เปิดตำนาน “วัดปงสนุก” แห่งเขลางค์นคร ธรรมสถานหนึ่งเดียวของไทย ที่เพิ่งได้รับรางวัล “Award of Merit” จาก UNESCO ในปี 2008 เผยเส้นทางการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม – สถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในประเทศ จากชุมชน – รัฐ
“วัดปงสนุก หรือวัดปงสนุกเหนือ” ตั้งอยู่ในเขต ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นวัดสำคัญคู่กับจังหวัดลำปางมาช้านาน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยที่เจ้าอนันตยศ ราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (ลำพูน) เสด็จมาสร้างเขลางค์นคร (ลำปาง) เมื่อ พ.ศ.1223 หรือ 1,328 ปีก่อน
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2551 พระครูโสภิตขันตยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดปงสนุกด้านเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง เพิ่งได้รับมอบรางวัล (Award of Merit) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางด้านวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO โดยมี ดร.ริชาร์ด อิงเกิลฮาร์ท ที่ปรึกษาอาวุโสในผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ด้านวัฒนธรรมประจำองค์การยูเนสโก เป็นผู้ถวายรางวัล
ลุงมานพ คันธวิสูตร มรรคนายกวัดปงสนุกเหนือ เล่าให้ฟังว่า แม้ตนจะไม่ได้สัมผัสกับวิถีชีวิตในอดีตมายาวนานกับวัดแห่งนี้ แต่ก็ได้รับการบอกเล่าจากพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้ศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำราโบราณ เช่น จากใบลาน และอื่นๆ จนทราบถึงความเป็นมาของวัดแห่งนี้ว่า เดิมวัดปงสนุกมีชื่อเรียกถึง 4 ชื่อ ได้แก่วัดศรีจอมไคล -วัดเชียงภูมิ -วัดดอนแก้ว–วัดพะยาว
จากประวัติศาสตร์พบว่า เป็นชื่อที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การอพยพผู้คนในเหตุการณ์ ช่วงปี พ.ศ. 2346 ที่พญากาวิละได้ยกทัพเข้าโจมตีเมืองเชียงแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งมั่นของพม่า และได้กวาดต้อนชาวเชียงแสนซึ่งเป็นชาวบ้านบ้านปงสนุกมาตั้งถิ่นฐานที่ลำปาง รวมถึงการอพยพของคนเมืองพะยาวที่หนีศึกพม่า ลงมายังลำปาง ชาวปงสนุกเชียงแสนและชาวพะยาว จึงได้ ตั้งบ้านเรือนจนกลายเป็นหมู่บ้าน
ราว พ.ศ. 2386 เจ้าหลวงมหาวงศ์ได้ไปฟื้นฟูเมืองพะเยาขึ้นใหม่ ครูบาอินทจักร พระอุปัชฌาย์ของครูบาอาโนชัยธรรมจินดามุนี ได้นำชาวพะยาว(พะเยา) อพยพกลับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ยอมกลับ และได้มาตั้งรกรากอยู่กับชาวบ้านปงสนุก ตั้งแต่นั้นมาชื่อวัดและหมู่บ้าน จึงเหลือเพียง “ปงสนุก” เพียงชื่อเดียว
ต่อมา จึงได้มีการแบ่งวัดเป็นวัดปงสนุกด้านเหนือและวัดปงสนุกด้านใต้ เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2429 ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากการซ่อมพระเจดีย์ สร้างฉัตร ก่อซุ้มประตูโขง วิหารหลังมียอด หรือวิหารพระเจ้าพันองค์ หรือวิหาร 12 ราศี หรือวิหารสะเดาะเคราะห์ เนื่องจากในสมัยก่อน ทั้งเจ้านายชั้นสูงและประชาชนทั่วไป เมื่อมีเคราะห์ ต่างก็จะพากันมาสะเดาะเคราะห์ ณ วิหารแห่งนี้ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังพบว่า วัดปงสนุก เป็นสถานที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองเสาแรกของลำปาง ก่อนจะนำไปประดิษฐาน ณ บริเวณศาลากลาง(หลังเก่า) ในปัจจุบันด้วย
ด้านนายอนุกูล ศิริพันธุ์ สมาชิกเทศบาลนครลำปางและประธานชุมชนบ้านปงสนุกเหนือ เล่าถึงแรงบันดาลใจของชุมชนที่ต้องออกมาบูรณะเจดีย์และวิหารพระเจ้าพันองค์ ว่า เนื่องจากพระเจดีย์ มีอายุเก่าแก่เท่าๆกับดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ คือกว่า 500 ปี วิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่รวบรวมไว้ทั้งงานด้านจิตรกรรม สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างไทย จีน พม่า ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวของประเทศก็ว่าได้ เริ่มทรุดโทรมลงตามกาลเวลา
ประกอบกับช่วงปี พ.ศ. 2548 มีนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ คนไทย และกลุ่มนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ เข้ามาค้นคว้าหาข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของวัดจำนวนมาก ทำให้วัดปงสนุกได้ตัดสินใจส่งเรื่องให้กรมศิลปากรพิจารณา เพื่อจัดทำโครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์ ซึ่งก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
ตลอดเวลา 4 ปี ที่ได้ร่วมกันบูรณะ ชุมชนฯได้ใช้กิจกรรมด้านศาสนา เป็นตัวชูโรง เพื่อให้ได้ทั้งพลังชุมชนและปัจจัยที่ได้มาในการบูรณะดังกล่าว จนส่งผลให้เกิดกระแสการตื่นตัวในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมในลำปางขึ้น อย่างกว้างขวางจนถึงขณะนี้
ปัจจุบัน “วัดปงสนุก” ได้กลายเป็นแหล่งรวมของสิ่งสำคัญหลายอย่างที่ทรงคุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม มากมาย เช่น พระพุทธรูปไม้ เสาหงส์ ซุ้มประตูโขง ภาพพระบฏ เขียนเรื่องพระเวสสันดรบนผ้าและกระดาษสา หีบธรรมโบราณ และธงช้างเผือกขนาดใหญ่ในสมัยรัชกาลที่6 ซึ่งวัดได้นำมารวมไว้เป็นพิพิธภัณฑ์
นอกจากนี้ ยังมีเจดีย์วิหารพระนอน วิหารพระเจ้าพันองค์ วิหารโถงทรงจัตุรมุขที่มีรูปแบบงดงาม ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมระหว่าง ล้านนาไทย พม่า และจีน ที่ยังคงหลงเหลืออยู่เพียงแห่งเดียวของไทย ที่อาคารหลายแห่งในประเทศ เช่น หอคำไร่แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้นำไปเป็นแม่แบบในการก่อสร้างในปัจจุบัน
ส่วนจุดเด่นของการได้รับรางวัล ด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม จากยูเนสโก ในครั้งนี้ นายอนุกุล กล่าวว่า น่าจะเป็นเพราะรูปแบบของการบูรณะของทางวัดด้วย เพราะกรมศิลปากร ได้ใช้วัสดุเดิมเกือบ100% ในการซ่อมแซม จะมีการเพิ่มเติมสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ไปบ้างบางส่วน ที่ไม่กระทบกับองค์ประกอบหลัก เช่น การใช้น้ำยากันปลวกอย่างดี การทำชั้นรองกระเบื้อง เพื่อไม่ให้น้ำฝนไหลย้อนกลับและซึมลงมา เป็นต้น
เมื่อดูแล้วจะเห็นได้ว่า เป็นการรักษาของเดิมไว้อย่างสมบูรณ์ ทำให้“โครงการอนุรักษ์มรดกทางศิลปกรรม สถาปัตยกรรมวิหารพระเจ้าพันองค์” วัดปงสนุกด้านเหนือ ได้รับคัดเลือกจาก 45 โครงการ ใน 13 ประเทศ ให้ได้รับรางวัล Award of Merit จากโครงการ 2008 Asia-Pacific Heritage Award for Cultural Heritage Conservation จากองค์การ UNESCO
รางวัลดังกล่าว นับว่าเป็นความภูมิใจอย่างยิ่ง ไม่เพียงเฉพาะแต่ชุมชนปงสนุก ชาวลำปาง หากแต่เป็นความภูมิใจของคนไทยทั่วประเทศ ที่จะร่วมกันอนุรักษ์รักษามรดกทางวัฒนธรรม แห่งนี้ให้อยู่คู่กับประเทศไทยสืบไป
สำหรับแนวทางในการอนุรักษ์โบราณสถานแห่งนี้ ในอนาคต นายอนุกูล บอกว่า ต่อไปก็จะเริ่มบูรณะ ซุ้มประตูโขงและบริเวณโดยรอบก่อน เพราะขณะนี้ทรุดโทรมมาก เกรงว่าหากปล่อยไว้จะทำให้รายละเอียดต่างๆหายไป และจะยากในการซ่อมแซมให้เหมือนดังเดิมได้