ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มมวลชนพลังบริสุทธิ์ในเขตจังหวัดชลบุรี รอสัญญาณเป่านกหวีดดีเดย์ พร้อมเคลื่อนทัพแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กรุงเทพฯ ชี้ชุมนุมอย่างยาวนานแต่พวกหน้าด้านยังครองบ้านกินเมือง
ตามที่ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” เตรียมตัวให้สัญญาณเป่านกหวีดดีเดย์ขับไล่กลุ่มมารการเมืองนั้น ด้านมวลชนผู้รักชาติภาคต่างๆ ในเขตจังหวัดชลบุรี ต่างออกมาให้ข้อมูลด้านความพร้อมการยกทัพแนวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในหลากหลายทรรศนะ
นายชินณภัทร์ แสงรังษี ประธานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดอยู่โดยตลอด แต่ระยะหลังสุขภาพไม่ค่อยจะสู้ดีนักจึงต้องกลับมาพักผ่อนที่บ้าน แต่หัวใจมีคำว่าสู้อยู่แล้ว ถึงจะต้องพลีชีพและตายในการเดินทางในครั้งนี้ก็ยอม เพราะถือว่าได้เสียสละชีวิตเพื่อชาติ ชีวิตที่เหลืออยู่ก็เปล่าประโยชน์ หากได้รับรู้ข้อมูลว่าขณะนี้ มีพวกโกงบ้านโกงเมืองอยู่มากมาย แต่สุดท้ายเรากลับนิ่งเฉย ไม่ได้ทำอะไรเพื่อแสดงออกถึงความหวงแหนประเทศชาติเลย
ทั้งนี้ หากกลุ่มพันมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ และสามารถขับไล่พวกทรราชไปได้แล้ว อยากเสนอให้มีการปิดบ้านล้างเมืองสัก 2 ปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สถาบันพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติ เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก อยากให้มีการพิจารณาข้าราชการระดับสูงในทุกองค์กรที่ใส่เกียร์ว่าง และเอื้อประโยชน์ในการทำเลวของพวกทรราชย์ อาจจะย้ายเข้ากรุ หรือพิจารณาให้ออกจากราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้มีบทบาทในรูปแบบต่างๆ เพื่อป้องกันความด่างพร้อยของประเทศ หรืออาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคส่วนต่างๆ มาดูแลแทน เพื่อประเทศชาติถูกรังแกต่อไปในอนาคตข้างหน้า
ด้าน นางสาวจิตตานันท์ ไทยอานนท์ แฟนพันธุ์แท้รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จ.ชลบุรี ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่ม มทด. ชลบุรี กล่าวด้วยว่า เรื่องที่ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมตัวให้สัญญาณเป่านกหวีดดีเดย์ให้ประชาชนมารวมตัวกันเพื่อหาบทสรุปการต่อสู้กับพวกมารการเมืองนั้น
ขณะนี้ตนและกลุ่มได้รอสัญญาณอยู่อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะเดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าวที่กรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน เพียงแต่รอว่าแกนนำพันธมิตรจะให้สัญญาณเมื่อไรเท่านั้น เพราะขืนปล่อยให้พวกเลวระยำครองบ้านครองเมืองอยู่อย่างนี้ ก็จะมีแต่ความชิบหาย ที่ผ่านมามีการชุมนุมมาเป็นระยะเวลายาวนาน แต่นักการเมืองหน้าด้านแสนเลวก็ยังกินบ้านกินเมืองอยู่ ยิ่งพวกชั่วยิ่งอยู่นาน ยิ่งพากันชั่ว สุดท้ายประเทศชาติจะย่อยยับดับสูญ
ขณะที่ นางกั้ว ชื่นบาน สมาชิกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชลบุรี รุ่นใหญ่สูงวัยที่ร่วมเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพมหานครฯ อย่างต่อเนื่องนั้น ได้กล่าวอีกว่า ถึงแม้อายุจะมากแล้วแต่ก็ไม่มีความเกรงกลัวต่อพวกทรราช แม้ลูกหลานพยายามห้ามปราม แต่ด้วยจิตใจแน่วแน่ ทำให้ทุกคนในบ้านมีความเข้าใจ เพราะรู้สึกไม่ดีและไม่ยอมที่จะให้พวกโกงกินมาดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ อันมีในหลวงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย จากการดูอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่าพวกขี้โกงก็จะเข้าข้างพวกมันเอง ยอมไปตายในการร่วมชุมนุม ยอมพลีชีพโดยไม่เสียดายชีวิต เพราะถือว่าเป็นการใช้หนี้ให้แผ่นดิน ซึ่งจะยอมปล่อยให้พวกทรราชย์อยู่กันอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของนางพจนารถ แก้วผลึก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงเดี่ยวของ จ.ชลบุรี ให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวใน 2 สถานะคือ สถานะ ส.ส.ที่เข้ามาทำงานเพื่อประชาชน ก็ยินดีที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป่านกหวีดดีเดย์ เพราะถือว่าเป็นการทำเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของ ส.ส.อยู่แล้ว
ในส่วนสถานะของประชาชนผู้รักชาติคนหนึ่งก็พร้อมที่จะร่วมกับการชุมนุมหลังจากการให้สัญญาณดีเดย์ เพราะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง การชุมนุมดังกล่าวเหมือนสภาประชาชนที่แท้จริง การเคลื่อนไหวอาจได้รับผลกระทบแต่จำเป็นต้องเสียสละ การให้สัญญาณเป่านกหวีดดีเดย์เป็นเรื่องที่สมควรยกย่อง 5 แกนนำพันธมิตรก็สมควรได้รับการยกย่องเพราะได้แสดงออกถึงการรักษาผลประโยชน์ของชาติ เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเสียหายอย่างมหาศาลมามากพอแล้ว
นายธงชัย มานะเจริญวณิช ผู้ประกอบการรายหนึ่งของจังหวัดชลบุรี ที่เดินทางไปร่วมชุมนุมกู้ชาติอยู่บ่อยครั้ง แสดงความคิดเห็นว่า การชุมนุมอย่างยาวนานนั้น สงสารประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมนานหลายๆ วันเพราะทุกคนต้องทำมาหากิน ทำให้รายได้ที่เคยจุนเจือครอบครัวขาดหายไป ซึ่งรัฐบาลน่าจะมองตรงจุดนี้ เพราะปากท้องของประชาชนสำคัญมาก ทุกวันนี้คนไทยเจออุปสรรครอบด้าน
ส่วนตัวนั้นถ้ามีเวลาก็จะทิ้งงานไปร่วมชุมนุมตามความเหมาะสม เพราะไปอยู่ยาวคงไม่ได้ ธุรกิจที่ทำอยู่อาจได้รับผลกกระทบ หากมีการดีเดย์เป่านกหวีดก็จะดีมาก ประชาชนจะได้ข้อสรุป และได้รับความชัดเจน เพื่อจะได้กลับไปทำมาหากินและประกอบอาชีพอย่างเก่า เพราะยิ่งยาวนานก็จะทำให้ยิ่งยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อผู้ชุมนุมซึ่งเป็นผู้รักชาติอย่างแท้จริง ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่ นางรัตนา อ่องสมบัติ เลขาธิการกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัทยา-นาเกลือ ให้ข้อมูลด้วยว่า ทางกลุ่มพันธมิตรฯ พัทยานั้น ทยอยเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่องโดยสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนไปอยู่แล้ว ซึ่งหากว่าทาง 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยให้สัญญาณเป่านกหวีดเมื่อไรนั้น ก็ยินดีจะเดินทางไปร่วมด้วยอย่างไม่มีข้อสงสัย ซึ่งจะเดินทางไปทั้งกลุ่มเฉกเช่นที่เคยไปร่วมกิจกรรมภาคประชาชนในทุกรูปแบบที่ผ่านมา
แต่ทว่าหากรับทราบล่วงหน้าว่าจะมีการเป่านกหวีดให้สัญญาณ ก็จะสามารถกระจายข่าวได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ซึ่งในการนี้จะได้เตรียมตัวในเรื่องของการเดินทางไปร่วมชุมนุม แต่ยังกังวลอยู่ว่าจะมีการสกัดกั้นจากกลุ่มตำรวจและข้าราชการในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯ พัทยารอเพียงสัญญาณนกหวีดเท่านั้น และจะหาทางเดินไปร่วมกิจกรรมขับไล่ทรราชย์
ด้าน นางศิริรัตน์ โพธิ์ทอง สมาชิกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พนัสนิคม-ชลบุรี กล่าวอีกว่า ถ้ามีการเป่านกหวีดดีเดย์ ทางพนัสนิคมคงเดินทางไปกันเยอะ เพราะตอนนี้รอคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำเป่านกหวีดดีเดย์ เพื่อขับไล่คนขี้โกง เพราะถ้ามีระบบทักษิณเดิมๆ แบบนี้ เรื่องนี้ก็จะยังไม่จบ เป็นเรื่องที่ดีที่มีการเมืองภาคประชาชนข้างถนน แต่พลังประชาชนก็มีไม่เพียงพอ แต่ก็หาที่พึ่งไม่ได้ แกนนำพันธมิตรก็น่าสงสารเพราะเงินทุนไม่มี อยากให้มีการกวาดล้างการโกงกินทั้งระบบให้หมดสิ้นไป ปราบรัฐบาลขี้ฉ้อให้หมดไปจากประเทศไทย ประชาชนจะได้ไม่ต้องออกมานั่งข้างถนนแบบนี้อีก
“การดู ASTV ทำให้คนฉลาดมากขึ้น ต้องขอบคุณเคเบิลทีวีที่ปล่อยสัญญาณก่อนจะซื้อจานดาวเทียมมาดูเอง ทำให้ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งฟรีทีวีช่องอื่นๆ ให้ไม่ได้ขณะนี้รอ 5 แกนนำเป่านกหวีดให้สัญญาณเท่านั้น ก็พร้อมที่จะเดินทางไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน เพียงแต่ให้ทราบว่ามีการส่งสัญญาณเมื่อไร ชาวพนัสนิคมซึ่งติดตามความจริงอยู่แล้วเดินทางไปร่วมด้วยอย่างแน่นอน สุดท้ายเราต้องพึ่งตัวเราเอง ไม่หวังพึ่งใครแล้ว เคยคิดว่าทหารจะช่วยได้จะพึ่งพาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่อย่างที่คิด จะไม่ยอมให้เสียของเหมือนครั้งที่มีการปฏิวัติที่ผ่านมาอีกแล้ว” ตัวแทนชาวพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี กล่าวอย่างมีอารมณ์
การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพลังมวลชนจิตใจรักชาติด้วยความบริสุทธิ์ ที่มีมาอย่างยืดเยื้อยาวนานกว่า 1 เดือนนั้น หลายภาคส่วนอาจมองว่าเป็นความน่ารำคาญ เป็นความน่าเบื่อ แต่เสียงสะท้องที่ยังคงดังอยู่ในเบื้องลึกของหัวใจผู้ที่อยู่ในที่ชุมนุมเหล่านั้นยังคงดังกึกก้องอยู่ว่า “จะเบื่อไม่ได้ จะถอยไม่ได้ ถ้าเบื่อจะเสียชาติ ยิ่งถอยยิ่งเสียชาติ”
เสียงที่ดังในใจผู้คนเหล่านี้ คนไทยคนอื่นอาจไม่ได้ยิน อาจไม่เข้าใจ เพราะว่าไม่ได้ลึกซึ้งกับการต่อสู้เพื่อประเทศ และยังคงทำงานทำกิจกรรมในชีวิตของตนเองเฉกเช่นที่เป็นอยู่ โดยมิได้แม้แต่เหลือบมองเบิกตาดูในความเป็นจริงของการเมืองไทยเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสุดท้ายสิ่งที่คนในที่ชุมนุมเหล่านี้คิดได้เองในขณะนี้คือ “จะพึ่งพาใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากพึ่งพาตัวเอง” ดังคำพระที่ว่า “อตฺตาหิ อตฺตาโนนาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”