกฯ คนนี้เป็นนายกฯต่อไป ความรุนแรงในสังคมไทยจะไม่ใช่เฉพาะความรุนแรงทางเศรษฐกิจการเมือง แต่จะรุนแรงที่ถึงเลือดถึงเนื้อ บอกได้เลยว่า นายกฯคนนี้ถ้าบริหารไปจะเกิดการนองเลือดทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่พูดลอยๆ ประวัติศาสตร์ของนายกฯคนนี้ที่เกียวข้องกับการสนับสนุนความรุนแรงและได้ดิบได้ดี เป็น รมต.หลังจากความรุนแรงผ่านไป พิสูจน์ชัดแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ 6 ตุลา พฤษภา 35 วันนี้เขาก็เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่บนความรุนแรง” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ฉะนั้นสังคมจะต้องมาพิจารณาว่านายกฯคนนี้ซึ่งแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจไม่ได้ แก้ไขปัญหาชายแดนไม่ได้ แล้วยังประณามคนที่ไปต่อสู้เพื่ออธิปไตยของชาติ ปล่อยให้นักการเมืองของตนเองสนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ที่ใช้การชุมนุมอย่างสันติวิธี แล้วสื่อมวลชนไปลงได้ยังไง พันธมิตรฯ ปะทะกับกลุ่มที่ต่อต้านพันธมิตรฯ เราไม่ได้ปะทะเลย เราได้แต่อยู่เฉยๆ อย่างไรก็ตาม ได้บอกกับสื่อมวลชนไปแล้วว่า ถ้ายังนำเสนอว่าพันธมิตรฯปะทะกับกลุ่มที่ต่อต้านแสดงว่าสื่อกำลังเสนอข่าวเท็จและสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก เพราะเหตการณ์จริงต้องใช้ว่าฝ่ายตรงข้ามพันธมิตรฯ คือรัฐบาล วันนี้พิสูจน์ได้เลยว่า ฝ่ายตรงข้ามพันธมิตรญ ซึ่งเป็นอันธพาลครองเมือง นปก. ได้รับแผนจากรัฐบาลสนับสนุนให้มาใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ซึ่งชุมนุมอย่างสงบสันติ แม้แต่การสัมมนาวิชาการที่หอประชุมม.ธรรมศาสตร์ แล้วตำรวจปล่อยเฉย ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ไม่เคยใช้ความรุนแรงเลย มีเพียงการป้องกันตัวเองมาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม นายพิภพตั้งข้อสังเกตว่า ในการแถลงข่าวที่บ้านพระอาทิตย์ สื่อต่างประเทศให้นอกสนใจมากขึ้น องค์กรสิทธิมนุษยชนเริ่มให้ความสนใจว่าเหตุการณ์ที่รัฐบาลสนับสนุนให้เกิดความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ซึ่งแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างสงบสันติ ถ้าไม่สามารถหยุดยั้งได้ จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง

นอกจากนั้น นายพิภพยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ระบุว่าไม่มีอำนาจจัดการกับม็อบถ่อยที่อุดรธานีว่า ถามหน่อยว่าอำนาจ กอ.รมน.ใครๆ ก็รู้ว่ามีอำนาจสั่งการ ทหาร ตำรวจและพลเรือนได้โดยมีกฎหมายรองรับ มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงภายในประเทศ

นายพิภพ กล่าวว่า ตำรวจอยู่ภายใต้ใคร ผู้กำกับ ผู้ว่าฯ ผบ.ตร. รมว.มหาดไทย นายกรัฐมนตรี วันนี้ไม่มีเสียงจากคนเหล่านี้ออกมาปรามและขอโทษเลย และยังไม่มีเสียงเลยว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพราะภาพวิดีโอชัดเจน โดยเฉพาะนายขวัญชัย (หัวหน้าม็อบถ่อย) ซึ่งออกมาชัดเจน แต่เฉลิมยังโทรศัพท์ไปชมอีก

จากนั้น นายพิภพได้อ่านข่าวคำสัมภาษณ์ของนายขวัญชัยที่ระบุว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย โทรศัพท์มาชื่นชมว่าเป็นจังหวัดต้นแบบที่ปกป้องประชาธิปไตย

“แสดงว่า รมว.มหาดไทย มีนโยบายใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องประชาธิปไตย เรียกร้องเอกราชและตรวจสอบรัฐบาล โดยอ้างว่าปกป้องประชาธิปไตย อย่างนี้ควรจะลงนรกไหม ไม่ใช่ขับออกจาก รมว.มหาดไทยอย่างเดียว ต้องส่งไปรับกรรมเลย” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อพวกเขาหมดอำนาจเราจะเอาขึ้นศาล ซึ่งเขาจะหมดอำนาจเร็วๆ นี้ โดยหลักทฤษฎีการเมืองแล้ว ถ้ารัฐบาลไม่สามารถใช้เหตุผลในการปกครองประเทศได้ รักษาความดูแลความปลอดภัยของประเทศได้ และพยายามที่จะให้รัฐบาลคงอยู่ต่อไปโดยใช้ความรุนแรง สนับสนุนให้ประชาชนมาใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ ยุยงให้ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯจุดที่จะเปิดเวที แล้วอ้างว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด แสดงว่ารัฐบาลกำลังอ่อนแอถีงที่สุดแล้ว จนตรอกแล้ว ไม่สามารถใช้เหตุผล ต้องใช้ความรุนแรง ทั่วโลกเป็นแบบนี้รัฐบาลที่จนตรอกจะเริ่มใช้ความรุนแรงกับประชาชน แต่สุดท้ายจะถูกประณามว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ทั้งนี้ นายพิภพ ยังระบุถึง นพ.เหวง โตจิราการ ที่โทรศัพท์เข้าไปชื่นชมการกระทำของม็อบถ่อยด้วยว่า คนเป็นหมอต้องมีเมตตากรุณา แล้วจะรรักษาคนไข้ได้ยังไง เห็นคนเจ็บต่อหน้าทางทีวี โทรไปให้กำลังใจให้ทำร้ายกันยิ่งขึ้นได้ยังไง เป็นหมอโรคเลือดหรือ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่จะยื่นแพทย์สภา ว่าพฤติกรรมของ นพ.เหวง ไม่เหมาะจะมีคำว่านายแพทย์นำหน้า ต้องถอดใบประกอบโรคศิลป์ ใครไปยื่นที่แพทยสภาก็ได้ ให้พิจารณาพฤติกรรมของนพ.เหวง ว่าเหมาะสมหรือไม่

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้น รัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้เชื่อมโยงกับตัว เชื่อมโยงมาตลอดตั้งแต่ นปก. สนามหลวง เมื่อเป็นรัฐบาล คนของนปก.ก็ได้เป็รมต.เป็นโฆษกฯ แล้วยังมีหน้าประกาศอีกว่าที่ได้เป็ฯเพราะผลงานที่สนามหลวงอีก เท่านั้นไม่พอ เมื่อมีรัฐบาลมีการเลือกตั้งแล้ว เมื่อพันธมิตรฯ ได้แถลงการณ์เป็นระยะๆ จนกระทั่งตัดสินใจชุมนุมที่ธรรมศาสตร์ ก็ยังมี นปก.ป่วนเป็นระยะๆ และวันนี้ทางช่องเอ็นบีที ก็ให้ นปก.ทั้งทีมมาตอบโต้พันธมิตรฯทุกวัน แล้วอย่างนี้จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงได้หรือ แล้วจากเหตุการณ์ที่อุดรธานี รมว.มหาดไทยก็ยังโทร.ไปแสดงความยินดี แทนที่จะกำชับให้ผู้ว่าฯตรวจสอบอย่างเข้มข้ม จับคนก่ออาชญากรรมเข้าคุกให้หมด

นอกจากนั้น นายพิภพ ยังตั้งคำถามกับผู้ชุมนุมว่า เรื่องนี้เชื่อหรือไม่ว่านายเนวิน ชิดชอบ และที่อยู่หลังเนวินอีกคน คือ ทักษิณ ชินวัตร จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เชื่อไหมว่าเขาเกี่ยวข้อง ถึงแม้จะออกมาให้สัมภาษณ์ตีปลาหน้าไซให้ประชาชนสามัคคีกัน ถามหน่อยว่าพรรคไทยรักไทย บริหารประเทศมา 5 ปี และหนุนตั้งพรรคพลังประชาชนมาได้สร้างความสามัคคีสักนิดไหม

นายพิภพ กล่าวว่า วันนี้ชัดเจน เราสามารถเชื่อมโยง ต่อจิ๊กซอว์ได้ เดิมทีเคยขมุกขมัว แต่วันนี้เริ่มชัดขึ้นทุกเรื่อง คนอยู่หลั้งจิ๊กซอว์คือใคร ฉะนั้น ถ้าการเมืองยังเป็นนอมินีมีคนอยู่เบื้องหลังเช่นนี้แล้วพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทยที่สลายไปแล้ว ได้เลือกคนที่เคยเกี่ยวข้องและประชาชนสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในอดีตมาเป็นนายกฯ แล้วไม่ปลดนายกฯคนนี้ ยังชื่นชมอยู่ แสดงว่าผู้อยู่เบื้องหลังจิ๊กซอว์ต้องการให้เกิดความรุนแรงต่อเนื่อง

“ฉะนั้น ทหาร พล.อ.อนุพงษ์ อย่าดีแต่ทำรัฐประหารเมื่อจวนตัว กว่าจะจวนตัวในคราวนี้ ประชาชนอาจจะบาดเจ็บล้มตายไปอีกมาก และอาจจะเกิดสงครามการเมือง เกิดวิกฤตไปทั่วประเทศ เกิดหายนะภัย ฉะนั้นเมื่อท่านมีอำนาจใน กอ.รมน. ความมั่นคงของชาติกำลังถูกท้าทาย อย่าบอกว่าไม่มีอำนาจ ถ้าเชื่อว่าตัวจะไม่มีอำนาจ ก็ลองออกจากผบ.ทบ.สิจะได้รู้ว่าไม่มีอำนาจจริง แต่เมื่ออยู่ใน ผบ.ทบ. รักษาการ ผอ.กอ.รมน. แล้วบอกไม่มีอำนาจ แล้วใครมีอำนาจ ให้คุณสมัครและเฉลิมมีอำนาจหรือ ต้องถามว่า ทหาร ผบ.ทบ.ต้องการให้ประชาชนเป็นแนวหน้าเพื่อป้องกันตัวเองจากการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทรราชย์ ขายชาติ โดยทหารนิ่งเฉยอย่างนั้นหรือ ทหารอยากเห็นเลือดเนื้อประชาชน ล้มตายไปอีกเท่าไหร่ ใช้อำนาจของท่านตามกฎหมาย ออกมาจัดการความรุนแรงในสังคมไทย อย่าให้แผ่ออกไป อย่าบอกว่าตัวเองไม่มีอำนาจ ถ้าบอกว่าไม่มีอำนาจลาออกไปเลย” นายพิภพ กล่าว

นายพิภพ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างที่เราเรียกร้อง นักวิชาการที่ต่อต้านรัฐประหารต้องรับทราบว่า เราเรียกร้องทหาร ตำรวจ ข้าราขการ ให้ใช้อำนาจตามที่กฎหมายมี ไม่ได้เรียกร้องเกินไปกว่านั้น เรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายได้ให้ไว้ วันนี้แม้แต่หน้าที่ตามกฎหมายก็ยังไม่ทำ รออะไรอยู่ รอให้มีคนตายบาดเจ็บนองเลือดไปทั่วหรือ ถามตัวเองเสียคืนนี้ แล้วพรุ่งนี้ออกมาแถลงจุดยืนที่ชัดเจนในฐานะ ผอ.กอ.รมน. และผบ.ทบ.ด้วย

นายพิภพ ยังกล่าวว่า ทหารก็เคยเรียนรู้มาแล้วจากปี 35 ว่ามีกำลังมากน้อยแค่ไหน แต่ทันทีที่เสียสัจจะกับประชาชน ประชาชนออกมาเป็นเรือนแสนเรือนล้าน กองทัพก็ยังต้านไม่ไหว แล้วรัฐฐาลนี้ซึ่งอาศัยแต่รัฐตำรวจจะต้านไหวหรือ แต่ที่เรียกร้อง ผบ.ทบ. เพราะเราไม่ต้องการให้ไทยฆ๋าไทย ถึงแม้เราจะไม่เห็นด้วยในความคิดทางการเมือง เราก็ไม่ต้องการให้เขาล้มตาย แต่เราก็ยอมไม่ได้ที่จะเป็นคนถูกกระทำ อย่าให้อารมณ์ของสันติวิธี อหิงสา ขันติธรรม จะต้องแตกกระจาย แล้วจะต้องป้องกันตัว เกิดเป็นวิกฤตลามไปทั่วประเทศ เราไม่ต้องการ เราต้องการความสงบ สันติ เรายังไม่เคยไปก่อกวนเขาที่สนามหลวงแม้แต่นิดเดียว แต่ยังสนับสนุนด้วยซ้ำว่า ความเห็นที่ต่างทางการเมืองก็สามารถจัดเวทีได้ รัฐบาลมีหน้าที่จัดพื้นที่ให้ห่างกัน และเราก็ไม่เคยเข้าไปกระทบประชิดไหล่ แต่วันนี้ใช้อาวุธครบมือเข้ามาทุบตีฆ่าฟันพี่น้อง เราทนไม่ไหวแล้ว

“ขอเตือนรัฐบาลเป็นครั้งสุดท้าย อย่าเอาประสบการณ์ในการใช้ความรุนแรงในอดีตของเฉลิม ของสมัคร มาบริหารประเทศ มิฉะนั้น ประวัติศาสตร์จะตราว่าท่านเป็นคนทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ จนถึงเลือดตกยางออก แล้วท่านจะถูกประณาม แล้วถูกขึ้นศาลอาชญากร แต่เราก็ต้องอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด เรียกร้องผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้มาปฏบัติหน้าที่ เรียกร้องให้ผู้ที่ปฏิบัติหน้ราที่ไม่ถพูกต้องจะต้องออกไป ผู้อยู้เบื้องหลังทั้งหมดจะต้องยุติการกระทำ ไม่เช่นนั้นท่านไม่มีแม้แผ่นดินจะอยู่ แม้จะอยู่ต่างประเทศ เราก็จะตามเอามาขึ้นศาล” นายพิภพ กล่าว